ปีมังกรทอง 2567 ได้เวลาเบิกฤกษ์การทำธุรกิจเชิงรุก ภายหลังสถานการณ์โควิดและปัจจัยกดดันสารพัดสารเพในปี 2566 ที่ผ่านมา
เรากำลังพูดถึงค่ายอสังหาริมทรัพย์มหาชน “สัมมากร” ที่ประกาศแผนธุรกิจที่ท้าทาย ทั้งเป้าการเติบโตของรายได้ 20% รวมทั้งแผนธุรกิจเจาะกำลังซื้อเซ็กเมนต์ลักเซอรี่และอัพสเกล
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
- BITE SIZE : ถอนเงินไม่ใช้บัตร ข้ามแบงก์ได้แล้ว ธนาคารไหนรองรับบ้าง
โดย “ณพน เจนธรรมนุกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) บริษัทอสังหาริมทรัพย์พัฒนาโครงการบ้านคุณภาพประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 54 ปี ระบุว่า เทรนด์ปี 2567 ผู้บริโภคยังคงให้ความสนใจกับบ้านแนวราบ ซึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมการทำงานแบบ Remote Work มากขึ้น
สิ่งสำคัญกว่านั้น พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพการก่อสร้าง และดีไซน์ฟังก์ชั่นของบ้าน สอดคล้องกับคอร์แวลูของสัมมากร ที่มุ่งมั่นให้ความสำคัญมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง
และจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคแบบเชิงลึก (Customer Insight) ทำให้สัมมากรมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวเพิ่มเติม ภายใต้แนวคิด “บ้านที่หลับสบาย” โดยมีจุดโฟกัสอย่างเป็นพิเศษ และวางแผนบุกการตลาดอย่างเข้มข้นในกลุ่มลูกค้าเซ็กเมนต์ผู้ซื้อบ้านหลังแรก และผู้ซื้อบ้านเพื่อขยายครอบครัวเป็นหลัก ทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ควบคู่กับการขับเคลื่อนบิสซิเนสโมเดลขยายฐานเซ็กเมนต์อัพสเกล หรือกำลังซื้อบ้านระดับลักเซอรี่
นอกจากนี้ แผนธุรกิจยังเน้นต่อจิ๊กซอว์การลงทุนในการขยายธุรกิจพื้นที่เช่า รองรับแผนสร้างรายได้ประจำหรือรีเคอริ่งอินคัมในระยะยาว หนึ่งในธุรกิจสำคัญของสัมมากร ควบคู่กับการพัฒนาโครงการบ้านแนวราบที่มีรายได้จากการขายและโอนกรรมสิทธิ์
ทั้งนี้ ปี 2567 เรื่องใหม่จะมีการนำ Data Driven and Creative เข้ามาเป็นแกนกลางและหัวใจหลัก ของการดำเนินการในทุกกิจกรรมของบริษัท ล่าสุด ประเดิมด้วยความร่วมมือกับ Eyedropper Fill สตูดิโอที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสร้างสรรค์นิทรรศการ ที่สร้างความประทับใจให้ผู้ร่วมงานมากมาย จัดงาน Home Fill-in Interactive Exhibition by Sammakorn X Eyedropper Fill เพื่อค้นหาคำตอบที่จะสร้างสรรค์บ้านที่หลับสบายในแบบที่คุณต้องการ
ควบคู่กับการสร้าง Brand Loyalty ด้วยการสร้างคอมมิวนิตี้ให้เกิดขึ้นในแต่ละโครงการบ้าน เพื่อสร้างสานสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นตัวช่วยหนุนหลังให้สัมมากรสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
โดยปี 2567 ตั้งเป้าสร้างการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้น 20% คิดเป็นยอดขาย 3,600 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นเป้ารายได้ที่ท้าทายและเติบโตสวนกระแสตลาดรวมในปี 2566 ที่ผ่านมา
จากความมุ่งมั่นพัฒนาโครงการบ้านคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และความมั่นใจในศักยภาพกำลังซื้อและความนิยมในตราสินค้าสัมมากรของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ตลอดจนการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงเป้า ตอบได้ทุกโจทย์ทุกดีมานด์ของลูกค้าสัมมากร