ท่องเที่ยวไทยเริ่มฟื้นไข้ ภูเก็ตนักท่องเที่ยวรัสเซียโต เร่งหาตลาดใหม่ไม่รอจีน

ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม : ท่องเที่ยวไทยเริ่มฟื้นไข้ วอนภาครัฐบูสต์วิตามิน เติมแหล่งทุน ลดภาระภาษี ช่วยธุรกิจเดินต่อ ประเมินภูเก็ตนักท่องเที่ยวรัสเซียโต เชื่อปี’66 ฟื้น 70% เทียบก่อนโควิด แต่จีนยังไม่มาไตรมาสแรก เร่งหาตลาดทดแทน จับตาปัญหาสงคราม เงินเฟ้อ การเมืองไทยหลังเลือกตั้ง

วันที่ 1 ธันวาคม 2565 นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวในไตรมาส 4 ถือว่าฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว นักท่องเที่ยวชาวยุโรปเดินทางเข้าประเทศไทยคิดเป็นระดับ 60% เมื่อเทียบกับปี 2562 แม้ประเทศในทวีปยุโรปยังเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อ รวมถึงปัญหาเที่ยวบินขาดแคลน และพบว่านักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสและรัสเซียเดินทางเข้าประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยอยู่ที่ราว 60,000 คนต่อวัน ส่วนจังหวัดภูเก็ตประเมินว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติราว 10,000-12,000 คน จึงคาดว่าในปี 2565 นี้ ประเทศไทยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยตั้งเป้าหมายไว้

“แม้ว่าจะยังมีสงครามรัสเซีย-ยูเครนอยู่ แต่สายการบินสัญชาติรัสเซียได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการใช้เครื่องบิน เมื่อไฟลต์บินต่างประเทศเข้ามา รวมถึงรัสเซียเข้ามาก็ช่วยได้เยอะ” นายภูมิกิตติ์กล่าว

รัสเซีย ดาวเด่นภูเก็ต

นายภูมิกิตติ์กล่าวว่า ตลอดทั้งปี 2565 ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต 4.7-4.8 ล้านคน นักท่องเที่ยวชาวไทยราว 1.5-1.7 ล้านคน ฟื้นตัวราว 50% ของปี 2562 ก่อนการระบาดโควิด-19 คาดสร้างรายได้ราว 4 แสนล้านบาท หรือ 45% ของปี 2562

โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามามากสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.รัสเซีย 2.อินเดีย และ 3.ออสเตรเลีย พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะชาวรัสเซีย ที่เข้ามาอยู่ไทยนานขึ้นเฉลี่ย 15 วัน จาก 12 วัน ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาราคาพลังงาน รวมถึงเงินเฟ้อในประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมายังประเทศไทย

ขาดแรงงาน-ไร้ทุน-ไฟลต์มีน้อย

นายภูมิกิตติ์กล่าวว่า โรงแรมในภูเก็ตกลับมาเปิดบริการประมาณ 80% แต่อาจมีธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กที่ยังไม่สามารถกลับมาดำเนินกิจการได้ เนื่องจากขาดแคลเงินทุน ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว คาดว่ากลับมาให้บริการเกือบ 100% แล้ว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันภูเก็ตเริ่มประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน จึงเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการปรับระบบการเรียนการสอน อนุญาตให้นักเรียน-นักศึกษาทำงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเก็บเป็นหน่วยกิตได้ เพราะจุดเด่นของภาคการท่องเที่ยวไทยคือแรงงาน การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอาจช่วยได้ส่วนหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญยังเป็นแรงงานคนอยู่

ส่วนการปลดล็อกโรงแรมขนาดเล็ก 10 ห้อง ไม่ต้องจดทะเบียนเป็นโรงแรมนั้น อยู่ในระหว่างการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย และประเมินว่าหากสามารถปลดล็อกข้อจำกัดดังกล่าวได้ จะสามารถทำให้ผู้ประกอบการที่พักขนาดเล็กเข้าถึงเงินทุนได้

นายภูมิกิตติ์ระบุว่า แม้มีสัญญาณการเร่งตัวของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย แต่เชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวคลายความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19 พร้อมกันนี้ อยากเสนอรัฐบาลพิจารณาความช่วยเหลือแก่ภาคท่องเที่ยว เช่น การเร่งฉีดวัคซีนบูสเตอร์ชอต

รวมถึงแก้ปัญหาจำนวนเที่ยวบินมีน้อยกว่าความต้องการ โดยอาจขอความร่วมมือการบินไทยออกแบบกลยุทธ์ให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติด้านการท่องเที่ยว ภายใต้ข้อจำกัดของการฟื้นฟูกิจการ เช่น เปิดเส้นทางบินอื่นนอกเหนือจากกรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังต้องจับตาตลาดคู่แข่งอื่น ๆ เช่น บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ดานัง ประเทศเวียดนาม แม้แหล่งท่องเที่ยวอาจไม่ครบรสเท่าประเทศไทย แต่เริ่มเห็นสัญญาณนักท่องเที่ยวจากประเทศแถบสแกนดิเนเวียหันเหไปยังตลาดดังกล่าวมากขึ้น

“การท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัว เหมือนคนไข้กำลังฟื้นไข้ รัฐควรเติมวิตามินเข้าไป เช่น เติมแหล่งเงินทุนให้แก่ภาคท่องเที่ยว ลดภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยอาจชะลอการเก็บ หรือลดเปอร์เซ็นต์ ภาคท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นไข้ก็จะวิ่งต่อไปข้างหน้าได้” นายภูมิกิตติ์กล่าว

ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต

มองหาตลาดใหม่ทดแทนจีน

นายภูมิกิตติ์กล่าวว่า ในปี 2566 ประมาณการรายได้ภาคการท่องเที่ยวของภูเก็ตจะฟื้นกลับมาประมาณ 70% ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา 80% ของก่อนโควิด-19 ทั้งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานว่าไม่มีปัจจัยลบอื่นเข้ามาแทรกซ้อน รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนเริ่มเดินทางเข้าประเทศไทย โดยประเมินว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน (22 มกราคม 2566) ทางการจีนอาจยังไม่ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทาง และคาดว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้นในไตรมาส 3 ของปี 2566

“ตอนนี้ภาคเอกชนทำงานบนฐานคิดที่นักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมา โดยเน้นมองหาตลาดการท่องเที่ยวใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และประเทศเพื่อนบ้าน” นายภูมิกิตติ์กล่าว

ส่วนความท้าทายของภาคการท่องเที่ยวในปี 2566 ประเมินว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยังส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของชาวยุโรป การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางของจีน รวมถึงการปรับแนวคิดสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน จะสร้างแรงกดดันต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยว จากการที่ธุรกิจยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านได้ง่ายนัก

ด้านปัจจัยในประเทศ นายภูมิกิตติ์แนะว่าผู้ประกอบการต้องจับตาสถานการณ์หลังการเลือกตั้งในปีหน้า ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด รวมถึงภาวะเงินเฟ้อจากต้นทุนราคาพลังงานที่สูงจะส่งผลกระทบต่อภาคท่องเที่ยวมากเพียงใด