ฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนตินา ผงาดแชมป์โลก ดวลโทษชนะ ฝรั่งเศส สุดดราม่า

Argentina's Lionel Messi holds the trophy . (AP Photo/Thanassis Stavrakis)

แทบหยุดหายใจ ! เมสซี พา อาร์เจนตินา ผงาดแชมป์โลกสุดดราม่า ดวลจุดโทษชนะ ฝรั่งเศส 4-2 หลัง 120 นาทีสู้กันอย่างสุดมัน 3-3 คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ได้สำเร็จ

วันที่ 18 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แมชต์หยุดโลก รอบชิงชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ระหว่าง อาร์เจนตินา กับ ฝรั่งเศส ซึ่งทั้งสองทีมคว้าแชมป์โลกได้ 2 ครั้งเท่ากัน ดังนั้น ใครเป็นผู้ชนะในนัดนี้จะก็จะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 นอกจากนี้ การแข่งขันนัดนี้ถือเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของ ลิโอเนล เมสซี ในนามกัปตันทีมอาร์เจนตินา

Argentina players sing the national anthem ahead of the World Cup final soccer match. (AP Photo/Martin Meissner)

ก่อนหน้านี้อาร์เจนตินา และฝรั่งเศส เคยเจอกันมาทั้งหมด 12 ครั้งทุกรายการ โดยเป็น อาร์เจนตินา ที่ทำได้ดีกว่าชนะ 6 นัด ฝรั่งเศส ชนะ 3 นัด และเสมอกัน 3 นัด โดยหนล่าสุดที่พบกันคือเมื่อฟุตบอลโลก 2018 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฝรั่งเศส ชนะ 4-3

หากฝรั่งเศสชนะ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ถือว่าพาทัพ “ตราไก่” ชนะในฟุตบอลโลกได้ถึง 14 จาก 18 แมตช์ซึ่งมากที้สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก และเป็นกุนซือที่พาฝรั่งเศสป้องกันแชมป์โลกได้สำเร็จ

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสมาชมด้วย. (AP Photo/Natacha Pisarenko)

สำหรับผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม อาร์เจนตินา ใช้ระบบ 4-4-2 เอมิเลียโน มาร์ติเนซ : นาฮูเอล โมลินา, คริสเตียน โรเมโร, นิโกลัส โอตาเมนดี, นิโกลัส ตายาฟิโก : อังเคล ดิ มาเรีย, โรดริโก เด ปอล, เอ็นโซ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็กอัลลิสเตอร์, ลิโอเนล เมสซี, ฮูเลียน อัลบาเรซ

ส่วนฝรั่งเศส เล่นในระบบ 4-3-3 มี อูโก โยริส : ฌูลส์ คุนเด, ราฟาเอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, เธโอ แอร์กน็องเดซ : อองตวน กรีซมันน์, ออเรเลียง ชูอาเมนี, อาเดรียง ราบิโอต์ : อุสมาน เดมเบเล, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, คีลิยัน เอ็มบัปเป

world cup final
REUTERS/Molly Darlington

ครึ่งแรก อาร์เจนตินา นำ 2-0

ออกสตาร์ตครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นกันได้อย่างสูสีในช่วงแรก ก่อนจะเริ่มเป็นทีมฟ้า-ขาว อาร์เจนตินา ที่เริ่มสร้างโอกาสลุ้นประตูได้หวาดเสียวกว่าทีมแชมป์เก่า

ก่อนที่นาทีที่ 23 เป็นอาร์เจนตินา ที่ปลดล็อกประตูขึ้นนำได้ก่อน จากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย ปีกตัวเก๋า โดน อุสมาน เดมเบเล่ สกัดล้มลงในเขตโทษ และเป็น ลิโอเนล เมสซี รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด พาทีมดังจากแดนละตินออกนำ 1-0

world cup final
Photo by ANP via Getty Images

อาร์เจนตินา ยิ่งเล่นยิ่งดุดัน นาทีที่ 36 มาบวกประตูที่สองได้สำเร็จ อเล็กซิส แม็กอัลลิสเตอร์ ได้หลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจ่ายถวายพานให้ อังเคล ดิ มาเรีย แปเข้าไปตุงตาข่ายแบบเด็ดขาด ทีมฟ้า-ขาว ทิ้งห่าง 2-0 ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ดังกล่าว โดยทีมแชมป์เก่า ยังไม่มีโอกาสยิงประตูแม้แต่ครั้งเดียว 

