มิ่งขวัญ ตั้งพรรคโอกาสไทย ปฏิเสธร่วมวงธรรมนัส กั๊กหนุน ประยุทธ์

มิ่งขวัญ ทิ้งทุกพรรค ย้ายเข้าพลังประชารัฐ

มิ่งขวัญ ประกาศตั้งพรรคการเมือง อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ตอบไม่ตรงคำถามหนุน นายกฯ ประยุทธ์หรือไม่

วันที่ 8 มิถุนายน 2565 ที่โรงแรม เซนทราแกรนด์แอท เซ็นทรัลเวิลด์ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ แถลงเปิดตัวพรรคใหม่ชื่อพรรคโอกาสไทย พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ไปพรรคเศรษฐกิจไทย ว่า ตนได้ยื่นใบลาออกจากการเป็น ส.ส. 17 กุมภาพันธ์ ก่อนที่ตนยื่นใบลาออก

ตนได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า 1.ยังคงดำเนินการทางการเมืองและไปเตรียมการเลือกตั้งในครั้งต่อไป 2.ตนอยากย้ำว่า ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่าการที่ตนลาออกจาก ส.ส.และเป็นบุคคลภายนอก ได้ทำงานร่วมกับประชาชนกลุ่มหนึ่งพอสมควร งานบางงานไม่ใช่เพิ่งเริ่มทำใน 2-3 เดือนนี้ บางงานตนใช้เวลาเตรียมงานเกือบ 3 ปี เต็ม

ช่วงที่ตนเงียบหายไป 2-3 เดือน มีนักการเมืองต่างพรรคติดต่อมา ต้องขอบคุณไมตรีจิตอย่างดีเยี่ยม ซึ่งการคุยระหว่างพรรคการเมือง กับ ตัวบุคคลนั้น ตนอยู่ในสถานะคนธรรมดา คุยกับใครก็คุยได้ แต่ไม่ได้ให้ข่าวว่าไปอยู่พรรคไหน อย่างไรก็ตาม ตนมีเจตนารมณ์ในการตั้งพรรคขึ้นมาใหม่

วันนี้คนไทยทั้งประเทศกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงที่สุด ปี 40 – 44 เราเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง คนที่กระเทือนอยู่บนส่วนหัว แต่คนเกินกว่า 85% ไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เฉกเช่นปี 62-64 เรามีรัฐบาล การบริหารจัดการเป็นอย่างไร เศรษฐกิจดีหรือไม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งโลกเจอโควิด-19 เหมือนกัน 2 ปีกว่า นอกจากนี้ ยังเกิดสงครามระหว่าง 2 ประเทศ ส่งผลกระทบต่อคนไทยทั้งประเทศ ราคาน้ำมันสูงขึ้น แก๊สหุงต้มก็ขึ้นราคา ค่าไฟฟ้าก็ขึ้น ค่าครองชีพ หลายบริษัท หลายหน่วยงานต้องปิดตัวเองลง จากเศรษฐกิจที่เราเจอจนอ่วม

ตนจึงจะมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจจากการปฏิบัติงานจริง เมื่อเจอปัญหา ก็ต้องวางยุทธศาสตร์หรือวิสัยทัศน์ในการแก้ แก้คือปฏิบัติการ แม้บอกว่ามีวิสัยทัศน์ดี ปฏิบัติการดี แต่ผลลัพธ์คือคำตอบ ตอนจบของเรื่อง ผมเป็นอดีตรองนายกฯ มาก่อน ผมได้ดูแลโดยตรงคือกระทรวงพาณิชย์ แรงงาน ต่างประเทศ และอีกหลายกระทรวง ถ้าเหตุการณ์เป็นแบบสมัยนั้นน้ำมัน 150 เหรียญต่อบาร์เรล ตนเคยเจอมาแล้ว

ถ้าตนมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ได้ดูแลเศรษฐกิจโดยตรงตนจะช่วย ระบบเศรษฐกิจใหม่จะถูกจัดการ พูดไว้หลายอย่างแต่ไม่มีโอกาสได้ทำ วันนี้เป็นการประกาศเจตนารมณ์ว่ายังคงแน่วแน่มุ่งไปข้างหน้า ไม่ว่าเป็นเศรษฐกิจระดับมหภาค ทั้งการส่งออก การนำเข้า หรือ เศรษฐกิจหน่วยเล็กๆ ตนจึงจะทำเศรษฐกิจหน่วยเล็กๆ ก่อน

“เตรียมการตั้งพรรคการเมือง และพรรคการเมืองนั้น ชื่อว่าโอกาสไทย เมื่อเราบอกว่าคนไทยจะมีความสุข ได้อยู่เย็นเป็นสุข กินอิ่ม นอนหลับ และทุกอย่าง เมื่อปัจจัย 4 เรามีอยู่ครบ เราควรได้รับโอกาส จึงขอตั้งพรรคโอกาสไทย โอกาสของคนไทยทุกคน” นายมิ่งขวัญ กล่าว

นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า โลโก้ที่ใช้สีเขียว ที่ดูสดเป็นพิเศษเพราะเราอยากให้คนไทยได้ตระหนักว่าไม่ว่าคิดอย่างไร ประเทศนี้ศักยภาพพื้นฐานของคนไทยคือการเกษตร ส่วนสีชมพู คือ เป็นความทันสมัย คนรุ่นใหม่ เจเนอเรชั่นที่แตกต่าง และทันสมัย เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าสนใจแนวคิดอุดมการณ์ และไปในทางเดียวกัน ผู้ใหญ่ คนหนุ่มสาว ที่มีอุดมการณ์เดียวกันเข้ามาเป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊ก แล้วเราจะได้รังสรรค์โอกาสต่างๆ ความคิดต่างๆ ที่เกิดขึ้น

