6 ข้อแตกต่างระหว่างการลงทุนในหุ้นนอกตลาด-จดทะเบียนในตลาด

บริษัทเชียงใหม่เข้าตลาดหุ้น

6 ข้อแตกต่างระหว่างการลงทุนในหุ้นนอกตลาดและหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ระดับโลก Schroders

นักลงทุนรายบุคคลรายใหม่จำนวนมาก ให้ความสนใจในหุ้นของบริษัทที่อยู่นอกตลาด หรือ Private Equity มากขึ้น  โดยโรรีย์ เบตแมน Co-Head of Investment and Head of Equities และ ทิม ครีด Head of Private Equity จากบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ระดับโลก Schroders ได้อธิบายความแตกต่างที่สำคัญบางประการระหว่างการลงทุนในหุ้นบริษัทที่อยู่นอกตลาดและหุ้นที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

ซึ่งมีจุดแตกต่างกัน 6 ประการด้วยกัน ได้แก่

1. ความเป็นเจ้าของ

หุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คือ หุ้นของบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนซื้อขายอย่างเปิดเผยในตลาดหลักทรัพย์โดยมีนักลงทุนเป็นจำนวนมากมีฐานะเป็นเจ้าของ ผ่านการซื้อขายเปลี่ยนมือกันในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีสภาพคล่องสูงสามารถเปลี่ยนมือได้ง่ายทุกวัน หรือแม้กระทั่งในระหว่างวันก็สามารถทำได้
ในทางตรงกันข้าม Private Equity หรือหุ้นของบริษัทนอกตลาด มักจะเป็นหุ้นที่โดยทั่วไปถือครองโดยกลุ่มบุคคล หรือครอบครัวหรือบริษัทที่ทำหน้าที่บริหารหุ้นนอกตลาด (Private Equity Firm)

โดยในช่วงที่ผ่านมา Private Equity Firm ได้เข้าซื้อบริษัทต่างๆเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างมาก โดย Private Equity Firm ดังกล่าว อาจได้รับการสนับสนุนเงินลงทุนจากกองทุนบำเหน็จบำนาญเงินลงทุนของบริษัทประกัน กองทุนเพื่อความมั่งคั่ง และมูลนิธิ และนักลงทุนรายย่อยบุคคลทั่วไป ทั้งนี้บริษัทส่วนใหญ่ทั่วโลกมักจะอยู่ในรูปของบริษัทเอกชนหรือบริษัทที่หุ้นอยู่นอกตลาดหลักทรัพย์

2. การเข้าถึงข้อมูล

หุ้นของบริษัทมหาชนซึ่งมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ต้องจัดทำข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญเกี่ยวกับบริษัทต่อสาธารณะโดยทั่วไปเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีและข้อกำหนดของหน่วยงานที่กำกับดูแล อาทิเช่น กลต.ในขณะที่บริษัทเอกชนไม่มีข้อกำหนดในการเปิดเผยข้อมูลทางกฎหมายดังกล่าว

Advertisment

แม้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเอกชนอาจไม่สามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะ แต่หุ้นส่วนที่ไม่จำกัดความรับผิดชอบ (General Partner – GP)และหุ้นส่วนที่จำกัดความรับผิดชอบของธุรกิจ (Limited Partner – LP)* จะสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับบริษัทได้โดยข้อดีของการที่ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดต่อสาธารณะคือบริษัทเอกชนสามารถทุ่มเทเวลาและทรัพยากรของตนไปกับการดำเนินธุรกิจแทนการปฏิบัติตามข้อกำหนการรายงานตามกฎระเบียบ

*หุ้นส่วนที่ไม่จำกัดความรับผิดชอบ (GP) คือผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่รับผิดชอบในการจัดการกองทุนในขณะที่หุ้นส่วนที่จำกัดความรับผิดชอบ (LP) คือนักลงทุนภายนอกที่ให้เงินทุนสำหรับการลงทุนส่วนบุคคล

Advertisment

3. การมีส่วนร่วมของนักลงทุน

ในฐานะนักลงทุนของบริษัทจดทะเบียน นักลงทุนสามารถเลือกที่จะถือหุ้นเฉยๆแล้วรอรับผลตอบแทนจากเงินลุงทุนโดยไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆต่อการบริหารหรือเลือกที่จะมีส่วนร่วมผ่านการแสดงออกผ่านที่ประชุมผู้ถือหุ้น ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็นหรือการออกเสียงโหวตต่างๆตามมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบริษัทที่เข้าไปร่วมลงทุนก็ได้โดยที่ชโรเดอรส์ เราให้ความสำคัญกับบทบาทผู้ลงทุนที่มีส่วนร่วม หรือ Active Onwer อย่างจริงจังและใช้เสียงของเราในฐานะผู้ถือหุ้นที่มีความรับผิดชอบ เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจที่เราลงทุนได้มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนที่สุด

