แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บชัยแบบเฉือนหวิว นาที 93 โดยกองหน้าวัย 18 อเลฮานโดร การ์นาโช
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟูแล่ม เปิดสนามเครเวนคอตเทจ รับการมาเยือนของปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเกมสุดท้ายประจำสัปดาห์ ก่อนที่ทั้งลีกจะหยุดพัก และเข้าสู่ช่วงฟุตบอลโลก 2022
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
เกมนี้ฟูแล่มไม่มีกองหน้าตัวเก่ง อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บ และ แฮร์ริสัน รีด กองกลางที่ติดโทษแบน
ส่วนปีศาจแดงเกมนี้นำทัพมาโดย บรูโน แฟร์นันเดส ที่พ้นโทษแบน และได้ อองโธนี มาร์ซียาล กลับมายืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนคริสเตียโน โรนัลโด และเจดอน ซานโช ไม่มีชื่อเนื่องจากมีอาการป่วย
เกมเริ่มมาได้ไม่นาน โอกาสยิงครั้งแรกเป็นของเจ้าบ้านฟูแล่ม คาร์ลอส วินิซิอุส ยิงไปแฉลบไทเรล มาลาเซีย ทำให้ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงเซฟตั้งแต่นาทีที่ 5
จากนั้นยูไนเต็ดก็ได้ลุ้นบ้างจากลูกขลุกขลิกของมาร์ซิยาล และแบร์นด์ เลโน ต้องเซฟเช่นกันในนาทีที่ 8 เป็นช่วง 10 นาทีแรกที่ทั้งคู่ต่างไล่เพรสซิ่งกดดันคู่แข่ง
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้มาเยือนก็ออกนำ จากจังหวะที่ฟูแล่มเสียบอลขณะขึ้นเกมกลางสนาม ด้วยการสกัดที่แม่นยำของ คาเซมิโร
อีริกเซนซัดลูกแรก
ยูไนเต็ดสวนกลับเร็วทันที แฟร์นันเดสยิงไปแฉลบ อิสซา ดิย็อป กองหลังฟูแล่ม และ คริสเตียน อีริกเซน นักเตะชุดสู้ศึกบอลโลกชาวเดนมาร์ก ที่วิ่งมาเหยียดเท้าส่งบอลเข้าประตูไป พาผีแดงขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 14
ก่อนผ่านช่วง 30 นาทีแรก ยูไนเต็ดเกือบได้บวกประตูที่ 2 จากการประสานงานกันของมาร์คัส แรชฟอร์ด แฟร์นันเดส และจบด้วยมาร์กซิยาล แม้บอลลอดขาแต่ไม่แรงพอ เลโนจึงตามมาคว้าเอาไว้ได้
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ยูไนเต็ดพลาดโอกาสทองนำห่างอีกครั้งหนึ่ง แฟร์นันเดสที่ส่งให้อีริคเซน ได้ยิงจ่อ ๆ ในกรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาไปอย่างน่าเสียดายในช่วงทดเวลา ทำให้สกอร์ยังคงเป็น 1-0
เริ่มต้นครึ่งเวลาหลังได้เพียง 3 นาที ผู้มาเยือนก็มีโอกาสกดประตูที่ 2 อีกครั้ง เป็นแอนโธนี่ อีแลงก้า ได้หลุดเข้าไปยิง แต่ก็ยังไม่ผ่านมือแบร์นด์ เลโน่ และมาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ซ้ำดาบสอง แต่ฟูแล่มก็ยังช่วยกันสกัดเอาไว้ได้
หลังจากนั้นเป็นช่วงที่ฟูแล่มได้เดินเกมบุกอย่างต่อเนื่อง ในนาทีที่ 52 คาร์ลอส วินิซิอุส ได้ยิงเน้น ๆ บนเส้นกรอบหกหลา และในจังหวะเตะมุมต่อเนื่องกัน เป็นทิม รีม ที่ได้โหม่งจ่อ ๆ หน้าปากประตู แต่เป็นดาบิด เด เคอา ที่โชว์เชฟทั้ง 2 จังหวะไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้ยูไนเต็ดยังไม่เสียประตูตีเสมอ
ยูไนเต็ดเริ่มตกเป็นรอง เ เทน ฮาก ไม่อยู่เฉย รีบส่ง สก็อตต์ แมคโทมิเนย์ ลงมาในนาทีที่ 55 เพื่อเพิ่มแดนกลาง แทน แอนโธนี อีลังกา ด้านฟูแล่ม มาร์โก ซิลวา ก็ขยับเช่นกัน ส่งแดเนียล เจมส์ อดีตนักเตะผีแดง ลงมาแทนแฮร์รี่ วิลสัน ในนาทีที่ 59
ศิษย์เก่า เจมส์ยิงแมนยู
หลังจากนั้นเพียง 2 นาที กฎยิงทีมเก่าก็ทำงาน ฟูแล่มได้ประตูตีเสมอจากจังหวะสวนกลับ ทอม แคร์นีย์ จ่ายจากทางซ้ายให้แดเนียล เจมส์ ยิงบอลเข้าประตูไป พาเจ้าบ้านตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 61 ทำเอาบรรยากาศในเครเวนคอตเทจคึกคักขึ้นทันตา โดยเจ้าตัวให้เกียรติทีมเก่า ไม่ได้แสดงท่าดีใจมากนัก แค่ฉีกยิ้มกว้างเท่านั้น
ฟูแลมยังคงบุกใส่ยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่อง โอกาสได้ลุ้นจะแจ้งอีกครั้งมาจาก ชูเอา ปาลินญา ที่ได้ตีลังกาจักรยานอากาศยิง แต่ยังเอาชนะดาบิด เด เคอา ไม่ได้
เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ยูไนเต็ดพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย ชอว์บรรจงวางให้แม็คโทมิเนย์ ได้โหม่งโล่ง ๆ หน้าปากประตู แต่บอลลอยข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้นในนาทีที่ 83
เด็ก18 พลิกเกมนาทีทดเจ็บ
เกมทำท่าจะจบด้วยผลเสมอ แต่นาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เป็นเจ้าหนู อเลฮานโดร การ์นาโช วัย 18 ปี ที่วิ่งแซงกองหลังฟูแลม รับบอลจากอีริกเซน เข้าไปยิงสวนตัวเลโน่ พาผีแดงขึ้นนำ 2-1 และเก็บ 3 แต้มได้อย่างปาฏิหาริย์ ในนาทีที่ 93
ส่วนผลอีกคู่ก่อนหน้านี้ แอสตัน วิลลา บุกเฉือน ไบรท์ตัน ด้วยสกอร์เดียวกัน 2-1