ครึ่งหลัง ฝรั่งเศสไล่ตี 2-2

ครึ่งหลังเกมยังเป็นอาร์เจนติน่า ที่ทำได้ดีกว่าชัดเจน และอาศัยจังหวะสวนกลับเล่นงานแนวรับฝรั่งเศสเป็นระยะ เวลายิ่งผ่าน อาร์เจนตินาก็ยิ่งเล่นกันแบบมั่นใจมากขึ้น

แต่แล้วนาทีที่ 80 แสงสว่างความหวังของฝรั่งเศสถูกจุดขึ้น เมื่อ นิโกลัส โอตาเมนดี ไปทำฟาล์ว มูอานี ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษแบบไม่ลังเล ก่อนเป็น คีลิยัน เอ็มบัปเป ยิงเข้าไปอย่างเด็ดขาด พาฝรั่งเศส ไล่มาเป็น 1-2 กลับเข้าสู่เกมอีกครั้ง

Photo by Catherine Ivill/Getty Images

และอีกเพียงนาทีเดียว แฟน ๆ อาร์เจนตินา ช็อกทั้งสนาม มาร์กุส ตูราม กระดกบอลเข้าเขตโทษให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป ทิ้งตัววอลเลย์ด้วยขวาเข้าไปสุดสวย พาแชมป์เก่าตีเสมอเป็น 2-2 

ช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-3

30 นาทีของช่วงต่อเวลาพิเศษ เกมยังดุเดือดไม่หยุด แต่เป็นฝรั่งเศสที่ได้แรงฮึดจากการตีเสมอ 2-2 เป็นฝ่ายบุกบ้าง แต่ยังไม่สามารถส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้

Argentina’s forward #10 Lionel Messi scores his team’s third goal. (Photo by Kirill KUDRYAVTSEV / AFP)

ทว่านาทีที่ 109 อาร์เจนตินา เป็นฝ่ายขึ้นนำอีกครั้ง เลาตาโร มาร์ติเนซ ได้บอลบริเวณกราบขวาของเขตโทษ ก่อนยิงด้วยขวา ติดเซฟ ฮูโก ญอริส ก่อนบอลมาเข้าทาง เมสซี ยิงเข้าไป พาอาร์เจนนำอีกครั้งเป็น 3-2 โอกาสขยับเข้าถ้วยแชมป์บอลโลกกลับมาอีกครั้ง

France’s forward #10 Kylian Mbappe celebrates scoring his team’s third goal . (Photo by ADRIAN DENNIS / AFP)

แต่แล้วเหมือนมีคนเขียนบทให้เกมยังไม่จบง่าย ๆ ฝรั่งเศสมาได้จุดโทษในนาทีที่ 118 ก่อนเป็น คีลิยัน เอ็มบัปเป สังหารไปทางซ้ายมือของตัวเอง ตุงตาข่าย เกมกลับมาเสมอกัน 3-3 จบ 120 นาที ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ 

เอ็มบับเป และเมสซี ต่างประเดิมเบิกลูกแรกสำเร็จให้ทีมตัวเอง แต่จากนั้นฝรั่งเศสยิงไม่เข้าสองคนติดกัน คือ คิงสลีย์ โกม็อง และโอเรเลียง ชูอาเมนี ขณะที่อาร์เจนตินา ปิดจ๊อบที่ กอนซาโล มอนติเอล ทำให้กองเชียร์อาร์เจนตินาเฮทั้งน้ำตา เมื่อเอาชนะไป 4-2

Argentina’s Lionel Messi holds the trophy (AP Photo/Hassan Ammar)

อาร์เจนตินาผงาดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ได้สำเร็จ และสร้างประวัติศาสตร์พิเศษให้เมสซี เลิกอกหัก หลังจากเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 และเคยได้รองแชมป์เมื่อปี 2014 ซึ่งตอนนั้นพ่ายเยอรมนี 1-0