SCG ทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ผู้นำนวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า

SCG

โลกยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสภาพแวดล้อมและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต โดยเฉพาะในสังคมเมือง ซึ่งที่อยู่อาศัยมีข้อจำกัดมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีมากขึ้น ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกและนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการตอบสนองไลฟ์สไตล์และการดำเนินชีวิตอย่างไม่หยุดยั้ง

เช่นเดียวกับ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ผู้นำโซลูชั่นและนวัตกรรมที่อยู่อาศัย ที่มุ่งพัฒนานวัตกรรมแห่งอนาคต ให้ตรงกับความต้องการใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ชีวิตอย่างประหยัด ปลอดภัย สะดวกสบาย และที่สำคัญคือ “รักษ์โลก” ไปพร้อม ๆ กัน

และเพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสสัมผัสนวัตกรรมสุดล้ำแห่งอนาคต SCG จึงได้เผยโฉมโซลูชั่นใหม่ล่าสุด ซึ่งจัดแสดงในนิทรรศการ “SCG : The Next Chapter” โดยแบ่งออกเป็นโซลูชั่นด้านต่าง ๆ ที่สำคัญมากถึง 6 ด้านด้วยกัน

SCG

ความก้าวล้ำของนวัตกรรม “SCG : The Next Chapter” เริ่มจาก “โซลูชั่นด้านพลังงานสะอาดครบวงจร” (energy transition solutions) โดย SCG มุ่งมั่นที่จะให้ทุกบ้านเข้าถึงพลังงานสะอาดได้สะดวก และคุ้มค่าด้วยการผลิตหลังคาโซลาร์รูฟ รับประกันสูงสุดมากถึง 25 ปี หมดห่วงเรื่องหลังคารั่วซึม ด้วยนวัตกรรม solar fix ที่ติดตั้งโซลาร์ได้แบบไม่ต้องเจาะหลังคา พร้อมมีระบบ hybrid กักเก็บไฟไว้ในแบตเตอรี่ เพื่อดึงมาใช้ในเวลากลางคืนได้อย่างไม่ติดขัด

ทั้งนี้ นวัตกรรมโซลาร์รูฟที่เหมาะสมจะส่งผลดีทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะในด้านการลดพลังงาน และในอนาคตยังจะสามารถขายไฟคืนเข้าระบบให้แก่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้อีกด้วย

ส่วนนิคมอุตสาหกรรม โรงงาน หรือหมู่บ้านจัดสรรที่ใช้ไฟในปริมาณมากก็มี smart grid เครือข่ายอัจฉริยะจัดการพลังงานสะอาด ให้บริการตั้งแต่ขออนุญาต ติดตั้ง บำรุงรักษา จนถึงซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดได้ง่ายดาย บนแพลตฟอร์มเสมือนจริง ช่วยทั้งธุรกิจและรักษ์โลกไปพร้อมกัน

SCG

โซนที่สอง โซลูชั่นด้านสุขภาพและการแพทย์ (health and medical solutions) ที่ SCG ได้มุ่งมั่นขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ (medical supplies and labware) กว่า 15,000 รายการ โดย SCGP เข้าถือหุ้น Deltalab ประเทศสเปน อาทิ Deltaswab ที่เก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจจากร่างกาย และ Cryoinstant หลอดน้ำยาสำหรับเก็บรักษาตัวอย่างเชื้อด้วยความเย็น

นอกจากนี้ยังมีเม็ดพลาสติกเพื่อการแพทย์ SCGC PP และ PVC สายและถุงน้ำเกลือ ถุงเลือด รวมถึงโซลูชั่นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย อาทิ รถเข็นจ่ายยาอัจฉริยะ ถังทิ้งเข็มฉีดยา รถเข็นผู้ป่วย แคปซูลขนส่งผู้ป่วยทางอากาศ และหน้ากากอนามัยภายใต้แบรนด์ VAROGARD

