เปิดรายได้เลสเตอร์ ซิตี้ เวลา 8 ปี “เจ้าสัววิชัย” ทำมูลค่าสโมสรเพิ่ม 3 เท่าตัว ครองอันดับ 15 ของยุโรป

สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนปี 2010 ที่เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา จะเข้าไปซื้อนั้นเป็นเพียงสโมสรเล็ก ๆ แต่หลังจากที่ตระกูลศรีวัฒนประภา นักธุรกิจตัวจริงจากเมืองไทยเข้าไปบริหารสโมสร เลสเตอร์ก็พัฒนาเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในด้านความสำเร็จของทีมฟุตบอล และด้านการเงิน

รายงานการเงินประจำปีของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ หลังจบฤดูกาล 2016-2017 เลสเตอร์ ซิตี้มีผลประกอบการ (รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและภาษี) 233 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการหลังจบฤดูกาล 2017-2018 ยังไม่มีการเปิดเผยรายงาน

ข้อมูลการประเมินมูลค่าสโมสรเลเสเตอร์ ซิตี้ โดย Forbes เมื่อเดือนมิถุนายน 2561 ซึ่งประเมินจากผลประกอบการฤดูกาล 2016-2017 พบว่า สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้มีรายรับรวมก่อนหักค่าใช้จ่ายและภาษี 408 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,431 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จาก

1.ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด (Broadcasting) 341 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 11,253 ล้านบาท คิดเป็น 68.2% ของรายรับทั้งหมด

2.ขายสินค้า สปอนเซอร์ และโฆษณา (Commercial) 38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,254 ล้านบาท คิดเป็น 7.6% ของรายรับทั้งหมด

3.ค่าตั๋วเข้าชมและบริการต่าง ๆ ในวันแข่งขัน (Match Day) 29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 957 ล้านบาท คิดเป็น 5.8% ของรายรับทั้งหมด

จากตัวเลขรายรับ 408 ล้านดอลลาร์สหรัฐบวกกับมูลค่าแบรนด์ “Leicester City Football Club” ตามการประเมินของ Forbes คือ 92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สรุปออกมาเป็นมูลค่าสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21 % จากปีก่อนหน้า

แต่มีข้อมูลอีกชุดหนึ่งจากการประเมินของ KPMG บริษัทตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ของโลก ที่เปิดเผยใน KPMG Football Clubs’ Valuation report หลังจบฤดูกาล 2016-2017 ประเมินว่า สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ มีมูลค่า 596 ล้านยูโร หรือ 523 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 670.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 22,489 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 29% หากคำนวณจากค่าเงินยูโร และเพิ่มขึ้น 35% หากคำนวณจากค่าเงินปอนด์

การประเมินของ KPMG ยังมีการจัดอันดับอีกว่า เลสเตอร์ ซิตี้เป็นสโมสรที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่ 7 ในประเทศอังกฤษ และเป็นอันดับที่ 15 ในยุโรป มีมูลค่าสูงกว่าทีมบิ๊กเนมของยุโรป อย่าง เอซี มิลาน (514 ล้านยูโร) อินเตอร์มิลาน (491 ล้านยูโร) ซึ่งอันดับในยุโรปก็น่าจะหมายถึงอันดับโลกด้วย เพราะสโมสรฟุตบอลที่มูลค่าสูง ๆ ล้วนแต่เป็นสโมสรในยุโรป

…แล้วตัวเลขมูลค่าสโมสรสำคัญอย่างไร ?

ตัวเลขประเมินมูลค่าสโมสรก็เหมือนการประเมินราคาที่ดิน หรือประเมินทรัพย์สินอื่น ๆ ซึ่งใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงในการตั้งราคาขายสโมสร

หากย้อนกลับไปดูจำนวนเงินที่เจ้าสัววิชัยซื้อสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ เมื่อปี 2010 ในราคา 100 ล้านปอนด์ (จ่ายงวดแรก 40 ล้านปอนด์) เท่ากับว่าในเวลานั้น เลสเตอร์ ซิตี้ มีมูลค่า 100 ล้านปอนด์

ส่วนมูลค่าปัจจุบัน ถ้าอิงตามการประเมินของ Forbes คือ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 389.80 ล้านปอนด์ หรือถ้าอิงตามการประเมินของ KPMG คือ 523 ล้านปอนด์

เท่ากับว่า เวลาเพียง 8 ปี เจ้าสัววิชัยทำให้สโมสรแห่งนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าตัว หรือประมาณ 300%

ตัวเลขเหล่านี้คือผลจากความตั้งใจพัฒนาทีม ถึงแม้เจ้าสัววิชัยและลูกชายเคยบอกไว้ว่าไม่ได้คาดหวังกำไรจากการทำทีมฟุตบอล แต่เมื่อสามารถทำให้ทีมฟุตบอลประสบความสำเร็จ รายได้ก็ย่อมตามมาคู่กัน