ลลิลฯ โชว์ผลประกอบการปี’64 ปั๊มรายได้ 6.5 พันล้าน โตต่อเนื่อง 6 ปีซ้อน

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เปิดผลประกอบการปี 2564 รับรู้รายได้ 6,589.58 ล้านบาท-กำไรสุทธิ 1,389.21 ล้านบาท โตต่อเนื่อง 6 ปี ย้ำปี 2565 ทุ่มงบฯ 8 พันล้าน ขยายโครงการใหม่ 10-12 โครงการ

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอดปี 2564 ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่สดใสนัก จากการเผชิญความท้าทายจากการแพร่ระบาดโควิดเดลต้าที่รุนแรง

ขณะที่ในแง่เศรษฐกิจประสบปัจจัยลบกำลังซื้อดิ่งเหว หนี้ครัวเรือต่อจีดีพีพุ่ง ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อและนโยบายการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อไป

ชูรัชฏ์ ชาครกุล

สำหรับผลประกอบในปี 2564 ของลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มียอดรับรู้รายได้ 6,589.58 ล้านบาท ขยายตัว 14.3% เติบโตต่อเนื่องติดต่อกัน 6 ปี เป็นผลมาจากการบริหารจัดการที่บริษัทยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) 39.1% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 31-32%

รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนในการขายและบริหารที่มีประสิทธิภาพ ในปี 2564 ตัวเลขอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ (SG&A/Revenues) ปรับดีขึ้นมาอยู่ที่ 9.1%

ทำให้ปี 2564 มีกำไรสุทธิใน 1,389.21 ล้านบาท เติบโต 14.9% มีอัตราส่วนกำไรสุทธิ (Net Profit Margin) 21.1% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 11%

ทั้งนี้ ในปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทขยายโครงการใหม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายจำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท

สำหรับปี 2565 ลลิลฯ วางแผนขยายโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก 10-12 โครงการ มูลค่า 7,000-8,000 ล้านบาท

โดยบริษัทมีการบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินอย่างรัดกุม มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นปี 2564 มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เพียง 0.60 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 1.4 เท่า

และหากพิจารณาในแง่ของตัวเลขอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (Net D/E) ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่ระดับเพียง 0.22 เท่า ลดลงจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 0.31 เท่า สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง