สรุปผลฟุตบอลโลก 2022 กลุ่ม D นัดสุดท้าย ฝรั่งเศส-ออสเตรเลีย เข้ารอบ 16 ทีม แม้ฝรั่งเศสจะแพ้ตูนิเซีย 0-1 แต่ยังเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ขณะที่ออสเตรเลียเฉือนเอาชนะเดนมาร์กไปได้ 1-0 มี 6 แต้มเช่นกัน เข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม D
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 วันนี้ เวลา 22.00 น. เป็นการแข่งขันในกลุ่ม D นัดสุดท้าย ระหว่างออสเตรเลีย กับ เดนมาร์ก และ ตูนิเซีย กับ ฝรั่งเศส โดยฝรั่งเศสได้เปรียบมี 6 แต้ม เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- สหรัฐปรับ เอสซีจี พลาสติกส์ ละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน เรื่องเป็นอย่างไร บริษัทไหนเกี่ยวบ้าง ?
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
ก่อนแข่ง ออสเตรเลียมี 3 แต้มจากการชนะมา 1 นัดและแพ้ 1 นัด ขณะที่เดนมาร์กเสมอมา 1 นัด แพ้ 1 นัดมีแต้มเดียว ส่วนฝรั่งเศสชนะมา 2 นัด มี 6 แต้มเต็ม เข้ารอบแน่นอนแล้ว ด้านตูนิเซียมีแต้มเดียวจากการเสนอ 1 นัดและแพ้มา 1 นัด
นัดนี้ทั้งเดนมาร์กและตูนิเซียยังพอมีความหวังที่จะเข้ารอบเป็นที่สอง หากออสเตรเลียแพ้ จึงต้องชนะไว้ก่อน ส่วนเดนมาร์กไม่มีทางเลือกต้องชนะอย่างเดียว เพราะถ้าหากเสมอจะเป็นออสเตรเลียที่เข้ารอบรองแชมป์กลุ่มไป
เกมนี้ออสเตรเลียใช้ระบบ 4-3-3 ผู้เล่น 11 ตัวจริงประกอบด้วย แม็ทธิว ไรอัน (กัปตันทีม) / มิลอส เดเกเน็ก, ไค โรลส์, แฮร์รี่ ซูตตาร์, อาซิซ เบฮิช / อารอน มอย, ไรลีย์ แม็คกรี, แจ็คสัน เออร์วิน / แม็ทธิว เล็คกี้, เคร็ก กู๊ดวิน, มิตเชลล์ ดุ๊ก
ส่วนเดนมาร์กเล่นระบบ 4-3-3 เช่นกัน 11 ตัวจริง ได้แก่ แคสเปอร์ ชไมเคิล / ราสมุส คริสเตนเซ่น, โยอาคิม อันเดอร์เซ่น, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, โยอาคิม เมห์เลอ, ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบียร์ก, คริสเตียน อีริกเซ่น (กัปตันทีม) / มัทเธียส เยนเซ่น, มาร์ติน เบรธเวต, เยสเปอร์ ลินด์สตรอม
เริ่มเกมเป็นเดนมาร์กที่โหมใส่อย่างหนัก เพราะเสมอก็ตกรอบ โดยเดนมาร์กเปิดฉากทักทายตั้งแต่เขี่ยบอลเริ่มเล่น และอีริกเซ่นเกือบได้บอลในกรอบเขตโทษ แต่เดเกเน็กเคลียร์ออกไปได้
นาที 7 เมห์เลอเปิดบอลเรียดเข้าไปให้เบรธเวตชาร์จระยะเผาขน แค่ไรอัน นายทวารออสเตรเลีย ออกมาคว้าเอาไว้ได้ก่อน
นาที 11 เยนเซ่นหลุดกับดักล้ำหน้า ไล่กวดบอลทางฝั่งขวา ก่อนซัดเต็มข้อ แต่ไรอันกระโดดปัดสองมือออกไปได้อีก
นาที 19 ไรอันต้องออกแรงอีกครั้ง เมื่อเมห์เลอเปิดบอลเข้ากลาง ลูกไปแฉลบซูตตาร์ ผู้เล่นออสเตรเลีย แต่ไรอันยังไวคว้าบอลไว้ได้
จบครึ่งแรกทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง ออสเตรเลียปรับเกมมาดีขึ้น สามารถครองเกมบุกได้มากกว่าเดนมาร์กที่บางช่วงดูจะชอตไป และมีลุ้นประตูในนาที 48 แม็คกรีเปิดบอลให้เออร์วินในกรอบเขตโทษ แต่เออร์วินซัดข้ามคาน
นาที 60 ออสเตรเลียกลายเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะสวนกลับหลังตัดบอลจากเดนมาร์ก และแม็คกรีเปิดบอลให้เล็คกี้ซึ่งออกวิ่งจากแดนตัวเองไปรับบอลและพาบอลเข้ากรอบเขตโทษ ล็อกหลบผู้เล่นเดนมาร์ก 2 คน และยิงเข้าไปตุงตาข่าย
เดนมาร์กพยายามโหมบุกอย่างหนักช่วงท้ายเกมและช่วงทดเวลา แต่ออสเตรเลียเหนียว เตะพ้นหน้าประตูไว้ก่อน หลังจากนั้นทำอะไรกันไม่ได้ ออสเตรเลียชนะเดนมาร์กไป 1-0
ขณะที่อีกคู่หนึ่ง ตูนิเซียพลิกชนะฝรั่งเศส 1-0 หลังฝรั่งเศสส่งตัวสำรองส่วนใหญ่ลงสนาม เพราะเข้ารอบไปแล้ว
แต่หลังเสียประตูฝรั่งเศส เริ่มทยอยเปลี่ยนเอาผู้เล่นตัวจริงอย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป, อุสมาน เดมเบเล, อองตวน กรีซมันน์, อาเดรียง ราบิโอต์ ลงมาในสนามและโหมบุกหนักต่อเนื่อง
กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ กรีซมันน์ ได้โอกาสเก็บตกซัดตีเสมอให้ ฝรั่งเศสไปแล้ว แต่สุดท้ายวีเออาร์ เช็กให้เป็นลูกล้ำหน้า ทำให้จบเกม ตูนิเซีย ชนะ ฝรั่งเศสไป 1-0
จบ 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่มของ D ออสเตรเลียมี 6 คะแนนเท่าฝรั่งเศส แต่ผลต่างประตูได้เสียฝรั่งเศสดีกว่า ออสเตรเลียจึงเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มไปพบแชมป์กลุ่มซีต่อไป ส่วนเดนมาร์กกับตูนิเซียตกรอบ