“ไทยเที่ยวนอก” ฟื้นแรง! คาดปีนี้พุ่ง 8 ล้านคน/ญี่ปุ่น (ยัง) ฮอต

ไทยเที่ยวนอก

ปี 2562 เป็นปีที่มีจำนวนคนไทยเที่ยวต่างประเทศสูงสุดด้วยจำนวนประมาณ 10.5 ล้านคน มีมูลค่าการใช้จ่ายรวมราวกว่า 3 แสนล้านบาท และหลังโควิดพบว่าคนไทยเริ่มทยอยออกไปเที่ยวต่างประเทศตั้งแต่กลางปี 2565 และมีจำนวนชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงต้นปี 2566

และเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลังวิกฤตโควิดและกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) จึงได้จัดงานมหกรรม “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก” ครั้งที่ 28 หรือ TITF#28 ขึ้นระหว่าง 16-19 กุมภาพันธ์ 2566

“ญี่ปุ่น-เกาหลี-ไต้หวัน” ยังฮอต

“เจริญ วังอนานนท์” นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) บอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือ “ไทยเที่ยวนอก” เริ่มฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ขณะที่สายการบินเริ่มกลับมาให้บริการในบางเส้นทาง รวมถึงเพิ่มความถี่มากขึ้น

โดยเส้นทางที่ได้รับความนิยมคือ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง ปัจจุบันมีส่วนแบ่งเกิน 50% ของตลาดรวม ขณะเดียวกันก็มีตลาดใหม่ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเริ่มเดินทางไปเยือนมากขึ้น เช่น เวียดนาม ลาว และมาเลเซีย

“เจริญ” บอกด้วยว่า จากการพูดคุยกับทางองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น หรือ JNTO ได้ข้อมูลว่า JNTO ตั้งเป้าทั้งปี 2566 มีชาวไทยไปเยือน 1.3 ล้านคน ใกล้เคียงกับก่อนโควิดระบาด ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าหลังจากนี้นักท่องเที่ยวจะทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ราคาทัวร์ทรงตัวในระดับสูง

สำหรับราคาแพ็กเกจทัวร์นั้นในช่วงแรกที่บางประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้าออกพรมแดน ราคาแพ็กเกจทัวร์เคยพุ่งสูงขึ้นถึง 40-50% จากต้นทุนราคาบัตรโดยสารเครื่องบินและต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ปัจจุบันเมื่อสายการบินเริ่มกลับมาให้บริการมากขึ้น ราคาบัตรโดยสารเริ่มลดลง แต่ราคาทัวร์ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง

Advertisment

อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าแนวโน้มของตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศจะฟื้นตัวชัดเจนยิ่งขึ้นในช่วงไตรมาส 2/2566 เนื่องจากยังมีบางประเทศที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางหลายประเทศคนไทยยังไม่เดินทางไปเยือน

“เม.ย.-พ.ค.” ญี่ปุ่นคิวจองแน่น

สอดคล้องกับ “เอนก ศรีชีวะชาติ” นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น และประธาน “ยูนิไทย แทรเวล” ที่บอกกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สำหรับปี 2566 นี้ นักท่องเที่ยวชาวไทยออกเดินทางต่างประเทศมากขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี จากปัจจัยความตึงเครียดของสงครามที่ผ่อนคลายลง แต่ก็ยังต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

Advertisment

โดยหากมองเฉพาะตลาดการท่องเที่ยวญี่ปุ่น พบว่ามีชาวไทยเดินทางไปเยือนเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวมีทั้งกลุ่มเดินทางด้วยตนเอง (FIT) และนักท่องเที่ยวที่เดินทางกับทัวร์ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน

ทั้งนี้ จากข้อมูลยังพบว่าราคาทัวร์เส้นทางญี่ปุ่นยังสูงกว่าระดับก่อนโควิด-19 ระบาด ราว 20% ขณะที่เส้นทางอื่นอย่างเกาหลีเพิ่มขึ้นจากเดิมราว 10%

