นอนกรน-หยุดหายใจ ส่งผลต่อหัวใจและสมอง

นอนหลับ
คอลัมน์ : สุขภาพดีกับรามาฯ
ผู้เขียน : แพทย์หญิงนวรัตน์ อภิรักษ์กิตติกุล ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา 
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ในหนึ่งวัน เวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการนอน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกวัย ทั้งวัยเรียนและวัยทำงาน อาจต้องหันมาดูชั่วโมงการนอนว่าเพียงพอหรือไม่

วัยทำงานควรนอนประมาณ 7-9 ชั่วโมง หากยังไม่สดชื่น ต้องดูว่ามีปัญหาอื่นใด เช่น การกินยาที่ทำให้ง่วง โรคทางการนอนหลับ เช่น ลมหลับ หรือการนอนกรน

กรนเป็นสัญญาณเตือนของโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น เสียงเกิดจากทางเดินหายใจส่วนบนที่แคบหรือหย่อนผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นเพราะความอ้วน โคนลิ้นใหญ่ ต่อมทอนซิลโต ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ เป็นต้น เมื่อลมหายใจผ่านขณะหลับจึงทำให้เกิดการชนกันของอวัยวะจนเกิดเสียง หากเป็นมากอาจทำให้หยุดหายใจขณะหลับ ออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติ และกระตุ้นให้เกิดการหายใจเฮือกขึ้นมาขณะหลับ

กลางดึกขณะหลับบางคนต้องตื่นมาหายใจ อาจเป็นสาเหตุเกิดโรคร้ายแรงตามมาได้ เช่น ทำให้ง่วง หลับใน จนเกิดอุบัติเหตุ การนอนหลับจึงสำคัญเพราะส่งผลทั้งตอนนอน ตอนตื่น และโรคร้ายแรงอื่น ๆ

เบื้องต้นควรฝึกนิสัยการนอนหลับที่ดีก่อน จากการหาสาเหตุของการนอนไม่หลับ จากนั้นฝึกการ ตื่น หลับ ให้เป็นเวลา ที่สำคัญเตียงนอนควรใช้เฉพาะนอนหรือมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น หลายคนชอบนอนเล่นโทรศัพท์ ดูทีวี บนเตียง ซึ่งทำให้ชิน เวลาจะนอนจริงอาจนอนไม่หลับ และควรหลีกเลี่ยงกาเฟอีนในช่วงบ่าย

วิธีรักษาการกรนมีหลายอย่าง ขึ้นกับความรุนแรงและสาเหตุ แพทย์อาจประเมินจากประวัติ ตรวจร่างกาย ส่องกล้อง ตรวจการนอนหลับ การรักษา เช่น ใส่เครื่องอัดอากาศขณะหายใจ การผ่าตัด การใช้อุปกรณ์ในช่องปาก เป็นต้น หรือหากอ้วนควรลดน้ำหนัก นอนตะแคงอาจช่วยได้ในบางราย เลี่ยงยานอนหลับ แอลกอฮอล์ ยาคลายกล้ามเนื้อ ยากดประสาทส่วนกลางช่วงก่อนนอน


สุดท้าย คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จัดกิจกรรมวันนอนหลับโลกขึ้นในวันที่ 9 มี.ค. 66 เวลา 08.30-12.00 น. ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 1 อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์