สำหรับหุ้นนอกตลาด ซึ่งผู้ถือหุ้นมักจะกระจุกอยู่ในกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เพียงไม่กี่รายทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสมากขึ้นในการเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในฐานะผู้ถือหุ้น ซึ่งโดยมักจะมีความใกล้ชิดกับธุรกิจและสามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ หรือการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งรวมไปถึงการมีส่วนร่วมสร้างแผนธุรกิจร่วมกับผู้บริหารในขณะที่เมื่อเทียบกับนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ผู้ถือหุ้นรายบุคคลมักจะเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นส่วนน้อยทำให้การมีส่วนร่วมของนักลงทุนในบริษัทจดทะเบียนจะน้อยกว่าบริษัทเอกชน

4. วิธีการประเมินมูลค่า

การลงทุนโดยตรงในหุ้นบริษัทเอกชนจะมีการประเมินมูลค่าเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส
วิธีการประเมินมูลค่าจะขึ้นอยู่กับแนวทางใดแนวทางหนึ่งจากสามแนวทางด้านล่างหรือผสมผสานกันก็ได้

  • Market Approach: โดยมีการประเมินราคาโดยอ้างอิงราคาตลาดของบริษัทที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน โดยใช้อัตราส่วน P/E
    หรือ Price to Earning เป็นตัวประเมินราคา
  • Income Approach: ประเมินมูลค่าโดยคำนึงถึงกระแสเงินสด และกำไรที่บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างได้
  • Milestone Approach หรือ Event-Based Approach เป็นวิธีประเมินมูลค่าโดยอาศัยเหตุการณ์ต่างๆเข้ามาประกอบซึ่งโดยปกติมักใช้สำหรับบริษัทเกิดใหม่ที่ยังไม่สามารถสร้างรายได้หรือกระแสเงินสดในระยะเวลาอันใกล้

ในทางตรงกันข้าม หุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะมีราคาตลาดซึ่งถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทานในตลาดโดยสามารถค้นหาข้อมูลของราคาตลาดได้โดยง่าย โดยในกรณีที่หากมีนักลงทุนจำนวนมากขายหุ้น ราคาก็จะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในทางตรงกันข้ามในกรณีที่มีผู้ซื้อหุ้นจำนวนมากราคาหุ้นก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้น

5. สภาพคล่อง

หุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ถือเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างมีสภาพคล่อง เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วนักลงทุนสามารถซื้อและขายหุ้นได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถเปลี่ยนสภาพจากหุ้นเป็นเงินสดได้ค่อนข้างง่ายดาย

ในทางตรงกันข้าม หุ้นนอกตลาด มีสภาพคล่องที่ต่ำกว่า เพราะไม่สามารถทำการซื้อขายได้ทุกวันเหมือนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อย่างไรก็ดี เนื่องจากห้นนอกตลาดได้รับความนิยม และมีขนาดตลาดที่ใหญ่เพิ่มขึ้นทำให้มีตลาดรองที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับการลงทุนในหุ้นนอกตลาดเหล่านี้ทำให้การซื้อขายเปลี่ยนมือของหุ้นนอกตลาดทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะจำกัดเฉพาะการซื้อขายเปลี่ยนมือผ่านผู้จัดการกองทุน

นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นนอกตลาด เช่น การเปิดให้มีการซื้อขายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาทิเช่นทุกไตรมาส หรือทุกปี เป็นต้น ซึ่งทำให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่อาจจำเป็นต้องถอนเงินก่อนครบกำหนดระยะเวลาการลงทุน

6. ความสะดวกในการเข้าถึง

การซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นกระบวนการที่ค่อนข้างง่าย เนื่องจากมีแพลตฟอร์มมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกแม้แต่นักลงทุนที่ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถซื้อและขายหุ้นได้อย่างง่ายดาย แม้ว่านักลงทุนทั่วไปจะเข้าถึงการลงทุนในหุ้นนอกตลาดหุ้นได้ยากกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นก็ตาม

แต่ปัจจุบันก็ถือเป็นเรื่องง่ายขึ้นจากกฎระเบียบที่ผ่อนปรนขึ้นและการเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์ใหม่ ตัวอย่างเช่น กองทุน European Long-Term Investment Fund (ELTIF) เป็นกองทุนรวมการลงทุนประเภทหนึ่ง
ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยที่มีความเชี่ยวชาญสามารถเข้าถึงการลงทุนในหลักทรัพย์นอกตลาดได้

โดยทั่วไปกองทุนประเภทนี้จะมีการเรียกเงินลงทุน (capital call) ที่มีความถี่น้อยลงกว่าการลงทุนในหุ้นนอกตลาดทั่วไปมีอายุการลงทุนที่สั้นลง การรายงานภาษีที่ง่ายขึ้น ซึ่งออกแบบมาสำหรับนักลงทุนประเภทบุคคล
และมีจำนวนเงินลงทุนแรกเข้าขั้นต่ำที่น้อยกว่าเดิม Capital call คือเมื่อผู้จัดการกองทุนเรียกร้องให้นักลงทุนของกองทุน จัดหาเงินทุนเพื่อลงทุนและปฏิบัติตามภาระผูกพันของกองทุน เช่นค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมต่างๆ ฯลฯ