นอกจากสนามเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะแข่งขันกันดุเดือด ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เดินครบ 50 เขต ตั้งแต่เช้าจดค่ำแล้ว ยังมีการเลือกตั้งสมาชิกสภา กทม. (ส.ก.) ที่หาเสียงกันชนิดถึงเนื้อ-ถึงตัว ปูพรมเคาะประตูทุกบ้าน
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ส่ง ส.ก. ครบ 50 เขตในนามกลุ่ม “พลังกรุงเทพ” นำโดย “เสี่ยโต” อภิชัย เตชะอุบล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่สวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ-กุมบังเหียนผู้อำนวยการเลือกตั้ง ส.ก. เป็นงานแรก
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค. 2567
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
ปฏิเสธได้ยากว่า การที่พลังประชารัฐไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ทำให้ผู้สมัคร ส.ก. 50 ชีวิต เสน่ห์ลดลงไปไม่มากก็น้อย ไม่ว่าเหตุผลกลใดที่ ไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ก็ตาม
ทว่า “เสี่ยโต” มองข้ามชอต เก้าอี้ฝ่ายบริหารศาลาว่าการ กทม. “ปักธง” ที่นั่งฝ่ายนิติบัญญัติ
“การที่เราไม่ได้ส่งผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้มีปัญหา ใครเป็นผู้ว่าฯ กทม. เราก็ร่วมงานได้อยู่แล้ว เราก็เป็นฝ่ายตรวจสอบงบประมาณ ปีหนึ่ง 8 หมื่น 9 หมื่นล้าน ผู้ว่าฯ กทม.ไปทำใช้จ่ายถูกต้องหรือเปล่า”
“เงินที่เอาไปใช้จ่ายก็คือเงินภาษีของพี่น้องประชาชนชาว กทม.ทั้งหลาย ฉะนั้น ถึงแม้ว่าเราไม่ได้ส่งผู้ว่าฯ กทม. ก็เลือกเรา ส.ก.เข้าไปมาก ๆ จะได้ช่วยตรวจสอบงบประมาณที่ออกมาว่า ว่าใช้ไปถูกทางหรือเปล่า”
แคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. ทั้งที่สังกัด-ไม่สังกัดพรรคการเมือง อิสระ-ไม่อิสระ ต่างชู “จุดแข็ง” เพื่อปิด “จุดอ่อน” จากการส่ง-ไม่ส่ง ส.ก. แม้กระทั่ง ส่งเฉพาะเขตที่มีโอกาสชนะ-ฮั้วกับพรรคพันธมิตร-ต้นสังกัดเก่า
“เราทำงานได้กับผู้ว่าฯ กทม.ทุกคน เพราะ ส.ก.เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นฝ่ายตรวจสอบโครงการต่าง ๆ ที่ผู้ว่าฯ กทม.เสนอมา แต่เราก็เสนอได้ ผลักดันโครงการบางโครงการที่รับปากกับพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ ก็ลองดูว่าผู้ว่าฯ กทม.เขาจะทำตามที่เราเสนอหรือเปล่า”
หากอนุมานกลยุทธ์เมื่อครั้งเลือกตั้งใหญ่ 24 มีนาคม 2562 พลังประชารัฐ ที่ชู พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี สามารถกวาดเก้าอี้ ส.ส.กทม. 1 โหล เทียบกับการเลือกตั้ง กทม.ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ยังต้องรอการพิสูจน์
ทว่า พรรคคู่แข่งขันฝ่ายซ้าย ด้อยค่า “กระแสนิยม” ในตัว พล.อ.ประยุทธ์ และจะส่งผลต่อยุทธศาสตร์-ฐานเสียง-นโยบายที่เกื้อหนุนและถูกมัดรวมกันอยู่ในแคแร็กเตอร์ ส.ก.กลุ่มพลังกรุงเทพ
“ผมว่า ไม่นะ 8 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ก็มีผลงานออกมาเยอะ ออกมามากกว่าอีกหลาย ๆ รัฐบาล แต่สื่อไม่ค่อยออกไปเท่าไหร่ พี่น้องประชาชนจึงมองไม่เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำอะไรอยู่”
ขณะเดียวกันแคมเปญ “แพ็กคู่” เลือก ส.ก.ไปช่วย ผู้ว่าฯ กทม.ทำงาน-เป็นเนื้อเดียวกัน หรือผู้ว่าฯ กทม.ทำงานได้กับทุก ส.ก.ทุกกลุ่ม-ทุกพรรคการเมือง-ทุกขั้วข้าง
แต่ “เสี่ยโต” คิดต่าง-ไม่คิดว่าการที่พลังประชารัฐไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. จะเป็น “จุดอ่อน” ทำให้โหวตเตอร์ “งดออกเสียง” ให้กับ ส.ก.พลังประชารัฐ ก่อนจะโชว์ “จุดแข็ง”
“ผู้ว่าฯ กทม.จะเลือกใครก็ได้ แต่ ส.ก.ก็เลือกฝั่งตรงข้าม ไม่ให้เป็นทีมเดียวกันหมด เดี๋ยวมันก็ฮั้วกัน อย่างนี้มีประโยชน์อะไร ก็ให้เลือกตรงข้าม จะได้ไปตรวจสอบ ไม่ดีเหรอ”
“ต้องมี check of balance” ผอ.เลือกตั้ง ส.ก.พลังประชารัฐทิ้งท้าย