ททท. ปั้นคุ้งน้ำเจ้าพระยา “เคานต์ดาวน์เดสติเนชั่น” ระดับโลก

พลุถูกจุดขึ้นสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืน ของคืนนับถอยหลังสู่วันปีใหม่ 2566 บริเวณคุ้งน้ำเจ้าพระยา หน้าวัดอรุณฯ
การจุดพลุเฉลิมฉลองก้าวเข้าสู่วันปีใหม่ บริเวณวัดอรุณฯ​ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 (Photo by JACK TAYLOR / AFP)

ททท. ชู “วัดอรุณฯคุ้งน้ำเจ้าพระยา” ปลายทางการเคานต์ดาวน์ระดับโลก ปิ๊งแผนจัดงานวิจิตรเจ้าพระยาตลอดทั้งเดือนธันวาคมนี้ เชื่อไตรมาส 4 ปีนี้ ต่างชาติเที่ยวไทย 7 ล้านคน

วันที่ 21 ตุลาคม 2566 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สำหรับแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวปลายปี 2566 นี้ ได้มอบหมายให้ททท.จัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นตลาด โดยหนึ่งในนั้นคือการจัดงานเคานท์ดาวน์ 2567 และจัดอีเวนต์ต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวลากยาวตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ วันตรุษจีน ไปจนถึงเทศกาลวันสงกรานต์

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การจัดงานเคานต์ดาวน์ 2567 มีทุกจังหวัดอยู่แล้ว โดยแต่ละแห่งมีกิจกรรมแตกต่างกันออกไป ในส่วนของททท.มีจัดเองสองพื้นที่หลักคือ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และจังหวัดนครราชสีมา และงานที่ททท.การสนับสนุน เช่น ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม เซ็นทรัลเวิล์ด และเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ

โอกาสนี้ ททท. เตรียมจัดงานวิจิตรเจ้าพระยา ตามคุ้งน้ำเจ้าพระยาตลอดทั้งเดือนธันวาคม 2566 โดยหวังให้เป็นจุดเคานต์ดาวน์ระดับโลก ใช้งบประมาณจะเป็นส่วนหนึ่งจากวงเงินเพื่อกระตุ้นตลาดในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 600 ล้านบาท ทั้งนี้ งานดังกล่าวเคยถูกจัดขึ้นในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค เมื่อปี 2565 เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์

สำหรับงบประมาณเพื่อกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ ททท. เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติงบฯกลางจำนวน 600 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานใน 4 โครงการใหญ่ประกอบด้วย

    1. โครงการ Amazing Thailand Passport Privileges เพื่อสร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายของการช็อปปิ้งเพิ่มขึ้น และขยายลูกค้าใหม่จากต่างประเทศให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว ใช้งบประมาณ​150 ล้านบาท
    2. โครงการ Thailand Festival Experience ใน 5 ภาค เพื่อสร้างประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวในทุกภาคทั่วประเทศ ใช้งบประมาณราว 200 ล้านบาท คาดว่าจะก่อให้เกิดรายได้ไม่น้อยกว่า 1,100 ล้านบาท
    3. โครงการ Marketing & PR Forced-move เพื่อสร้างการรับรู้ในตลาดต่างประเทศในทุกทวีป ใช้งบประมาณราว 150 ล้านบาท คาดว่าจะเกิดมูลค่าเศรษฐกิจ 30,000 ล้านบาท
    4. โครงการ The Link Local to Global เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลักเมืองรองในตลาดต่างประเทศ ใช้งบประมาณราว 100 ล้านบาท คาดว่าจะก่อให้เกิดรายได้ไม่น้อยกว่า 560 ล้านบาท

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบหมายให้กับททท.ว่าไตรมาสสุดท้ายของปี ให้ใช้การตลาดเร่งดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย โดยเฉพาะกิจกรรมขนาดใหญ่ และประเมินว่าในไตรมาสที่ 4/2566 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยรวมไม่ต่ำกว่า 7 ล้านคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 ตุลาคม 2566 ว่า มีจำนวน 21,019,800 คน โดยนักท่องเที่ยวสามอันดับแรก เดินทางมาจากมาเลเซีย จีน และเกาหลีใต้ จำนวน 3.4 ล้านคน, 2.6 ล้านคน และ 1.2 ล้านคน ตามลำดับ

ในเดือนตุลาคมไทยเจอภาวะวิกฤติถึงสองประการด้วยกัน เบื้องต้นขอประเมินสถานการณ์ก่อน แต่คาดว่าน่าจะถึง 2 ล้านคน ส่วนเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม น่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยเฉลี่ยมากกว่า 2.5 ล้านคน ขณะที่ตลาดจีนขอประเมินสถานการณ์ก่อนนางสาวฐาปนีย์กล่าว