หมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองจาก รพ.จุฬาฯ เผยผลการศึกษาใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุเฉลี่ย 78 ปี เดินเพิ่มเพียงวันละ 500 ก้าว ลดความเสี่ยงโรคเส้นเลือดหัวใจ สมอง และยังลดสมองเสื่อมได้ด้วย ระบุการเดินตั้งแต่ 3,000-4,500 ก้าวก็ได้ประโยชน์แล้ว
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha มีเนื้อหาน่าสนใจดังนี้
70 ยัน 90 ขวบ เพียงเดินเพิ่มแค่ 500 ก้าว
ในปัจจุบันนี้เราทราบกันดีว่า การเดินอย่างรู้สังขาร ไม่ถึงกับต้องหักโหมแบบคาร์ดิโอ หนักหนา หัวใจเต้นเร็ว ช่วยสุขภาพและลดการตาย ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเลือด หัวใจ สมอง และยังลดสมองเสื่อมได้ด้วย ระบุการเดินตั้งแต่ตั้งแต่ 3,000-4,500 ก้าวก็ได้ประโยชน์แล้ว
ทั้งนี้ ถ้าทำให้ได้ถึง 10,000 ก้าวต่อวัน
ปัญหาก็คือ ในคนที่อายุมากขึ้น มีปัญหาเรื่องกระดูกและข้อ ทั้งที่เสื่อมและที่แม้แต่ไปผ่าตัดแล้วก็ตาม ทำให้เดินไม่ได้สะดวก รวมทั้งปวดหลัง การทรงตัว เลยพานไม่ยอมเคลื่อนไหว
ผลของการศึกษาใหม่นี้เฉพาะเจาะจงในคนที่สูงวัยตั้งแต่อายุ 71 ยันไปถึง 92 ปีโดยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 78 ปี
และเป็นการรายงานในที่ประชุม Epidemiology, and Prevention/Life Style and Cardiometabolic Health โดย ดร. Erin Dooley ผู้เชี่ยวชาญทางระบาดวิทยาและคณะที่ university of Alabama at Birmingham
คณะผู้วิจัยได้วิเคราะห์กลุ่มย่อยในการศึกษาความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดตันในชุมชน atherosclerosis risk in communities (ARIC) ซึ่งเป็นการศึกษาวิเคราะห์วิจัยต่อเนื่องโดยสถาบันหัวใจ ปอด และเลือดแห่งชาติ (National Heart, Lung and Blood Institute)
โดยกลุ่มการศึกษาย่อยนี้ประกอบไปด้วยผู้สูงวัยจำนวน 452 รายด้วยกัน และมีการเก็บรายละเอียดและวิเคราะห์เป็นระยะในระหว่างช่วง 2016 และ 2017
โดยผู้ที่ร่วมการศึกษานั้นสวมเครื่องวัดการเคลื่อนไหวติดที่บั้นเอว อย่างน้อย 10 ชั่วโมงต่อวัน ติดต่อกันครั้งละสามวันในแต่ละครั้ง และเป็นสตรี 59% โดยเป็นคนผิวดำ 20%
ผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ได้มีการสรุป จนกระทั่งถึงเดือนธันวาคม ในปี 2019 ซึ่งรวมถึงโรคทางเส้นเลือดหัวใจและสมองที่ถึงแก่ชีวิตและไม่ถึงกับตาย แต่ต้องเข้าโรงพยาบาล และรวมภาวะหัวใจวายไว้ด้วย
ผลจากการศึกษาที่สำคัญชี้ให้เห็นว่าทุก ๆ 500 ก้าวที่เดินเพิ่มต่อวันจะทำให้ความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดดังกล่าวลดลงถึง 14% ด้วยกัน (Hazard Ratio, 0.86; 95% Confidence Interval, 0.76-0.98)
ก้าวเดินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3,447 ก้าวต่อวัน และมี 34 รายคิดเป็น 7.5% ที่เกิดโรคของเส้นเลือดในช่วงการติดตาม 1,269 Person-Years
ความเสี่ยงสะสมของโรคเส้นเลือดสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือพบได้ 11.5% ใน Quartile ที่เดินน้อยสุด คือน้อยกว่า 2,077 เก้าต่อวัน เทียบกับเพียง 3.5% ในกลุ่มที่เดินสูงสุดคืออย่างน้อย 4,453 ก้าวต่อวัน
ที่น่าดีใจมากขึ้นไปอีกนั้นก็คือ ในกลุ่มที่เดินเยอะที่สุด (Highest Quartile) รวมแล้วมีความเสี่ยงลดลง 77% ในระยะ 3.5 ปี ในตลอดระยะเวลาการติดตาม (HR, 0.23)
ผลของการศึกษานี้สนับสนุนคุณค่าของการเดิน แม้ว่าจะเพิ่มจำนวนก้าวขึ้นแม้ไม่มากก็ตาม ในผู้สูงอายุ โดยเริ่มตั้งแต่ทุก 500 ก้าวจะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติตัวให้ได้ง่ายที่สุดเลย ก็คือในผู้สูงวัยตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปนั้น การเดินตั้งแต่ 3,000 ก้าวต่อวัน ก็จะเริ่มส่งผลให้ประโยชน์ในการป้องกันโรคของเส้นเลือดหัวใจหรือสมองแล้ว และประโยชน์ที่จะเห็นได้ชัดเลยนั้นก็คืออยู่ที่ตั้งแต่ 4,500 ก้าว เป็นต้นไป
ในขณะนี้ลูกหลานก็สามารถซื้อนาฬิกาสวมใส่ข้อมือ สมาร์ตวอชต์ ราคาไม่แพง ให้ พ่อ แม่ คุณป้า คุณอา คุณน้า ปู่ ย่า ตา ยาย ใส่ และเป็นเครื่องวัดและ สร้างเสริมกำลังใจให้ญาติผู้ใหญ่ขยับกายมีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง
ข้อสำคัญก็คือ ในวัยกลางคนยังทำแต่งาน นั่งอยู่กับโต๊ะทำงานในแต่ละวัน เคลื่อนไหวเพียงแค่ 500-600 ก้าวเท่านั้น และมีข้ออ้างอยู่เป็นประจำว่าทำงานเหนื่อยแล้วต้องนั่งพักผ่อน ดูทีวี กินขนม
การเคลื่อนไหวออกกำลังต้องเริ่มทุกวัยจะได้ประโยชน์ ไม่ต้องเสียเวลามารักษาตัวเมื่อเกิดโรคภัยไข้เจ็บ และเงินทองที่หามาได้ทั้งชีวิต จบลงในบั้นปลายชีวิต สูญเงินทองแถมยังต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อรักษาตัวเพียงสองถึงสี่ปี เท่านั้น จนตาย