ฟุตบอลโลก 2022 นัดที่ 2 กลุ่มเอฟ แคนาดาตกรอบ หลังแพ้โครเอเชีย 4-1 ทีมตาหมากรุกลุ้นต่อนัดสุดท้าย แค่เสมอเบลเยียมเพื่อเข้ารอบ
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 การแข่งขันฟุตบอลคู่ดึกวันนี้ เวลา 23.00 น. เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 นัดที่ 2 กลุ่ม F ที่สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม ทีมตาหมากรุก “โครเอเชีย” ดีกรีรองแชมป์เก่า พบ “ทีมชาติแคนาดา”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
โครแอตเกมนี้ค่อนข้างสมบูรณ์ ขาดเพียง นิโกลา วลาซิช ที่มีอาการบาดเจ็บ และนำทัพมาโดยกัปตันทีมจอมเก๋าอย่างลูกา โมดริช ส่วนด้านแคนาดาไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ
เริ่มเกมมาไม่นาน แคนาดาเล่นกันไม่กี่จังหวะจากปากประตูตัวเอง เป็นทาจอน บูชานนา ที่ได้เปิดจากทางขวาให้อัลฟอนโซ่ เดวิส ทะยานขึ้นมาโหม่งเน้น ๆ พาแคนาดาออกนำเร็ว 1-0 ในนาทีที่ 2 สร้างประวัติศาสตร์เป็นประตูแรกที่ทีมชาติแคนาดาสามารถยิงได้ในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และเป็นการทำประตูที่เร็วที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้
หลังจากโดนนำ โครเอเชียก็พับสนามบุกใส่ ทำให้แคนาดาต้องตั้งรับและเล่นจังหวะสวนกลับ ด้วยแนวรุกที่มีความเร็ว ซึ่งสร้างความอันตรายต่อแผงหลังโครแอตไม่น้อย โดยอัลฟอนโซ่ เดวิส ค่อนข้างโดดเด่นและมีอิสระในการเล่น
ในนาทีที่ 20 โครเอเชียส่งบอลเข้าตาข่ายไปแล้วโดย อังเดร ครามาริช แต่ถูกริบประตูคืนเนื่องจากเป็นลูกล้ำหน้า ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนครั้งใหญ่ให้แคนาดา
โครเอเชียได้เซตเกมบุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะจะแจ้งอีกครั้งเป็นของ มาร์โก ลิวายา ที่ยิงไปติดเซฟมิลาน บอร์ยาน ผู้รักษาประตูแคนาดา
ต่อเนื่องจากจังหวะเตะมุม ทีมตาหมากรุกก็มาได้ประตูตีเสมอจากอังเดร ครามาริช ที่หาพื้นที่หนีตัวประกบ และยิงจากทางซ้าย บอลสวนตัวบอร์ยานเข้าประตูไป พาโครเอเชียกลับคืนสู่เกม 1-1 ในนาทีที่ 36
ถัดมาไม่นานทีมตาหมากรุกก็ขึ้นนำ จากจังหวะบุกและแนวรับแคนาดาสกัดกันไม่ขาด ทำให้มาร์โก ลิวายา ได้ซัดเน้น ๆ ส่งบอลเสียบมุมเข้าประตูไป โครเอเชียพลิกแซงก่อนหมดครึ่งแรกในนาทีที่ 44 ด้วยสกอร์ 2-1
เริ่มต้นครึ่งเวลาหลังเพียง 3 นาที แคนาดาเกือบได้ประตูตีเสมอ จากการยิงของโจนาธาน โอโซริโอ ตัวสำรองที่พึ่งลงมา บอลพุ่งผ่านสามเหลี่ยมออกไปอย่างน่าเสียดาย
แต่หลังจากนั้นเกมก็เหมือนกับช่วงท้ายครึ่งแรกแผงหลังของแคนาดายังคงเปิดพื้นที่ให้แนวรุกโครแอต ซึ่งทำท่าจะบวกประตูเพิ่มได้หลายครั้ง โอกาสจะแจ้งเป็นการยิงของครามาริชในกรอบเขตโทษ แต่บอร์ยานยังช่วยให้ทีมไม่เสียประตูเพิ่ม
แคนาดายังไม่ยอม โดยหาโอกาสจบได้เป็นระยะ ที่ได้ลุ้นคือการยิงไกลของโจนาธาน เดวิด ทำให้โดมินิก ลิวาโควิช ต้องผวาปัดข้ามคานออกไป จากนั้นเกมเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผ่านช่วง 50 นาที
โครเอเชียมาได้ประตูทิ้งห่างเป็น 3-1 ในนาทีที่ 70 อิวาน เปริซิช เปิดบอลไปที่เสาไกลให้ ครามาริช ได้จับและยิงโล่ง ๆ บวกประตูที่ 2 ของตัวเองในเกมนี้ ทำโอกาสลุ้นเข้ารอบของแคนาดาน้อยลงไปทุกที
เท่านั้นยังไม่พอทีมตาหมากรุกมาได้ประตูตอกฝาโลงลูกที่ 4 ในช่วงท้ายเกมจากการยิงของโลวโร มาเยอร์ ในนาทีที่ 90+4 ทำให้จบเกมเอาชนะแคนาดาไปได้ 4-1
โครเอเชียอาศัยความเก๋า ไม่ได้เร่งจนรนหลังจากถูกนำเร็ว แต่อยู่ในเกมของตัวเองไปเรื่อย ๆ โดยมีนักเตะอย่างโมดริช และโควาซิช เป็นคีย์แมนสำคัญในการคุมจังหวะ
ตอนนี้ทีมโครแอตมี 4 คะแนน อยู่อันดับที่ 1 ของตารางร่วมกับโมร็อกโก โดยมีคิวลงเตะนัดสุดท้ายของกลุ่มเอฟกับเบลเยียมในวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคมนี้ ซึ่งขอเพียงผลเสมอก็จะผ่านเข้าสู่รอบรอบน็อคเอาต์ต่อไป