อุ๊งอิ๊ง ส่งซิก คนกรุงเลือกผู้ว่า กทม.ที่มีคุณภาพ ไม่ขายฝัน ทำงานได้กับทุกฝ่าย

แพทองธาร ส่งซิก 3 ข้อ ให้ชาวคนกรุง เลือกผู้ว่าฯ กทม. จากนโยบายที่ชอบ ไม่ขายฝัน ทำงานได้กับทุกฝ่าย ด้าน “จาตุรนต์” ปลุกแลนด์สไลด์สนาม กทม. จุดเริ่มต้นเปลี่ยนรัฐบาล 

วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า ได้จัดการปราศรัยใหญ่ “อยากใช้เพื่อไทย เลือกเพื่อไทยให้ชนะขาด” รณรงค์เลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทย เพื่อกู้วิกฤตกรุงเทพฯ โดยตัวแทนผู้สมัคร ส.ก.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 50 เขต ได้ทยอยเปิดตัว

ต่อมาในเวลา 20.20 น. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ขึ้นปราศรัยในหัวข้อ ‘แลนด์สไลด์กรุงเทพฯ แลนด์สไลด์ทั้งประเทศ’ ตลอดมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย เราชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นมาโดยตลอด สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยมีความผูกพันกับประชาชนอย่างแน่นแฟ้น และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

หลังจากรัฐประหารปี 2557 ได้มีการปลดผู้ว่าฯ กทม. ที่มาจากการเลือกตั้ง และนำ ส.ก.ที่มาจากการแต่งตั้งเข้ามารับตำแหน่ง คนเหล่านี้จึงไม่ได้สนใจไยดีต่อความทุกข์ร้อนของประชาชน เป็นผลของการที่เผด็จการมาแทรกแซงการปกครองส่วนท้องถิ่น ปัญหาต่างๆ ล้วนไม่ได้รับการแก้ไข นำมาสู่นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่คือการเปลี่ยนคำว่าน้ำท่วม มาเป็นคำว่า ‘น้ำรอระบาย’

กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีศักยภาพรอการพัฒนา เพื่อเป็นจุดมุ่งหมายของคนทั่วโลก และเมืองแห่งความปลอดภัย แต่ที่สำคัญต้องมีคนจากประชาชนเข้าไปกำกับดูแล ส่งเสริมคนรากหญ้าให้เป็นเจ้าของกรุงเทพฯ ไปด้วยกัน ซึ่งเป็นบทบาทของผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ที่มาจากการเลือกตั้ง แก้ไขปัญหาด้วยกลไกประชาธิปไตย จะสามารถเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเทียบกันไม่ได้ 

จาตุรนต์ กล่าวว่า ประเทศนี้อยู่ด้วยการตีความไปหมด ตรงๆ สั้นๆ ตรงไปตรงมาที่สุด ในขณะที่พรรคเพื่อไทยกำลังพิจารณาส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ มีข้อสรุปไม่ส่งจะเป็นการ เพราะ แต่เราพูดด้วยความจริงใจ แบบนี้ดีกับประชาชนชาว กทม.มากที่สุด 

ปัญหาต่อมาคือวันนี้เขาให้มาพูดเรื่อง ส.ก. ดังนั้น ไม่เชียร์ผู้ว่า กทม.อยู่แล้ว แต่พอมีพล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับสนธิ ลิ้มทองกุล  มีถาวร เสนเนียม และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอาใจช่วยผู้สมัครอยู่ พอพวกนี้มาเชียร์กันแบบนี้ไม่กล้าเชียร์ใครแข่ง เพราะพวกนี้เชียร์แล้วจะทำให้คนที่ลงแข่งยิ่งแพ้ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เขากำลังจะทำให้ กทม.เจริญ พัฒนา แต่คนกลุ่มนี้มาเชียร์คือคนชัตดาวน์ กทม. ปิดสนามบิน ปิดประเทศ มาเชียร์แล้วใครเขาจะเลือก 

เมื่อเป็นอย่างนี้ผู้ว่าฯ กทม.ก็ไม่เชียร์ แล้วคำถามสำคัญคือ พี่น้องชาว กทม.จะไปกำกับผู้ว่าฯ กทม.ได้อย่างไร พูดแทนพรรคเพื่อไทย เมื่อไม่มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่อไทยจะไม่ไปคิดบงการ ผู้ว่าฯ กทม.คนใดทั้งสิ้น นโยบายที่เสนอมาทำได้ ถ้าเชื่อในระบอบประชาธิปไตย ถ้าเรามี ส.ก.มากพอที่จะเข้าใจปัญหาประชาชน เข้าไปกำกับ เอานโยบายไปเจรจากับผู้ว่าฯ กทม. คือคนที่นั่งอยู่บนนี้ ส.ก.พรรคเพื่อไทย 