ส่วนกรณีที่มีข่าวไปร่วมงานกับพรรคเศรษฐกิจไทยที่มีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นแกนนำ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่า ตนคุยกับนักการเมืองต่าง ๆ อยู่แล้ว แต่ตนก็บอกว่าจะทำพรรคการเมือง วันนี้เป็นคำตอบแล้วว่า ตนตั้งพรรคการเมือง

เมื่อถามว่า จุดยืนทางการเมืองพรรคโอกาสไทย จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ นายมิ่งขวัญกล่าวว่า “ยังไม่ทันตั้งพรรคเลย ผมไม่รู้นะ จะเดินตรงไปแบบที่ผมทำ ถ้าแบ่งจุดยืน จุดยืนของพรรคคือประชาธิปไตย”

ถามย้ำว่า ไม่อยู่ข้าง พล.อ.ประยุทธ์ ใช่หรือไม่ นายมิ่งขวัญ ตอบย้อนผู้สื่อข่าวว่า “ก็ชอบอย่างเนี้ย วันนี้ผมอยากให้คนได้ข้อมูลเหล่านี้ ถ้าถามกลับว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้สภานี้อยู่ถึงเมื่อไหร่ ไม่มีใครตอบได้ ผมยังไม่รู้เลย”

“ถ้าเกิดแบ่งว่า 2 ฝั่ง ผมก็ประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่อย่าไปพาดหัวให้ผมทะเลาะอะไรกับเขาเลย วันนี้ขอสงบ สันติเสียหน่อย เพิ่งปฐมฤกษ์ Episode 1 เที่ยวนี้ผมเตรียมตัวเต็มที่ตั้งแต่ต้น”

ส่วนจำนวน ส.ส.ที่ตั้งเป้าไว้นั้น นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า “ถ้าถามผมก็อยากได้เยอะ แต่ขอดูนิดหนึ่ง นโยบายบางอย่างเปิดเร็วไม่ได้

เมื่อถามว่า จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือหัวหน้าพรรค หรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า “เป็นครับ ทั้งสองอย่าง”

เมื่อถามว่า เหตุผลที่ไม่ร่วมกับพรรคอื่นเพราะอะไร นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า เพราะเจตนารมณ์โดยตรง ตนจะทำเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก บางคนบอกคนจน รากหญ้า ฐานราก แต่ทุกคนคือคนไทยต้องได้รับการทนุถนอมเป็นพิเศษ เป้าประสงค์ตนจะมุ่งไปแบบนี้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เส้นทางการเมืองของนายมิ่งขวัญ เริ่มในยุครัฐบาลพรรคพลังประชาชน 2550 เมื่อได้รับการทาบทามให้เป็นหัวหน้าคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ โดยได้รับเลือกเป็น ส.ส.ระบบสัดส่วน เขต 6 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 6 กุมภาพันธ์

ในรัฐบาลพรรคพลังประชาชน นายมิ่งขวัญ นั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และ รมว.พาณิชย์ ขยับมาเป็น รมว.อุตสาหกรรม ก่อนจะพ้นจากตำแหน่ง เพราะศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน เมื่อ 2 ธันวาคม ปี 2551

จากนั้น พรรคเพื่อไทยก่อตั้งขึ้นแต่มีสถานะเป็นฝ่ายค้าน และนายมิ่งขวัญ ถูกเลือกให้เป็น ผู้นำอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ไม่ใช่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตาม ก็เกิดความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทยอย่างรุนแรง ระหว่าง กลุ่มที่ยึดโยงอยู่กับตระกูลชินวัตร กับ ส.ส.ที่ต้องการปฏิรูปพรรค พร้อมสนับสนุน นายมิ่งขวัญเป็นหัวหน้าพรรค

แต่แล้วพรรคเพื่อไทยก็ดัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นผู้นำพรรค และเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนนายมิ่งขวัญ กลายเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 6 ของพรรค และถูกลดบทบาทอย่างต่อเนื่อง ในการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 นายมิ่งขวัญ ลาออกจากพรรคเพื่อไทยอย่างเงียบๆ

กระทั่ง ในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 มาถึงนายมิ่งขวัญ ได้ประกาศร่วมงานกับพรรคเศรษฐกิจไทย พา ส.ส.เข้าสภาถึง 6 คน ประกาศเป็น ฝ่ายค้านร่วมกับพรรคเพื่อไทย และนายมิ่งขวัญถือโอกาสครบรอบ 5 ปีรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ลาออกจากหัวหน้าพรรค

ในเวลาต่อมา ส.ส.ในพรรคเศรษฐกิจใหม่ ย้ายฝั่งไปสนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหลือนายมิ่งขวัญเพียงคนเดียวที่อยู่กับฝ่ายค้าน กระทั่ง 17 กุมภาพันธ์ 2565 นายมิ่งขวัญประกาศลาออกจากพรรคเศรษฐกิจไทย กลางสภา แล้วจึงประกาศตั้งพรรคโอกาสไทย ในวันนี้