อีกนวัตกรรมที่ SCG ให้ความสำคัญ ก็คือ โซลูชั่นด้านดิจิทัลโลจิสติกส์ครบวงจร (digital logistics) เป็นบริการขนส่งและซัพพลายเชนครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดย “SCGJWD” ธุรกิจที่เกิดจากการควบรวมระหว่าง SCG Logistic และ JWD ซึ่งสามารถให้บริการทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ขนส่งสินค้าได้อย่างหลากหลาย ทั้งทางบก เรือ ราง อากาศ ทั้งยังรองรับสินค้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษได้ อาทิ วัคซีน ยา งานศิลปะมูลค่าสูง รถยนต์ อาหารแช่แข็ง สินค้าอันตราย พร้อมด้วยเครือข่ายที่เชื่อมต่ออาเซียนเข้าด้วยกัน รวมทั้งขยายขอบข่ายด้านโลจิสติกส์ออกไปยังประเทศจีน

 

SCG

 

นอกจากเรื่องพลังงานสะอาดครบวงจรที่มีการนำเสนอในโซนแรก อีกโซนหนึ่งของนิทรรศการที่นำเทรนด์ไม่แพ้กันก็คือ โซลูชั่นด้านนวัตกรรมกรีน (green solutions) โดย SCG มีเทคโนโลยีก่อสร้างครบวงจร เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ตอบโจทย์นวัตกรรมกรีน อย่าง CPAC Green Solution ที่ช่วยยกระดับวงการก่อสร้าง ทำให้ก่อสร้างเสร็จไว ลดวัสดุเหลือทิ้ง และประหยัดต้นทุนแรงงาน อาทิ CPAC Drone Solution, CPAC BIM และ CPAC 3D Printing

ที่สำคัญภายในนิทรรศการยังโชว์ไฮไลต์สำคัญ อย่าง CPAC Ultra Bridge Solution นวัตกรรมก่อสร้างงานสะพานด้วยคอนกรีตสมรรถนะสูงจากการนำเทคโนโลยี UHPC (Ultra High Performance Concrete) มาใช้ในการก่อสร้าง สามารถรองรับแรงได้สูง โดยไม่ต้องเสริมเหล็กในการสร้างคานสะพาน มีช่วงที่บางที่สุดเพียง 30 ซม. และมีพื้นสะพานหนาเพียง 2.5 ซม. ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมการก่อสร้างสะพานที่บางที่สุดและแข็งแรง

ทั้งยังตอบโจทย์แนวทางด้าน low carbon construction ด้วยนวัตกรรมงานโครงสร้างจากวัสดุคอนกรีตสมรรถนะสูง ร่วมกับเทคโนโลยีการออกแบบโครงสร้างแบบใหม่ ทำให้สามารถลดขนาดโครงสร้างลงได้มากกว่า 20% ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อม เหมาะกับการใช้งานก่อสร้างโครงสร้างที่ต้องการรับแรงสูง

จึงนับเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์คนรักษ์โลกอย่างมาก

ไฮไลต์ของนวัตกรรม ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ต้องมาพร้อมความสะดวกสบายสูงสุด เราจึงได้เห็น โซลูชั่นด้านสมาร์ทลิฟวิ่ง (smart living solutions) ที่ SCG ออกแบบมาเพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวก สบาย สุขภาพดี โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทำงานร่วมกันผ่าน IOT อย่างโซลูชั่นเพื่ออาคารประหยัดพลังงานและอากาศบริสุทธิ์ ที่มาพร้อมด้วยเทคโนโลยี SCG Bi-ion ระบบไอออนกำจัดเชื้อโรคในอากาศ ทั้งแบคทีเรียและไวรัส รวมถึงตระกูลโคโรนาได้สูงสุดถึง 99% ทันทีที่เปิดใช้เครื่องปรับอากาศ รวมถึงช่วยลดฝุ่น PM 10-PM 2.5

นอกจากนี้ ยังมี SCG Air Pollution เครื่องกรองอากาศที่กรองอากาศได้ถึง 5 ชั้น ทั้งในส่วนของ PM 2.5 และเชื้อแบคทีเรีย โดยต้องมีการเจาะในบ้านและนำอากาศจากด้านนอกเข้ามาในเครื่องนี้ และกรองก่อนที่จะเข้ามาในบ้าน ซึ่งต่างจากเครื่องกรองอากาศและเครื่องฟอกอากาศทั่วไปตรงที่นำมาตั้ง เสียบปลั๊ก แล้วใช้ได้เลย

