กต.เตือนคนไทยไป ตปท. เกิดเหตุ “เกาหลีใต้” ส่งตัวกลับ-ปฏิเสธเข้าเมืองจำนวนมาก

สนามบินสุวรรณภูมิ

กระทรวงการต่างประเทศเตือนคนไทยเดินทางไปต่างประเทศ หลังเกิดเหตุคนไทยถูกส่งกลับ และปฏิเสธเข้า “เกาหลีใต้” จำนวนมาก และเตือนกรณีนำผลิตภัณฑ์ “กัญชง-กัญชา” ไปต่างประเทศ เสี่ยงถูกลงโทษตั้งแต่การปรับเงิน เนรเทศ จำคุกตลอดชีวิต ไปจนถึงประหารชีวิต

วันที่ 20 สิงหาคม 2565 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยข้อมูลว่า ช่วงที่ผ่านมามีคนไทยประสบปัญหาระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ เช่น การถูกส่งตัวกลับประเทศหรือถูกจับกุมตัวดำเนินคดีในต่างประเทศ โดยขอย้ำเตือนให้คนไทยศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก่อนเดินทางไปประเทศนั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปัจจุบันที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย และคนไทยมีแนวโน้มเดินทางไปต่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีกรณีตัวอย่าง ดังนี้

1.การเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการเกาหลีใต้ได้ปฏิเสธการเข้าเมืองของคนไทย 2 เที่ยวบินในเวลาใกล้เคียงกัน รวมถึงมีกรณีปลีกย่อยเกี่ยวกับปฏิเสธการเข้าเมืองอีกจำนวนมาก เนื่องจากพิจารณาจากหลักฐานและข้อมูลแล้วเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่คนไทยเหล่านี้น่าจะมุ่งลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย

กระทรวงการต่างประเทศขอเตือนชาวไทยให้ระมัดระวังอย่าทำผิดกฎหมายการเข้าเมืองของเกาหลีใต้ ซึ่งอาจถูกลงโทษทั้งปรับและจำคุก รวมทั้งขอให้ศึกษาข้อมูล กฎระเบียบการเข้าเมืองของเกาหลีใต้โดยละเอียด และขอประชาสัมพันธ์ว่า ผู้ที่พำนักอยู่ในเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมายไม่ต้องโทษคดีอาญา และได้รับวัคซีนป้องกันโควิดเข็มที่ 3 ภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 ซึ่งเดินทางออกจากเกาหลีใต้ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 จะได้รับการยกเว้นค่าปรับและไม่ถูกบรรจุชื่อในบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าเกาหลีใต้ โดยสามารถไปรายงานตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนการเดินทาง

2.สำหรับกรณีที่หน่วยงานของไทยได้นำกัญชาและกัญชงออกจากบัญชียาเสพติดนั้น กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ในแต่ละประเทศยังมีความแตกต่างกันไป และขอแสดงความห่วงกังวลต่อคนไทยที่อาจลักลอบนำกัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวไปต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย หรือโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งอาจถูกลงโทษตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ โดยโทษมีตั้งแต่การปรับเงิน เนรเทศ จำคุกตลอดชีวิต ไปจนถึงประหารชีวิต จึงขอย้ำเตือนให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายและบทลงโทษของแต่ละประเทศอย่างละเอียดก่อนการเดินทาง

3.กรณีที่ประสงค์ไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบตะวันออกกลาง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี กาตาร์ โอมาน และบาห์เรน ขอให้ระวังการชักชวนจากนายหน้าหรือกลุ่มแม่แท็กที่มักจะชวนให้ไปทำงานประเภทนวดแผนไทย/สปา โดยอ้างว่าไม่ต้องแสดงหลักฐานหนังสือเดินทางและวีซ่า และสามารถเดินทางเข้าช่องทางปกติที่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแล หรือมีเงื่อนไขการทำงานหรือให้ผลตอบแทนที่ดีจนผิดปกติ

กระทรวงการต่างประเทศขอย้ำว่า การเข้าไปทำงานผ่านช่องทางรูปแบบนี้จะไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายใด ๆ และไม่สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและเงินชดเชยได้หากถูกโกงสัญญาจ้างงาน ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกบังคับค้าประเวณี หรือถูกกักบริเวณ เนื่องจากเป็นการลักลอบทำงานโดยใช้วีซ่าผิดประเภท

ทั้งนี้ ขอให้คนไทยที่ประสงค์ไปทำงาน ตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานและรายละเอียดสัญญาว่าจ้างให้รอบคอบ ขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เคารพกฎหมายและกฎระเบียบในท้องถิ่น โดยหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่กระทรวงการต่างประเทศ หรือสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ไทยในประเทศนั้น ๆ หรือช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์หรือเฟซบุ๊ก

หากมีข้อสงสัยหรือประสบปัญหาในต่างประเทศ ท่านสามารถติดต่อ Call Center กรมการกงสุล หมายเลข 0-2-572-8442 ได้ตลอด 24 ชม.