ในหลวง พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลและจุดเทียนมหามงคลวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ร.9

วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และเจ้าคุณพระสินีนาฏพิลาสกัลยาณี ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล และพิธีจุดเทียนมหามงคลสดุดีเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนออกจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในเวลา 17.55 น. เมื่อเสด็จเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระอัฐิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก พระอัฐิสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

พระสงฆ์ 30 รูป เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระราชาคณะถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ แล้วทรงทอดผ้าไตรพระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์และที่ถวายพระธรรมเทศนา พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา

ในหลวง ร.10 ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง

จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟฟ้าพระที่นั่งไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง แล้วทรงพระดำเนินไปยังเวทีกลางของพิธี ซึ่งระหว่างเส้นทางพระดำเนินทรงโบกพระหัตถ์และทรงแย้มพระสรวลทักทายประชาชนอย่างเป็นกันเอง ขณะที่ประชาชนพร้อมใจกันเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ”

เมื่อทรงพระดำเนินถึงเวทีแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ความว่า

“ข้าพเจ้าและพระราชินี มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมในพิธีจุดเทียนมหามงคลเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ทั้งได้มาอยู่ในท่ามกลางประชาชนทุกหมู่เหล่าในวันนี้

“พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรได้ทรงพระราชอุตสาหะปฏิบัติพระราชกรณีกิจนานับประการ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนมาตลอด 70 ปีแห่งรัชสมัย ดังเป็นที่ประจักษ์ว่าได้ทรงวางรากฐานการพัฒนาประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ให้ดำเนินก้าวหน้าไปอย่างมั่นคง ยั่งยืน ส่งเสริมพัฒนาการศึกษา การแพทย์ และการสาธารณสุข ตลอดจนการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งได้พระราชทานหลักการดำเนินชีวิตและประพฤติตนปฏิบัติงานไว้ คือหลักเศรษฐกิจพอเพียง ยึดมั่นในทางสายกลาง กระทำการทุกอย่างให้พอเหมาะพอดี โดยอาศัยความมีเหตุผลเป็นเครื่องพิจารณา อาศัยวิชาความรู้เป็นเครื่องมือปฏิบัติ และอาศัยคุณธรรมความสุจริตเป็นเครื่องกำกับ ประคับประคอง อันจะทำให้ทุกคนไม่ว่าจะมีฐานะความเป็นอยู่อย่างไร ประกอบอาชีพการงานใด ย่อมมีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง สามารถพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้น เจริญขึ้นและพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของโลกได้ ประเทศไทยจึงดำรงอยู่ด้วยความเข้มแข็ง ให้ชาวไทยตลอดจนผู้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารได้มีชาติบ้านเมืองเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นจุดหมายร่วมกัน ในอันที่จะรักษาสิ่งที่ดีงามของชาติไว้ พร้อมทั้งปฏิบัติสร้างสรรค์ความดีความเจริญ เพื่อความร่มเย็นเป็นปกติสุข ความมั่นคงเป็นปึกแผ่นและความเจริญของประเทศ ประชาชนชาวไทยจึงเคารพเทิดทูนพระองค์ในฐานะพ่อแห่งแผ่นดิน และถือเอาวันที่ 5 ธ.ค. วันคล้ายวันพระราชสมภพนั้นเป็นวันพ่อแห่งชาติและวันชาติไทย ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้เสมอมา

“ขอพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรจงคุ้มครองรักษาประเทศชาติและประชาชนชาวไทยให้มีความพัฒนาผาสุกตลอดไป”

จากนั้นเวลา 20.30 ทรงเป็นประธานจุดเทียนมหามงคลสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 ร่วมกับประชาชนที่สวมเสื้อสีเหลืองมาร่วมพิธี ณ ท้องสนามหลวง และประชาชนที่ร่วมพิธีในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดทั่วประเทศ แล้วเสด็จประทับพระราชอาสน์เพื่อทรงชมการแสดงอากาศยานไร้คนขับแปรอักษร และการแสดงทางวัฒนธรรม

จากนั้นทรงรับการถวายความเคารพจากผู้ร่วมพิธี แล้วทรงพระดำเนินไปยังรถยนต์พระที่นั่ง ซึ่งระหว่างเส้นทางพระดำเนินทรงโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนอย่างใกล้ชิด ก่อนจะประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

ทั้งนี้ การทรงเป็นประธานเทียนมหามงคลสดุดีเฉลิมพระเกียรติและ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ได้ทรงร่วมจุดเทียนร่วมกันกับประชาชนชาวไทย ในการนี้ยังได้พระราชทานเข็มกลัดเพื่อให้ประชาชนที่มาร่วมในพิธีเป็นที่ระลึกในวันสำคัญปีนี้ด้วย