แสนสิริลุ้นกำไรปี 2566 โตกระฉูด 40-50% แรงหนุนจากกำไรไตรมาสแรกพุ่งสูงสุดในกลุ่มธุรกิจและแนวโน้มเติบโตต่อ ครึ่งปีหลังเตรียมโอนทะลักโครงการระดับลักเซอรี่ มาร์จิ้นสูง
วันที่ 3 มิถุนายน 2566 นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ากำไรในปีนี้จะเติบโตทะลุ 40-50% ตามแผนธุรกิจที่วางไว้
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
เนื่องจากยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในไตรมาส 1/66 และในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 66 รวมทั้งบริษัทยังมียอดโอนต่อเนื่องจากโครงการในระดับลักเซอรี่ที่มีมาร์จิ้นสูงและได้รับการตอบรับที่ดีในปีที่ผ่านมา
“แนวโน้มอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการบันทึกรายได้จากการขายที่สูงขึ้นจากโครงการลักเซอรี่ที่มีการโอนต่อเนื่องจากปี 2565 ที่ผ่านมา”
อาทิ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท, คอนโดมิเนียม XT พญาไท มูลค่า 9,860 ล้านบาท รวมถึงจะมีการบันทึกรายได้จากโครงการใหม่ในระดับลักเซอรี่ ที่เตรียมเปิดตัวพร้อมโอนในปีนี้
ได้แก่ นาราสิริ พหล-วัชรพล, บูก้าน 3 โครงการใหม่ ได้แก่ บูก้าน กรุงเทพกรีฑา, บูก้าน พัฒนาการ และบูก้าน เหม่งจ๋าย ที่เตรียมพัฒนาเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนในไตรมาส 4/66
รวมทั้งยอดโอนจากบ้านเดี่ยวแบรนด์เศรษฐสิริ 10 โครงการใหม่อีกด้วย
นอกจากนี้ แสนสิริยังประสบความสำเร็จในกลุ่มแบรนด์คอนโดฯราคาเข้าถึงง่ายจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ อาทิ เดอะมูฟ บางนา, เดอะมูฟ บางแค, ดีคอนโด พนา และเฮย์ หัวหิน
ขณะที่ “NIA by Sansiri” (เนีย บาย แสนสิริ) มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท คอนโดมิเนียมจากซีรีส์ One of a Kind Project เตรียมเปิดตัวพร้อมขาย พร้อมโอน ในเดือนกันยายนนี้ จะช่วยเสริมยอดโอนและกำไรให้สูงขึ้นด้วย
เมื่อรวมกับแผนรุกธุรกิจในการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ บวกกับแรงหนุนจากการขายกิจการโรงเรียนสาธิตพัฒนา ที่รับรู้กำไรพิเศษ (หลังภาษี) ในไตรมาส 1/66 อีก 400-500 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทลุ้นกำไรพิเศษจากการทำโครงการรูปแบบ Joint Venture ในไตรมาสที่เหลือ ทำให้คาดว่าจะผลักดันกำไรสุทธิปี 2566 ของแสนสิริให้ทำ New High ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
“อัตราการเติบโตของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากการประสบความสำเร็จด้านการขายจากการตอบรับในแบรนด์ที่อยู่อาศัยของแสนสิริที่ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า
รวมทั้งการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ไม่เกิน 18-19% และบริหารงานก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบที่อยู่อาศัยคุณภาพให้กับลูกค้า
โดยแสนสิริมียอดขายล่าสุดในรอบ 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม 2566) 17,000 ล้านบาท คาดว่าจะดันสู่กำไรสุทธิปี 2566 ให้เติบโต 40-50%” นายอุทัยกล่าว