เครื่องกรองอากาศและเครื่องฟอกอากาศทั่วไปจะกรองอากาศในบ้าน แล้วอากาศในบ้านก็ยังวนอยู่ในนั้น แต่นวัตกรรมของ SCG นี้จะช่วยเติมออกซิเจนใหม่ ๆ เข้ามา ก็คือแม้อากาศข้างนอกจะไม่ดี แต่เมื่ออากาศผ่านเครื่องนี้ก็จะกรองอากาศ 5 ชั้น ทำให้อากาศบริสุทธิ์ขึ้น นับเป็นนวัตกรรม active air quality ที่ทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ หรือแพ้อากาศ

SCG

รวมถึงยังมี SCG HVAC Air Scrubber นวัตกรรมบำบัดอากาศเสีย พร้อมลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศ ให้คนในอาคารใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ

ขณะเดียวกันก็มีระบบดูแลสุขภาพและความปลอดภัยด้วย DoCare มิติใหม่ของการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยเพื่อคนที่คุณรัก โดยมีระบบเชื่อมต่อการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยทางไกล 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อบ้านกับโรงพยาบาล ที่จะคอยส่งข้อมูล ติดตามอาการ และปรึกษาแพทย์แบบเรียลไทม์ ทั้งยังมีระบบขอความช่วยเหลือ แจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุผิดปกติ เช่น การหกล้มของผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย รวมทั้งผู้ที่อยู่ในการดูแลเดินออกจากบริเวณที่กำหนดไว้ เป็นต้น โดยมีทีม Care Center ซึ่งเป็นพยาบาลวิชาชีพที่คอยดูแลตลอด 24 ชม. ทุกวัน

ที่น่าสนใจคือ ไม่เพียงแค่กรณีอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยเท่านั้น แต่หากเกิดเหตุ เช่น มีการโจรกรรม เกิดภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ หรือสัตว์มีพิษเข้าบ้าน ระบบนี้ก็จะมี found detection ในตัว มี GPS ที่จะเห็นโลเกชั่นว่าเกิดเหตุที่ไหน ยิ่งถ้าผู้ใช้งานเป็นอัลไซเมอร์ก็สามารถตีกรอบโลเกชั่นไม่ให้เดินออกไปนอกเขตที่กำหนดได้ ซึ่งหากเดินออกไปนอกเขตที่กำหนดจะมีเสียงร้องเตือนไปถึงผู้ที่ลงทะเบียน ซึ่งอาจเป็นลูกหลาน ก็จะสามารถเห็นได้ทันทีว่าผู้ใช้งานอยู่ที่ไหน ออกนอกเขตที่ตั้งไว้หรือไม่ ซึ่ง GPS จะมีการอัพเดตการเคลื่อนไหวทุก 30 นาที หากแบตเตอรี่ใกล้หมดก็จะมีการแจ้งเตือน ซึ่งปกติจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 2-3 วัน และสามารถกันน้ำได้ แต่ต้องไม่แช่น้ำเกิน 1 เมตร นอกจากนี้ยังมีปุ่มด้านข้างที่ใช้แทนโทรศัพท์สามารถกดโทร.หาลูกหลานได้เลยในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน

นวัตกรรมที่น่าสนใจนอกจากนี้ ยังมีระบบ smart editor ช่วยทดสอบการนอนหลับ สำหรับผู้ใช้งานที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพในการนอน เช่น รู้สึกนอนไม่พอ ตื่นมาไม่สดชื่น นอนกรน หรือมีการหยุดหายใจขณะหลับ โดยนวัตกรรมนี้จะใช้การทดสอบเป็นเวลา 2 วัน โดยคืนแรกจะให้ผู้ใช้ใส่นอนให้เกิน 6 ชม. หลังจากนั้นจะมีผลเป็นรีพอร์ตออกมาให้ดู ถัดไปอีกคืนก็ทำเหมือนเดิม ซึ่งที่จริงได้ผลตั้งแต่คืนแรก แต่การนอนในแต่ละคืนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

