ฝ่ามิติไปกับ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ จากสงครามโลก สู่จักรวาลมาร์เวล

เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ จากสงครามโลก สู่จักรวาลมาร์เวล บทพิสูจน์ความสามารถในการแสดง และการก้าวสู่นักแสดงแห่งยุค

วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ด้วยลุคสุภาพบุรุษอังกฤษของแท้ สำเนียงบริติช แถมพกมาทั้งความเท่ และมุกตลกโบ๊ะบ๊ะ แบบนี้ใครจะไม่หลงรัก ‘เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์’ (Benedict Cumberbatch) นักแสดงมากความสามารถจากเกาะอังกฤษ

เบเนดิกต์คือนักแสดงที่ส่องประกายทั้งในและนอกจอ งานแสดงที่เข้าถึงอารมณ์และทุ่มเทเพื่อบทแบบสุดตัว ขึ้นมาเป็นนักแสดงระะดับแถวหน้าของฮอลลีวูด นอกจอเบเนดิกต์ก็ยังโดดเด่นไม่พัก นิสัยสุภาพน่ารัก มีอารมณ์ขัน โชว์ทัศนคติสุดแจ่มทุกครั้งเมือเราฟังสัมภาษณ์ ไม่แปลกเลยที่จะมีแฟนๆ เพิ่มขึ้นทุกวัน

ที่ผ่านมา เบเนดิกต์เป็นที่จดจำในหลายบทบาท รวมถึงเรื่องล่าสุดในบท ‘หมอแปลก’ หรือ ‘ด็อกเตอร์ สเตรนจ์’ (Doctor Strange) ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเบเนดิกต์ไปแล้ว

บทฮีโร่มาร์เวลนั้นไม่ง่าย แต่ก่อนจะได้เป็นด็อกเตอร์ สเตรนจ์ อย่างทุกวันนี้ เบเนดิกต์ผ่านงานแสดงมาอย่างโชกโชนเช่นกัน ซึ่งภาพยนตร์ทุกเรื่องที่พูดถึงในวันนี้

เบเนดิกต์ได้ร่วมงานกับผู้กำกับมือรางวัล ‘สตีเวน สปีลเบิร์ก’ ครั้งแรกใน ‘War Horse (2011)’ โดยสตีเวนเป็นคนเลือกให้เบเนดิกต์ลองมาออดิชั่นด้วยตัวเอง หลังจากได้เห็นเขาแสดง สตีเวนก็ตัดสินใจทันทีว่านี่แหละนักแสดงที่ตามหา และบทบาทที่สตีเวนมอบให้เบเนดิกต์คือ ‘เจมี่ สจ๊วต’ ผู้พันมาดขรึมแห่งกองพันทหารม้า จากกองทัพเยอรมัน

War Horse (2011): ผู้พันมาดขรึมแห่งกองพันทหารม้า บทที่เปิดประตูสู่โอกาสระดับโลก

War Horse ภาพยนตร์ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 เล่าเรื่องราวผ่านสายตาของ ‘โจอี้’ ม้าที่พลัดพรากจากเจ้าของ เพราะถูกเกณฑ์ไปเป็นม้าศึกของกองทัพอังกฤษ หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบแดงของสตีเวนที่ได้รับคำชมท่วมท้น รวมทั้งตัวละคร ผู้พัน เจมี่ สจ๊วต ของเบเนดิกต์คือสิ่งที่เติมเต็มหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี ถึงแม้เบเนดิกต์จะออกมาแค่ช่วงสั้นๆ แต่การแสดงของเขานั้นตราตรึงไปจนหนังจบ

เบเนดิกต์ตัดสินใจไต่ระดับความท้าทายในงานแสดงขึ้นไปอีกขั้นใน ‘The Fifth Estate (2013)’ หนังดราม่าทริลเลอร์ที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของ จูเลียน อัสซานจ์ ผู้ก่อตั้ง WikiLeaks เว็บไซต์เปิดโปงความลับดำมืดของรัฐบาลและบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก

จูเลียนได้ชื่อว่าเป็นชายที่ทั้งถูกประณามและถูกยกย่อง มีสัดส่วนคนรักและคนเกลียดมากพอๆ กันก็ว่าได้ การรับบทเป็นคนที่คาแร็คเตอร์เฉพาะตัวแบบนี้ ย่อมเป็นโอกาสดีที่เบเนดิกต์จะได้พิสูจน์ฝีมือ ภาพยนตร์เรื่อง ‘The Fifth Estate (2013)’

