สปริงแอร์ไลน์ เตรียมเพิ่มความถี่บิน ไทย-จีน เป็น 82 ไฟลต์ต่อสัปดาห์

เครื่องบินสายการบินสปริงแอร์ไลน์ส ทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานเซี่ยงไฮ้-หงเฉียว
เครื่องบินของสายการบินสปริงแอร์ไลน์ ทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานเซี่ยงไฮ้-หงเฉียว (Photo by JOHANNES EISELE / AFP)

สปริงแอร์ไลน์จัดหนัก เตรียมเพิ่มความถี่เที่ยวบินไทย-จีน เป็น 82 ไฟลต์ต่อสัปดาห์ พร้อมพิจารณาเพิ่มอีกหากมีดีมานด์มากขึ้น

วันที่ 20 มีนาคม 2566 นายจาง อู่อัน โฆษกประจำสายการบินสปริงแอร์ไลน์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นประเทศปลายทางยอดนิยมสําหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน ประกอบกับเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางการจีนลดระดับมาตรการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 20 ประเทศแรกที่รัฐบาลจีนอนุญาตให้มีการเดินทางออกนอกประเทศแบบหมู่คณะได้

ปัจจุบันสายการบินสปริงแอร์ไลน์ เป็นสายการบินที่มีเส้นทางบินเชื่อมไทย (กรุงเทพฯ, ภูเก็ต หรือเชียงใหม่) บินตรงไปยังเมืองต่าง ๆ ของประเทศจีน ได้แก่ กว่างโจว (CAN), เซี่ยงไฮ้ (PVG), หนานหนิง (NNG), ซีอาน (XIY), หนิงโป (NGB), หนานชาง (KHN), หลานโจว (LHW) และเจียหยาง (SWA)

นอกจากนี้ สายการบินสปริงแอร์ยังมีการเพิ่มความถี่ในเส้นทาง “กรุงเทพฯ-เซี่ยงไฮ้” และ “ภูเก็ต-เซี่ยงไฮ้” อีกด้วย ทำให้ปัจจุบันมีเที่ยวบินเส้นทางระหว่างไทย-จีน มากถึง 62 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และพบว่าปัจจุบันเส้นทางระหว่างไทย-จีน มีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Average Load factor) เฉลี่ยอยู่ที่ 95%

นายจางกล่าวว่า ในวันที่ 26 มีนาคม 2566 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นฤดูการบินฤดูร้อน (Summer Schedule) สปริงแอร์ไลน์ได้กลับมาให้บริการเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-เฉิงตู พร้อมเพิ่มความถี่ในเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-เจียหยาง และกรุงเทพฯ-หนิงโป ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส A320 มีจํานวนที่นั่ง 180-186 ที่นั่ง และแอร์บัส A321 มีจํานวนที่นั่ง 240 ที่นั่ง

แผนดังกล่าวจะทำให้สายการบิน มีเที่ยวบินให้บริการเชื่อมไทย-จีน จำนวน 82 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และสายการบินอาจเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-หนานหนิง

“เที่ยวบินภายในประเทศของสปริงแอร์ไลน์ฟื้นตัวกลับมาแล้วถึง 80% แต่เที่ยวบินระหว่างประเทศฟื้นตัวแค่เพียง 20% เท่านั้น อย่างไรก็ดี เส้นทางระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยนั้น ฟื้นตัวได้เร็วกว่าเส้นทางระหว่างประเทศในเส้นทางประเทศอื่น ๆ เป็นอย่างมาก” นายจางกล่าว

นายจางกล่าวต่อไปว่า ความต้องการของนักท่องเที่ยวและบริษัทนำเที่ยวที่มีมากขึ้น ทำให้บริษัทนำเที่ยวหลายบริษัทสอบถามเข้ามาเกี่ยวกับการเช่าเหมาลำ ตัวอย่างเช่น เส้นทาง หนานชาง (KHN) และเจียหยาง (SWA) ที่บินตรงสู่ประเทศไทย ปัจจุบันบริษัทนำเที่ยวได้เหมาที่นั่งไปหมดแล้ว

ส่วนภาพรวมการท่องเที่ยวต่างประเทศ นายจางประเมินว่า แม้เที่ยวบินระหว่างประเทศจะยังฟื้นตัวไม่มากนัก แต่ดูจากความต้องการเดินทางที่มีแนมโน้มที่สูงมากขึ้น คาดการณ์ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว High Season นี้ จากความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน ทางสายการบินของเราจะเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางต่างประเทศอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ สายการบินสปริงแอร์ไลน์ เป็นสายการบินเอกชนรายใหญ่ของประเทศจีน สํานักงานใหญ่ตั้งอยู่ในมหานครเซี่ยงไฮ้ ปัจจุบันมีฝูงบินจำนวน 116 ลำ ให้บริการ 320 เส้นทางบิน มีฐานปฏิบัติการบินที่ท่าอากาศยานเซี่ยงไฮ้-หงเฉียว และท่าอากาศยานเซี่ยงไฮ้-ผู่ตง ในมหานครเซี่ยงไฮ้, เฉิงหยาง, หนิงโป, เจียหยาง, หยางโจว, เสิ่นเจิ้น และฉือเจียจวง