CENTEL กางแผนปี 2566 รุกขยาย 6 โรงแรม หวังรายได้ห้องพักโต 30%

เซ็นทารา

CENTEL กางแผนปี 2566 รุกขยายโรงแรม 5 แห่งทั่วไทย พร้อมเปิดตลาดญี่ปุ่น เปิดตัว “เซ็นทารา แกรนด์ โอซากา” หวังรายได้ห้องพักโตกว่า 30% มองต่างชาติเข้าไทยเพิ่มขึ้น แต่เที่ยวบินน้อยยังเป็นอุปสรรค

วันที่ 3 มีนาคม 2566 นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่า สถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น

โดยหนึ่งในนั้น พบว่านักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้น และเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง (FIT) ทำให้คาดว่าในปี 2566 นี้ รายได้ต่อห้องพักและอัตราการเข้าพักน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น

ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์

อย่างไรก็ตาม จำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศยังมีจำนวนเพียง 60-70% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนการระบาดโควิด-19 จึงถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตา ทั้งนี้ ประเมินว่าสายการบินจะเริ่มกลับมาให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศมากขึ้นจนใกล้เคียงกับปริมาณเดิมได้ ในช่วงปลายปี 2566 ถึงต้นปี 2567

นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และรองประธานฝ่ายการเงินและฝ่ายบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่าในปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 40 ของเซ็นทารา เราเดินหน้าขยายธุรกิจและโรงแรมไปยังตลาดใหม่ทั่วโลก พร้อมพัฒนาคอนเซ็ปต์แบรนด์โรงแรมใหม่ ๆ โดยมีเป้าหมายเติบโตและก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 100 แบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกภายในปี 2570

กันย์ ศรีสมพงษ์

ตั้งเป้าปี’66 อัตราเข้าพัก 65-72%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา โดยระบุว่า ในปี 2565 เซ็นทารามีรายได้รวมอยู่ที่ 18,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57%

บริษัทมีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวมอยู่ที่ 4,411 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120% เทียบปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 398 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งขาดทุนสุทธิ 1,734 ล้านบาท โดยมีภาพรวมของอัตราการเข้าพัก (OCC Rate) อยู่ที่ 52% และราคาห้องพักเฉลี่ย (ARR) อยู่ที่ 4,791 บาท ส่งผลให้รายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPar) เพิ่มขึ้น 193% เทียบปีก่อน เป็น 2,486 บาท

จากข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เซ็นทารามีโรงแรมและรีสอร์ตในเครือทั้งหมด 92 แห่ง (เปิดให้บริการแล้ว 50 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนา 42 แห่ง) มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 19,348 ห้องพัก ใน 13 ประเทศ

รายงานระบุว่า เซ็นทาราคาดว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ย ในปี 2566 จะอยู่ที่ 65-72% และรายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPar) เติบโต 30-37% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 3,250-3,400 บาท

โดยการเติบโตของ RevPar มาจากอัตราการเข้าพักที่เพิ่มขึ้น และราคาห้องพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากโรงแรมต่างประเทศ เช่นที่ในมัลดีฟส์ ดูไบและญี่ปุ่นที่ราคาเฉลี่ยสูงกว่าราคาห้องพักในประเทศไทย

รุกเปิด 6 โรงแรม ไทย-เทศ

สำหรับแผนการขยายโรงแรมในไทยในปีนี้ เซ็นทาราเตรียมพร้อมเปิดให้บริการโรงแรมภายในประเทศเพิ่ม 5 แห่ง ได้แก่ ในจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 160 ห้องพัก (เปิดให้บริการวันที่ 10 มีนาคม)

จังหวัดระยอง จำนวน 200 ห้องพัก (ไตรมาส 3), จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 110 ห้องพัก (ไตรมาส 3), จังหวัดอยุธยา จำนวน 224 ห้องพัก (ไตรมาส 4) และบนเกาะสมุย จำนวน 61 ห้องพัก (ไตรมาส 3) รวมถึงการลงนามสัญญาบริหารโรงแรมเพิ่มอีก 5 แห่งในไทย ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดกระบี่ และจังหวัดเชียงราย

ในส่วนของการเติบโตในตลาดต่างประเทศ เซ็นทาราจะเปิดให้บริการโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซากา โรงแรมแห่งแรกภายใต้แบรนด์เซ็นทาราแกรนด์ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ upper upscale ตั้งอยู่ใจกลางเมืองในย่านนัมบะ มีความสูง 33 ชั้น พร้อมห้องพักจำนวน 515 ห้อง

โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 นี้ นอกจากนี้ เซ็นทารายังมีแผนเปิดสำนักงานในหัวเมืองสำคัญอย่างโฮจิมินห์ เซี่ยงไฮ้ และดูไบในปีนี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต รวมถึงมีแผนเปิดสำนักงานเพิ่มอีกแห่งในโอซาก้าในปีหน้า เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจในภูมิภาค

นอกจากนั้น เซ็นทารายังตั้งเป้าลงนามสัญญาบริหารโรงแรมใหม่เพิ่มอีก 10 แห่ง ในต่างประเทศ ณ จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อาทิ เวียดนามและกาตาร์ และเซ็นทารายังเตรียมขยายความสำเร็จของแบรนด์เซ็นทารา รีเซิร์ฟ สู่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวหลักอื่น ๆ อาทิ ในพื้นที่หัวหิน กระบี่ และมัลดีฟส์

ทั้งนี้ กลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของเซ็นทาราในตลาดต่างประเทศ คือการลงนามสัญญาบริหารเพื่อเปิดให้บริการโรงแรมในประเทศกลุ่มอาเซียน อาทิ สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม

รวมถึงการจับมือร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำในจีนเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยมีกลุ่มประเทศในตะวันออกกลางเป็นตลาดหลักของเซ็นทารา อย่างไรก็ดี เซ็นทารายังคงมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในหัวเมืองท่องเที่ยว เพื่อเติบโตธุรกิจในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง