สุรชาติ ขอโอกาสกลับเข้าสภา การุณ เผย เพื่อไทย ให้ 2 แสน นำจับทุจริต

สุรชาติ เทียนทอง
สุรชาติ เทียนทอง

สุรชาติ เทียนทอง ขอกลับเข้าสภา ทำหน้าที่ผู้แทน ใช้เวลา 17 ปีพิสูจน์การกระทำ ด้าน “การุณ โหสกุล” เผยเพื่อไทยให้รางวัลนำจับทุจริต 2 แสน ตนเพิ่มให้อีก 1 แสนบาท

วันที่ 14 มกราคม 2565 ที่ชุมชนเสนานิคม 2 ในการปราศรัยใหญ่ครั้งที่ 1 เพื่อช่วยนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส. เขต 9 หลักสี่ จตุจักร ของพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 มกราคม 2565 นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยหัวข้อ “สุรชาติ ในสายตา เก่ง การุณ” ตอนหนึ่งว่า
หลายๆ คนก่อนเข้ามางานปราศรัย บอกว่ามีข้อมูลพันห้า วันนี้สองพัน ตรงนู้นบอกว่าสามพันและเก็บบัตรประชาชนไปด้วย ตนขอว่าอย่าให้บัตรประชาชน เพราะมีหลายกลโกงมีมากมาย แต่รับเงินหมากาสุรชาติได้หรือไม่

“และ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย มีรางวัลนำจับ ถ้ามีหลักฐานนำไปสู่การดำเนินคดีให้ จะมีรางวัลให้ 2 แสน และตนให้อีก 1 แสน เป็น 3 แสนบาท” นายการุณ กล่าว

จากนั้น นายสุรชาติ ขึ้นปราศรัยใหญ่ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ 17 ปี แห่งความหวัง ว่า เส้นทางชีวิต 17 ปี ผิดหวังมากกว่าสมหวัง บอกตนเองเสมอว่าเพราะเข้าถึงประชาชนไม่พอ เขาถึงไม่รักเรา และวันที่ตนชนะก็บอกตัวเองอยู่เสมอว่าจะยิ่งพยายามทำมากขึ้นไปอีก เพราะกลัวว่าประชาชนจะไม่รักเรา และทุกครั้งตลอดเวลา 17 ปี ที่บอกกับตัวเองว่าพยายามถึงที่สุดแล้ว เป็นร้อยเป็นพันครั้งและยังไม่ได้รับความรักกลับมา ก็มีข้ออ้างเสมอว่ายังเข้าถึงประชาชนไม่พอ

ส.ส.คือความฝันของตน และพี่น้องชาวหลักสี่ ดอนเมือง ทำให้ความฝันผมเป็นจริง แต่มันสั้นเกินไปที่จะทำงานกลับคืนให้ประชาชน เพราะมีการรัฐประหารเมื่อปี 2557 แต่ 7-8 ปีที่ตนไม่มีตำแหน่งใดๆ ใช้เวลาช่วงนี้ ในการค้นหาความหมายที่แท้จริงของคำว่าผู้แทนราษฎร ส.ส.มาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่สมาชิกสภาเป็นใครก็ได้ที่อยู่ถูกที่ ถูกเวลา ถูกพรรค ถูกขั้วอำนาจ ทำวิธีใดก็ได้ให้ได้รับการเลือกตั้ง แล้วใส่สูทเข้าสภา

แต่ผู้แทนราษฎร เป็นคนที่ต้องอยู่กับประชาชนทุกวัน ไม่ใช่ตำแหน่งหน้าที่ แต่คือจิตวิญญาณ ถ้าเรามีหัวใจเป็นผู้แทนฯ ที่แท้จริงจะติดตัวไปจนวันตาย การเมืองของผมไม่ได้ซับซ้อน มีความเชื่อทางการเมืองง่ายๆ และสั้นๆ ถ้าเราไม่ทิ้งประชาชน ประชาชนจะไม่ทิ้งเรา ตนยึดถือมาตลอด

นายสุรชาติ กล่าวว่า การเมืองของตนเริ่มจากให้เกียรติประชาชน ไม่มีเงื่อนไขกับประชาชน ออกไปใช้รับใช้ประชาชนไม่ว่าใส่เสื้อสีอะไร ออกไปทำให้เขารู้ว่าเลือกตน ไม่เลือกตน หรือ ไม่มีโอกาสเลือกตนเลยก็จะทำให้เขาเต็มที่ การเมืองที่พูดน้อยๆ ทำเยอะๆ ตนเดินไปไหนก็แล้วแต่ ใช้เวลา 17 ปี พิสูจน์ด้วยการกระทำตลอด

“วันนี้ไม่อยากผิดหวังแล้ว บอกกับตัวเองเสมอว่าครั้งนี้ต้องชนะให้ได้ ไม่ใช่ชนะเพื่อตนเอง แต่ชนะเพื่อศักดิ์ศรีของคนหลักสี่และจตุจักรให้ได้ การเลือกตั้งครั้งนี้สำหรับผมสำคัญที่สุดในชีวิต ไม่ใช่ว่ากลับไปใส่สูทเข้าสภา แต่เป็นการพิสูจน์ทุกอย่างที่ทำมาทั้งชีวิต ว่าจะคนเดินดินอย่างผม ที่เก็บเกี่ยวทุกคน ทุกชั้น ทุกอุดมการณ์ทางการเมือง เปลี่ยนเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้” นายสุรชาติ กล่าว

นายสุรชาติ กล่าวว่า ฝันอยากเห็นคนไทยทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทรัพยากรอันมีค่าที่สุดของประเทศคือคนไทยทุกคน ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศนี้ คือ ต้องทำให้คนไทยทุกคนอยู่ดีกินดีและมีคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น แต่ผมทำคนเดียวไม่ได้ สิ่งที่ต้องการและโลกที่พวกเราอยากให้เป็น บวกกับศักยภาพและอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทยเราทำได้


ถ้ามีรัฐบาลไหนมาเรียกร้องจิตสำนึกจากประชาชน ประชาชนต้องมีสำนึก ช่วยเหลือกัน สามัคคีกัน ในขณะที่รัฐบาลนั้นไม่สามารถทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีได้ เป็นคำพูดที่ไร้ความรับผิดชอบของรัฐบาล แต่พรรคเพื่อไทย เราเคยทำสำเร็จมาแล้วหลายครั้ง ถ้าชนะการเลือกตั้งจะเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงในสภา ส่วนในพื้นที่ก็จะทำงานเหมือนเดิมทุกประการ