เรื่องใหญ่สุดของนักวิ่งอีกเรื่องหนึ่ง คือ การต้องเรียนรู้โครงสร้างร่างกายและเท้าของตัวเอง เพื่อหารองเท้าที่ใส่สบาย เพราะการวิ่งจะมีการลงเท้าสู่พื้นอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนหลายพันครั้ง รองเท้าที่ดีจะช่วยในการลดแรงกระแทก ระบายความร้อน และช่วยให้การลงเท้ามั่นคง การส่งแรงที่ดีทำให้ประหยัดแรง
โดยประเภทและคุณสมบัติของรองเท้ามีการแยกย่อยไปกับจุดประสงค์การวิ่งที่ต่างกัน อาทิ
- ฟินแลนด์ระงับการให้วีซ่าแรงงานเก็บผลไม้ป่าทุกคนจากไทย
- เหล้าเบียร์ 5 แสนล้านสะเทือน สิงห์-ช้างอ่วม กฎหมายใหม่ห้ามโฆษณา
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จุลพันธ์ แจ้งคืบหน้า รอประชุมอีก 2 นัด
- รองเท้าวิ่งอเนกประสงค์
- รองเท้าสำหรับฝึกซ้อมบนถนนคอนกรีต
- รองเท้าสำหรับการแข่งขันบนถนนในระยะทางที่แตกต่าง
- รองเท้าสำหรับการวิ่งเทรล
รองเท้าวิ่งแต่ละแบรนด์ มีหลายรุ่นย่อยออกมาเพื่อตอบสนองโครงสร้างของเท้าในรูปแบบต่างๆ
กฎเหล็กง่ายๆในการเลือกรองเท้า คือ “ทดลองสวมด้วยตัวเอง”
ไม่ควรฝากซื้อ ไม่พรีออเดอร์ ไม่เชื่อโฆษณาที่มีอยู่เกลื่อนเมือง แบรนด์รองเท้าที่พัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยเรื่อยๆ จึงต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยของแต่ละคน รวมทั้งปัจจัยอย่าง การฝึกซ้อมที่ดีพอ เทคนิคของท่าทางการวิ่ง และที่สำคัญ คือ โครงสร้างทางร่างกายที่เหมาะสมกับคุณสมบัติของรองเท้าที่เลือกมา
และเคล็ดลับที่ต้องทดลองด้วยตัวเองขอให้ยึดหลักต่อไป
- “สวมใส่สบาย”
- “ไม่คับหรือหลวมเกินไป”
- “เวลาลงเท้าวิ่งรับรู้ถึงความมั่นคง”
- “ไม่เกิดแรงกระแทกสะท้อนกลับมาที่ข้อเท้าหรือเข่า”
- “ผ้ากระชับเท้าระบายความร้อนได้ดี”
- “พื้นรองเท้าไม่แข็งกระด้าง ยืดหยุ่น และทรงตัวได้ดี”
เพราะรูปเท้าแต่ละคนมีความแตกต่างกัน หรือแม้แต่เท้าเราทั้งสองข้างยังไม่เหมือนกันเลย ความรู้สึกในการสวมใส่ จึงย่อมแตกต่างกัน รองเท้าที่ดีของนักวิ่งคนหนึ่ง อาจเป็นรองเท้ายอดแย่ของนักวิ่งอีกคนก็เป็นไปได้
ลองสวมใส่ด้วยตัวเอง ลองก้าวขา ลองเดิน ลองวิ่ง แล้วจึงตัดสินใจซื้อที่สบายและเหมาะกับเท้าเรา เพราะรองเท้าที่เลือกมาจะต้องอยู่กับเราไปทุกก้าววิ่ง
ขอบคุณข้อมูล หนังสือ “วิ่งได้ ไม่ใช่แค่ได้วิ่ง” โดย ครูดิน สถาวร จันทร์ผ่องศรี สำนักพิมพ์มติชน