AWC หนุนเชียงใหม่ขึ้นแท่น “ทัวริสต์เดสติเนชั่น” โลก

AWC

AWC หนุนเชียงใหม่ขึ้นแท่น “ทัวรีสต์ เดสติเนชั่น” ระดับโลก ต่อจิ๊กซอว์ 12 พร็อพเพอร์ตี้ในเครือทั้งโรงแรม รีเทล บนที่ดินกว่า 100 ไร่ใจกลางเมือง สร้างอาณาจักร “ล้านนา ทีค” ไลฟ์สไตล์ เดสติเนชั่น ดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ล่าสุดทุ่มกว่า 300 ล้านบาทรีแบรนด์ห้างพันธุ์ทิพย์สู่ THE PANTIP LIFESTYLE HUB ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมเปิดตัว “อินเตอร์คอนติเนนตัล” โรงแรมหรูสุดในเชียงใหม่กลางปีนี้

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า นอกจากทำเลกรุงเทพฯแล้ว บริษัทยังได้ทุ่มลงทุนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และมีแผนเชื่อมโยงธุรกิจในเครือทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพื่อให้เชียงใหม่เป็นพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยว หรือ tourist destination ระดับโลกอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย

โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่บริหารและอยู่ในระหว่างการบริหารทั้งหมดรวม 12 แห่ง รวมพื้นที่กว่า 100 ไร่ อาทิ โรงแรม 4 แห่ง คือ โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ (กำลังรีแบรนด์เป็นแบรนด์แมริออท), โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่, โรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ และโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง (เดิมคือโรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิง)

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่รีเทล เช่น กาแล มาร์เก็ต, เดอะ พลาซ่า, ไนท์ บาซาร์, สุริวงศ์, ห้างพันธุ์ทิพย์, ตลาดอนุสาร เป็นต้น

นางวัลลภากล่าวว่า ขณะนี้กำลังพัฒนาโลเกชั่นของพร็อพเพอร์ตี้ในเครือในส่วนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกันจำนวน 5 พร็อพเพอร์ตี้ให้อยู่ภายใต้โครงการที่เรียกว่า “ล้านนา ทีค” ประกอบด้วย โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่, กาแล มาร์เก็ต, ไนท์ บาซาร์, เดอะ พลาซ่า และโรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ (กำลังรีแบรนด์เป็นแบรนด์แมริออท) พร้อมทั้งลงทุนพัฒนา attraction ด้านการท่องเที่ยว ให้เป็น “ไลฟ์สไตล์ เดสติเนชั่น” ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าเชียงใหม่

“ตอนนี้แผนงานทั้งหมดอยู่ระหว่างรอสรุปรายละเอียด โดยในส่วนของการลงทุนเพื่อพัฒนา attraction ด้านการท่องเที่ยวนั้นกำลังเจรจากับพันธมิตร คาดว่าจะสามารถเปิดตัวเฟสแรกได้ในช่วงปลายปี 2566 นี้” นางวัลลภากล่าว

และว่าล่าสุดบริษัทได้ลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท สำหรับปรับโฉมห้างพันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่ เป็น THE PANTIP LIFESTYLE HUB เชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด “EVERY HAPPINESS
FOR EVERYONE” เพื่อสู่การเป็น “ไลฟ์สไตล์ เดสติเนชั่น” จุดหมายปลายทางแห่งความสุขร่วมกันของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติบนทำเลใจกลางเมืองจังหวัดเชียงใหม่

ผ่านการสร้างสรรค์ 3 ประสบการณ์สำคัญที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกช่วงวัย ประกอบด้วย 1.ATTRACTIONS : แลนด์มาร์กสำหรับกิจกรรมความสนุกหลากหลายเสมือนห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่สุด (THE LARGEST LIVING ROOM) ในจังหวัดเชียงใหม่

ด้วยการจัดสรรพื้นที่มากกว่า 3,800 ตร.ม. ที่รวบรวมทุกกิจกรรมของทุกคนในครอบครัว ครบครันด้วยร้านค้าและบริการ ศูนย์การเรียนรู้ชั้นนำ สนามเด็กเล่น เสริมสร้างประสบการณ์สำหรับเด็ก รวมถึงฟิตเนส ศูนย์สุขภาพและความงาม และพื้นที่สำหรับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ของทุกคนในครอบครัวได้ในที่เดียว

2.FOOD LOUNGE : แหล่งรวมร้านอาหารชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด (THE LARGEST CONNECTED FOOD LOUNGE) ที่รวบรวมเมนูเด่นจากร้านดังยอดนิยมจากแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด พาสัมผัสประสบการณ์โลกของอาหารไทยและอาหารนานาชาติหลากหลายในราคาที่จับต้องได้

รวมทั้งพื้นที่ codining space เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวและกลุ่มเพื่อนได้มาใช้เวลาร่วมกันในการรับประทานอาหารและการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งวัน ด้วยพื้นที่รวมกันมากกว่า 4,500 ตร.ม.

และ 3.LIFESTYLE MARKET : แหล่งไลฟ์สไตล์สำหรับทุกคน รวมถึงการริเริ่มโครงการต่าง ๆ เปิดโอกาสให้ชุมชนและพันธมิตรร่วมสร้างประสบการณ์จัดโปรแกรม อาทิ กลุ่มที่ชื่นชอบสินค้าเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษ กลุ่มที่ชื่นชอบงานศิลปะ หรือกลุ่มที่ชอบตกแต่งบ้านและสวน รวมถึงกลุ่มรักสุขภาพ ฯลฯ เพื่อสร้างคุณค่าระยะยาว

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง ซึ่งเป็นโรงแรมที่ปรับโฉมมาจากโรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิง ซึ่งจะทำให้โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมหรูที่สุดในเชียงใหม่ในช่วงกลางปีนี้ด้วย