เปิดแผนฉีดวัคซีนโควิด เข็มที่ 3-4 ไตรมาสแรก 20 ล้านคน

แผนบริการวัคซีนประเทศไทย 2565
ภาพจาก CVC กลางบางซื่อ
อัพเดตข่าว 7 มกราคม 2565 เวลา 15.55

ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขเสนอแผนจัดบริการวัคซีนโควิด-19 ในปี 2565 ต่อศบค.

วันที่ 7 มกราคม 2565 เมื่อเวลา 09.30 น. คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จัดการประชุมครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

โดยศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 ได้เสนอแผนการให้บริการวัคซีน ให้ที่ประชุมพิจารณา ดังนี้

แผนการจัดบริการวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทยในปี 2565

  • ผู้ที่อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นที่ยังไม่เคยรับการฉีดวัคซีน สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนแบบ walk-in ได้ ตามสถานพยาบาลที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร กำหนดไว้
  • ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือผู้ที่เคยติดเชื้อทุกราย จะได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้ใช้ภายใต้คำแนะนำที่มีผลงานทางวิชาการรับรอง
  • กลุ่มเป้าหมายอายุ 5-12 ปี สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง

แนวทางการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 5-11 ขวบ

ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งที่ 10/2564 วันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 ดังนี้

  1. ต้องเป็นวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำหรับการฉีดในเด็กอายุ 5-11 ขวบ ตามขนาดและข้อบ่งใช้ที่กำหนด (Pfizer โดสเด็ก : ฝาสีส้ม)
  2. การตัดสินใจให้เด็กเข้ารับวัคซีน ให้เป็นไปโดยความสมัครใจของผู้ปกครอง
  3. รูปแบบการให้วัคซีน กำหนดให้โรงเรียนเป็นจุดฉีดเป็นหลัก ร่วมกับจุดฉีดที่โรงพยาบาล โดยให้มีการทำความเข้าใจกับผู้ปกครองให้เห็นชอบก่อนให้เด็กเข้ารับวัคซีน
  4. ควรมีการเตรียมพร้อมอย่างรอบคอบ ไม่ควรรีบฉีดวัคซีนจนเกินไป

แนวทางการดำเนินงานตามแผนการจัดบริการวัคซีนปี 2565

1.สร้างกลยุทธ์เพื่อยกระดับความครอบคลุมและเสริมศักยภาพการให้บริการวัคซีนโควิด-19

  • กระจายจุดฉีดให้ทั่วถึงในทุกจังหวัด มีจุดฉีดที่ระดับ รพ.สต./คลินิกเวชกรรม
  • มีวัคซีนพร้อมในทุกพื้นที่ มีคลังวัคซีนประจำเขตสุขภาพ/จังหวัด และ รพ.สต.ทุกแห่ง มีการสำรองวัคซีน AstraZeneca และ Sinovac
  • ประชาชนเข้ารับบริการได้ทันที (Any where, any regimen, any target and any time)
  • เร่งรัดฉีดวัคซีนกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ กลุ่ม 608 และกลุ่มเด็ก
  • ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยในการค้นหากลุ่มที่มีความครอบคลุมวัคซีนเข็มที่ 1 ต่ำ ได้แก่ กลุ่มประชากรที่มิใช้สัญชาติไทยในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก

2.แผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น อย่างน้อย 20 ล้านคน ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2565

  • เข็มที่ 3 ในประชาชนทั่วไป ได้แก่ กลุ่ม 608 เจ้าหน้าที่ด่านหน้า อสม. ผู้ประกันตน ประชาชนทั่วไป
  • เข็มที่ 4 ในบุคลากรทางการแพทย์
  • ผู้มีประวัติติดเชื้อโควิด-19

3.จัดหาวัคซีน Pfizer ขนาดโดสเด็ก จำนวน 10 ล้านโดส เพื่อวางแผนฉีดในเด็กอายุ 5-11 ปี โดยผ่านระบบสถานศึกษา

4.เร่งรัดการขึ้นทะเบียนการฉีดวัคซีนเชื้อตายสำหรับฉีดในกลุ่มเป้าหมายที่อายุต่ำกว่า 18 ปี

ทางด้านนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงเพิ่มเติมถึงแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ในปี 2565 ว่า ล่าสุดมีการให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้ว 105 ล้านโดส โดยในปี 2565 ทางกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคได้เสนอแผน ฉีดให้กับผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไปที่ยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนเลย สามารถ walk-in เข้าไปฉีดได้

2.ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือผู้ที่เคยติดเชื้อทุกราย จะได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้ใช้ และ 3.กลุ่มสุดท้าย กลุ่มเป้าหมายอายุ 5-12 ปี สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง ซึ่งรายละเอียดสามารถดูได้ตามกราฟิกท้ายข่าวนี้