เป็นการให้สัญญากับประชาชนไว้ จะไม่คิดไปทำเรื่องลึกลับซับซ้อน ทำอะไรแอบอยู่เบื้องหลังประชาชน ทำตรงไปตรงมา กำกับผู้ว่าฯ กทม.โดย ส.ก.ถูกต้องทุกอย่าง ดังนั้น การที่ประชาชนจะไปกำกับผู้ว่าฯ กทม.ถ้าได้ไป 5 คน 10 คนทำไม่ได้ ต้องได้ 25 คนขึ้นไปที่เรียกว่าแลนด์สไลด์ 

อีกแลนด์สไลด์คือ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในขณะที่คนอยากเปลี่ยนรัฐบาล ถ้าพรรคเพื่อไทยมี ส.ก.จำนวนมากเชื่อมโยงกับประชาชนอย่างใกล้ชิด ก็เป็นโอกาสที่เชื่อมโยงกับประชาชนทั่วประเทศเพื่อเปลี่ยนรัฐบาล การเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งหน้าคือการเลือกตั้งแลนด์สไลด์ครั้งที่สอง

“เป็นโอกาสทองของพี่น้อง กทม. ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสที่คืบคลานต่อไปยังการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมาถึง ไปลงเลือก ส.ก.กทม.พรรคเพื่อไทย เพื่อเปลี่ยน กทม.และเปลี่ยนประเทศด้วยการเปลี่ยนรัฐบาล เราจะร่วมกับชาว กทม.เปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้น และเปลี่ยนประเทศไทยให้พ้นวิกฤตให้ได้” นายจาตุรนต์ กล่าว

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยบนเวทีว่า อยากแสดงความยินดีกับชาว กทม.ที่ไม่มีเลือกตั้ง ส.ก.มา 12 ปี และผู้ว่าฯ กทม. 8 ปี แล้ว มีสิ่งหนึ่งที่อยากสื่อกับ ส.ก. มาให้กำลังใจ เพราะที่ผ่านมาได้เจอ ส.ก.หลายๆ เขต และทุกคนร่วมกันทำงานหนักมากๆ เพื่อผลักดันนโยบายพรรคเพื่อไทยให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ทุกคนทำงานเหนื่อยมาก ทั้งที่ยังไม่ได้เลือกตั้งด้วยซ้ำ 

ได้ช่วย ส.ก.หาเสียง การลงพื้นที่ไม่ได้ง่าย เพราะต้องใช้แรงกาย แรงใจ แก้ปัญหาให้ประชาชน เราต้องเลือกเพื่อไทยให้เยอะๆ เพื่อให้ ส.ก.พรรคเพื่อไทย มาทำงานให้ประชาชน รับใช้ประชาชนชาว กทม. เลือกให้ได้มากกว่าครึ่ง กว่า 9 ปี ที่ข้าวของแพง ตัวของคนทำมาค้าขาย ไม่ขึ้นราคาของก็คงไม่ได้ ถ้าเขาไม่ขึ้นราคาของก็ขายของขาดทุน แต่เราในฐานะคนซื้อ ก็รู้สึกว่าข้าวของแพงขึ้น เศรษฐกิจก็แย่ลงทุกที ต้องเลือกเพื่อไทยเข้าไปแก้ปัญหา 

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ส่วนผู้ว่าฯ กทม. ตนใช้หลักการ 1.นโยบายที่เราชอบ ที่เราคิดว่าจะแก้ปัญหาของชาว กทม.ได้จริง 2.คนที่มีความตั้งใจทำงาน พบปะพี่น้อง ตั้งใจพัฒนาเข้ามา กทม.ให้ดีขึ้นจริงจัง 3.จะไม่เลือกคนที่แค่เอานโยบายขึ้นมาขายฝัน ขายฝันก็มีแต่ในฝัน มันไม่เกิดขึ้นจริง แต่พรรคเพื่อไทยเน้นอยู่เสมออะไรที่สัญญากับประชาชนไป ต้องทำให้ได้ นี่คือหลักการเลือกผู้ว่าฯ ของตน 

“ขอให้มีคณะทำงานของพรรคเพื่อไทย เข้าไปช่วยผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้น ขอให้ได้ผู้ว่าฯ กทม.ที่มีคุณภาพ ทำงานร่วมกันได้ทุกฝ่าย” น.ส.แพทองธาร กล่าว