The Fifth Estate (2013): พุ่งชนความท้าทาย ใบบทบาทของชายที่โลกทั้งรักทั้งชัง

มาถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของชีวิตอีกครั้ง  การก้าวเข้าสู่ MCU ด้วยบท ‘ด็อกเตอร์ สเตรนจ์’ หรือที่เราเรียกกันจนติดปากว่า ‘หมอแปลก’ ในปี 2016 ทันทีที่รู้ข่าวว่าจะได้เป็นฮีโร่มาร์เวลคนต่อไป เบเนดิกต์ดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่

เบเนดิกต์กล่าวว่า “ผมโคตรตื่นเต้นเลย แน่นอนว่าผมจะต้องทำการบ้านหนักมากเพื่อบทนี้ มันเป็นโอกาสที่สุดยอดจริงๆ” เบเนดิกต์เคยพูดไว้ตอนสัมภาษณ์กับ ndtv.com  แล้วก็เช่นเคย เบเนดิกต์เตรียมฟิตร่างกายและฝึกการต่อสู้อย่างหนัก ต่อให้ตารางแน่นแค่ไหนก็หาเวลาไปซ้อมให้ได้ จนเพื่อนนักแสดงหลายคนต้องบอกให้เค้าพักบ้าง

หลังจากซุ่มเตรียมตัวเป็นเวลานาน แฟนๆ ก็ได้เห็นเบเนดิกต์ใน ‘Marvel Studios’ Doctor Strange (2016)’ โดยมาร์เวลได้แนะนำให้เรารู้จักกับ ดร. สตีเฟน สเตรนจ์ ศัลยแพทย์ด้านประสาทฝีมือดี ที่มาพร้อมความเก่งและอีโก้สูง แต่ดันต้องมาเรียนรู้การใช้เวทย์และกลายเป็นฮีโร่สายเวทย์แบบเต็มตัว

ตลอดทั้งเรื่อง เราได้เห็นตัวละครนี้ค่อยๆ เติบโตผ่านการถ่ายทอดอย่างถึงอารมณ์ของเบเนดิกต์ ทันทีที่หนังเรื่องนี้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ สื่อทั้งเล็กใหญ่ก็ออกมาชื่นชมเขาในบทบาทนี้ และท่าเปิดประตูมิติด้วยวงแหวนเวทย์ก็ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง

Marvel Studios’ Doctor Strange: เปิดประตูสู่จักรวาลมาร์เวล กับบทฮีโร่สายเวทย์ที่โลกต้องจำ

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ด็อกเตอร์ สเตรนจ์ ก็ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีบทบาทสำคัญของ MCU หลังจากสงครามอันแสนยาวนานและเจ็บปวดจบลง ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป ด็อกเตอร์ สเตรนจ์ ต้องเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเองโตขึ้นอีกครั้งใน “Marvel Studios’ Doctor Strange in the Multiverse of Madness จอมเวทย์มหากาฬในมัลติเวิร์สมหาภัย” เขาต้องเผชิญหน้ากับศัตรูซึ่งเคยเป็นเพื่อนที่ร่วมสู้มาด้วยกัน ทั้งยังต้องรับมือกับความเจ็บปวดในอดีต

เบเนดิกต์เผยว่าเขาเองก็เติบโตไปพร้อมกับตัวละครด้วย เพราะในเรื่องนี้ เขาต้องแสดงเป็นด็อกเตอร์ สเตรนจ์ ในหลายเวอร์ชั่นที่นิสัยต่างกัน ทำให้เขาต้องฝึกสกิลการแสดงแบบซับซ้อนขึ้นไปอีก และสิ่งต่างๆ ที่เขาได้เรียนรู้จากบทนี้ ทำให้เขายิ่งผูกพันกับตัวละครมากขึ้น

การก้าวผ่านทุกบทบาทจากบทพระรองออกมาไม่เพียงกี่นาที จนมาถึงตัวละครหลักของเรื่องที่พาภาพยนตร์ต่อยอดไปได้อีกหลายภาค แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดอยู่แค่นี่ เบเนดิกต์ ท้าทายความสามารถในการแสดงด้วยบทตัวร้ายอย่าง ‘ข่าน นูเนียน ซิงห์’ ใน สตาร์เทรค ถือว่าเป็นตัวร้ายที่เก่งกาจ และจัดการยากที่สุด

หรือจะเป็นบทนักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ ‘อลัน ทัวริง’ อัจฉริยะ วีรบุรุษสงคราม LGBTQ ในยุคที่อังกฤษถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย รวมทั้งบท ‘เชอร์ล็อก โฮมส์’ ที่จัดทำในรูปแบบซีรี่ย์จากสหราชอาณาจักร หรือแม้การพากย์ ‘สม็อก’ จากบทบาทที่หลากหลาย เบเนดิกต์พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าเขาเป็นสุดยอดนักแสดงแห่งยุคจริงๆ พิสูจน์ด้วยตาได้ที่ Disney+ Hotstar