“ช่วงวันหยุดยาวเดือนเมษายน-พฤษภาคม ทัวร์ญี่ปุ่นค่อนข้างแน่น บางทัวร์อาจใกล้เต็มจนอาจต้องเพิ่มเส้นทางอื่น แต่ถ้าซัพพลายเออร์ปลายทางยังรับคนได้อีกก็อาจมีการเพิ่มจำนวน แต่ปัญหาตอนนี้คือที่นั่งเที่ยวบินยังมีน้อยอยู่”

อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นยังเดินทางเข้าประเทศไทยในจำนวนที่น้อยกว่าอดีตมาก ซึ่งมองว่าน่าจะเกิดจากปัญหาด้านเศรษฐกิจในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้น

ไทยเที่ยวนอก

แนะปรับตัวรับตลาดเปลี่ยน

“เอนก” ให้ข้อมูลอีกว่า ปัจจุบันพฤติกรรมของนักเดินทางชาวไทยเปลี่ยนไป มีการเดินทางในขนาดที่เล็กลง เชื่อว่าในภาพรวมนั้น นักท่องเที่ยวยังใช้บริการบริษัททัวร์อยู่ แต่ไม่ได้ซื้อแพ็กเกจทั้งหมดกับบริษัททัวร์ บางส่วนเลือกจองเอง

ดังนั้น บริษัททัวร์จึงต้องปรับการให้บริการให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น ให้บริการจองเฉพาะตั๋วเครื่องบิน หรืออาจขายเฉพาะทัวร์ให้กับนักท่องเที่ยวที่มีตั๋วเครื่องบินอยู่แล้ว

ปิดฉาก TITF 2023 สวยงาม

ด้าน นายธนพล ชีวรัตนพร อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว และประธาน บริษัท แตงโมทัวร์ จำกัด ให้ข้อมูลว่า สำหรับงานมหกรรม “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก” ครั้งที่ 28 Thai International Travel Fair 2023 (TITF#28) ที่จัดขึ้นระหว่าง 16-19 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมานั้นได้รับความสนใจมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้

โดยผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่มีเป้าหมายชัดเจนว่ามาเพื่อซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวล่วงหน้าซึ่งส่วนใหญ่มีการจองถึงช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2566 นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่มองหาแพ็กเกจการท่องเที่ยวยาวกันถึงช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ทำให้ยอดการขายภายในงานอยู่ในระดับที่เกินคาดหมาย

คาดปีนี้พุ่ง 8 ล้านคน

ทั้งนี้ เส้นทางที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องยังคงเป็นญี่ปุ่น ยุโรป เหมือนเดิม ขณะที่ฮ่องกง เวียดนาม เกาหลี ไต้หวัน ก็มีแนวโน้มดีต่อเนื่องเช่นกัน

“วันนี้ลูกค้ารู้ว่าต้นทุนค่าตั๋วเครื่องบินยังสูงต่อเนื่อง และส่วนใหญ่เข้าใจสถานการณ์และยอมจ่ายในราคาที่สูงขึ้น แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังราคาตั๋วเครื่องบินอาจปรับลดลงมาได้บ้าง เนื่องจากสายการบินเริ่มเพิ่มจำนวนที่นั่ง และเพิ่มเส้นทางบินใหม่ ๆ กันมากขึ้น”

“ธนพล” บอกด้วยว่า จากการตอบรับที่ดีบวกกับบรรยากาศการเดินทางเที่ยวนอกของคนไทยที่คึกคักขึ้น ทำให้คาดว่าปีนี้น่าจะมีจำนวนคนไทยเที่ยวนอกถึงประมาณ 8 ล้านคน หรือราว 70-80% ของปี 2562

ทั้งนี้ เนื่องจากการเดินทางง่ายและสะดวกขึ้น โดยเฉพาะเรื่อง “วีซ่า” ที่ปัจจุบันขั้นตอนการขอวีซ่าของประเทศในยุโรปสะดวกขึ้นกว่าเดิมค่อนข้างมาก และญี่ปุ่นก็ยังใช้ระบบฟรีวีซ่าเหมือนเดิม…