วันที่ 6 สิงหาคม 2563 นายกิตติกร ตันเปาว์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รักษาการ รองผู้ว่าการด้านวิศวกรรมและก่อสร้าง เรียกประชุมกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา PCPK และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี รวมถึงกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา PCYL และบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง
เพื่อร่วมหารือมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในงานก่อสร้างโครงการ และตรวจสอบข้อเท็จจริงอันเนื่องมาจากกรณีอุบัติเหตุโครงค้ำยันชั่วคราวระหว่างติดตั้งคานสำเร็จรูป เชื่อมกับเสาสถานีโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ทรุดตัวลงมาเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ของวันเดียวกันนี้
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
โดยในเบื้องต้น กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา PCPK ได้ชี้แจงว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งให้ผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูหยุดงานติดตั้งคานสถานี ที่อยู่ระหว่างดำเนินการทั้งหมดของโครงการโดยทันที และจะเข้าไปตรวจสอบ ทบทวนรายละเอียด ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานทั้งหมด ทั้งในด้านเทคนิควิศวกรรม วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ขั้นตอนการปฏิบัติงาน การควบคุมงาน และความพร้อมของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในขณะที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้ ในส่วนของสายสีเหลือง ซึ่งเป็นงานก่อสร้างระบบโมโนเรลเหมือนกัน และมีงานติดตั้งคานสถานีในลักษณะเดียวกันนี้ที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน ทางกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา PCYL ได้สั่งให้ผู้รับจ้างก่อสร้างหยุดงานติดตั้งคานสถานีทั้งหมดแล้วเช่นกัน
โดย รฟม. ได้มอบหมายให้ทั้ง 2 โครงการ ร่วมกันทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยของงานก่อสร้าง เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีกในอนาคต สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน ตลอดจนภาคประชาชน
นอกจากนี้ได้เน้นย้ำให้ทั้ง 2 โครงการ มีการควบคุมงานด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในกิจกรรมก่อสร้างต่างๆ ที่ดำเนินการตามปกติอยู่แล้ว ซึ่งอาจก่อให้เกิดความประมาทขึ้นได้
ทั้งนี้ รฟม. ยังคงมั่นใจว่า การหยุดงานบางส่วนเป็นการชั่วคราวของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองยังไม่กระทบกับแผนการดำเนินงานก่อสร้างโดยรวม และรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย จะสามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้ตามกำหนดเดิม