SCG

ไม่เพียงเท่านั้น SCG ยังมีกลุ่มไลน์โปรดักต์ใหม่ที่ช่วยตอบโจทย์งานดีไซน์ รองรับเทรนด์ของการใช้วัสดุทดแทน รวมถึงทำให้การตกแต่งบ้านง่ายยิ่งขึ้นด้วย วัสดุตกแต่งจาก SCG หรือ SCG Decor ซึ่งเป็นวัสดุตกแต่งที่มีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับใช้ตกแต่งหน้าบ้าน ในตัวบ้าน หรือรอบบ้าน เป็นแนวทางการทำงานรูปแบบใหม่ ที่กระชับ ง่าย และดีขึ้นกว่าเดิม ทั้ง SCG Modeena หรือไม้ตกแต่งผนัง SCG Trim หรือบัวผนัง

ทั้งยังมีนวัตกรรมไฮเทคตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ อาทิ smart mirror TV bathroom เทคโนโลยีที่เปลี่ยนกระจกส่องหน้าให้กลายเป็นกระจกอัจฉริยะที่สามารถแสดงข้อมูลได้ พร้อมไฟส่องสว่างปรับตามความชอบและตกแต่งบ้านให้ดูทันสมัย สนุกกับ entertainment ได้หลากหลาย และยังเช็กสุขภาพพร้อมแสดงผลบนกระจกได้อีกด้วย

digital smart electronic scale เครื่องชั่งน้ำหนักไขมันในร่างกาย เป็นผู้ช่วยด้านสุขภาพ ซึ่งสามารถวิเคราะห์และแสดงค่า body composition ทั้งหมด 11 ค่า แสดงผลผ่านกระจกและ App สามารถจัดการและติดตามตัวชี้วัดด้านสุขภาพของคน smart skin detector เครื่องตรวจสภาพผิวอัจฉริยะ เป็นผู้ช่วยด้านสุขภาพที่สามารถวิเคราะห์สภาพผิวได้อย่างชาญฉลาด และให้คำแนะนำส่วนตัวเพื่อช่วยปรับปรุงสุขภาพผิว และ smart disinfection towel dryer หมดกังวลเรื่องความชื้นและกลิ่นเหม็นอับของผ้าเช็ดตัว ด้วยเครื่องเป่าแห้งผ้าเช็ดตัวยูวี ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปิดท้ายด้วยความก้าวล้ำใน โซลูชั่นหุ่นยนต์อัจฉริยะ (artificial intelligence solutions) ที่จะมาช่วยทั้งด้านการลดต้นทุน ลดการใช้เวลา แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในกระบวนการผลิตได้ อย่าง smart farming ครบวงจร ส่งเสริมเกษตรกร เพิ่มผลผลิต เพาะปลูกแม่นยำ ประหยัดต้นทุน ด้วยเทคโนโลยี IOT อาทิ รถปลูกผักอัตโนมัติ แทรกเตอร์ไร้คนขับ

ทั้งนี้ ยังมีแทรกเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสะอาด ชาร์จไฟได้รวดเร็ว ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เครื่องจักรกล-ออโตเมชั่น ให้บริการออกแบบ ผลิตเครื่องจักรกลให้โรงงานต่าง ๆ ที่มีความต้องการที่หลากหลาย ให้ใช้เทคโนโลยี artificial intelligence (AI) และ machine learning ตั้งแต่กระบวนการผลิต ประกอบ บรรจุ ลำเลียงและระบบคลังสินค้า อาทิ เครื่องจักรกลช่วยไลน์ประกอบรถยนต์ หุ่นยนต์ช่วยจัดเรียงสินค้า และเครื่องคัดแยกกุ้ง

นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งที่น่าสนใจของนวัตกรรม ในนิทรรศการ “SCG : The Next Chapter” และไม่ว่าโลกจะเปลี่ยน chapter ใหม่อีกกี่ครั้ง SCG ก็จะยังคงมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนานวัตกรรมโซลูชั่นใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อชีวิตที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ให้ทุกคนในวันนี้และคนรุ่นต่อไปได้มีชีวิตที่สะดวกสบาย ปลอดภัย คุ้มค่า และพร้อมรับกับทุกสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

SCG