ททท. แจงจีนไม่ได้แคนเซิลไฟลต์ เพียงแต่ “คืนสลอต“ เท่านั้น

นักท่องเที่ยวจีน

ททท.แจง แอร์ไลน์จีนไม่ได้ยกเลิก แค่ “คืนสลอตการบิน” เท่านั้น ประเมินจีนเศรษฐกิจผันผวน ดีมานด์ไม่ดีอย่างที่คาด เชื่อบางแอร์ไลน์จองสลอตมากกว่าความต้องการ ด้านไทยแอร์เอเชียสนับสนุนวีซ่าฟรี พร้อมเพิ่มเที่ยวบินถ้ามีดีมานด์

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏรายงานข่าวระบุว่า สายการบินจากประเทศจีนจำนวนหนึ่งที่มีแผนจะให้บริการจากหลายเมืองของประเทศจีน สู่จองสลอตการบินสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจรจาขอใช้บริการภาคพื้นของการบินไทย และได้ยกเลิกไปเนื่องจากความต้องการผู้โดยสารใช้บริการเส้นทางไทย-จีน มีไม่เพียงพอ

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลจะมีมาตรการวีซ่าฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวจีน แต่ดีมานด์การเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมาอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยประเมินว่าปัจจัยหลักมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก

ประกอบกับนโยบายของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ยังเน้นส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยจำกัดจำนวนการออกพาสปอร์ตเล่มใหม่ให้กับประชาชนที่พาสปอร์ตเดิมหมดอายุ ทำให้คนจีนยังนิยมเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยจึงยังอยู่ในระดับที่ไม่ดีเท่าที่ควร

ล่าสุดนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ข้อเท็จจริงเรื่องการยกเลิกการรักษาเวลาการบิน (สลอต) ของสายการบินจีนยังไม่ได้เป็นการยกเลิกเที่ยวบินเข้าไทย เป็นเพียงการคืนสลอตบินที่จองไว้ตามฤดูกาลบิน ซึ่งก็เป็นไปตามการบริหารจัดการสลอตบินของแต่ละสายการบิน ไม่ได้เป็นการยกเลิกการบินเข้ามา ทำให้ขณะนี้สายการบินที่เข้ามาก็ยังมีตามปกติ และไม่ได้ส่งผลกระทบกับจำนวนเที่ยวบินที่เข้ามา

โดยการทำการบินของสายการบินจีนจะต้องดำเนินการภายใต้ 2 กระบวนการคือ

1.การขอ Time Slot จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (Civil Aviation Administration of China : CACC) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (The Civil Aviation Authority of Thailand : CAAT)

2.การขอ Flying Permit จากแต่ละท่าอากาศยานที่ทำการบิน รวมถึง CAAC และ CAAT ด้วย

สำหรับ Flying Slot ของสายการบินจีนในการบินเข้าประเทศไทย แบ่งออกเป็น 2 ฤดูกาลบิน คือตารางบินฤดูหนาว และตารางบินฤดูร้อน

โดยทั่วไป CAAC และ CAAT ได้ออกระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในการรักษาเวลาการบิน (สลอต) ซึ่งสายการบินจะมีสิทธิได้รับประวัติการบิน (Historic Precedence) เมื่อสายการบินสามารถแสดงให้เห็นว่าได้ทำการบินไม่น้อยกว่า 80% ของเวลาการบินต่อเนื่องที่ได้รับการจัดสรรในฤดูกาลการบินเดียวกันก่อนหน้า หากสายการบินไม่สามารถปฏิบัติตามได้จะโดนลดสลอตลง แต่เมื่อเกิดโควิด-19 ระบาด ก็ได้อนุญาตให้สายการบินสามารถคืนสลอตล่วงหน้าได้ หากคาดการณ์ว่าจะใช้ไม่หมด

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่จีนได้เปิดประเทศไปเมื่อต้นปี 2566 CAAC และ CAAT ได้จัดสรรเวลาการบิน (Historic Precedence) โดยอนุญาตให้สายการบินสามารถขอสลอตได้เท่ากับปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนโควิด-19 โดยมีจำนวนที่นั่งทั้งหมดกว่า 13 ล้านที่นั่ง

สายการบินบางสายได้ขอสลอตเทียบเท่ากับปี 2562 หรือขอตามคาดการณ์ตามความต้องการของตลาด ซึ่งมีความผันผวนอย่างยิ่งในช่วงหลังโควิด-19 ซึ่งได้รับผลกระทบในเรื่องเศรษฐกิจถดถอยภายในประเทศจีน ส่งผลให้สลอตที่ได้รับในปี 2566 ไม่สอดคล้องกับความต้องการในการเดินทางเข้าประเทศไทย จึงมีการคืนสลอตบางส่วนที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งต้องคืนล่วงหน้า 4 สัปดาห์ โดยประเมินว่าสาเหตุหลักที่ทำให้สายการบินต้องคืนสลอตเนื่องจาก

1.สายการบินจีนส่วนใหญ่มักขอสลอตเต็มจำนวน ซึ่งมากเกินกว่าความต้องการที่จะบินจริง ทำให้ต้องคืนภายหลัง

2.สลอตที่ได้รับเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้รับความนิยม อาทิ ช่วงเวลาบินหลัง 24.00 น. เป็นต้นไป หรือเป็นช่วงเวลาที่มีการจราจรทางอากาศแออัด

3.บางสนามบินของจีนเป็นสนามบินทหาร อาทิ หนานหนิง เจิ้งโจว ซึ่งไม่สามารถทำการบินหลัง 24.00 น. ได้ เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่ให้บริการภาคพื้นดินในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้ตอนนี้แต่ละสายการบินยังคงทำการบินเข้าประเทศไทยตามปกติ

ททท.ยืนยันว่า ข้อมูลจาก ททท. สำนักงานในจีนทั้ง 5 แห่ง พบว่าสายการบินต่าง ๆ เช่น China Eastern, Nok Air, 9 Air, Thai Lion Air ฯลฯ มีแผนที่จะฟื้นฟูเที่ยวบิน (Resume Flight) รวมถึงเปิดเส้นทางบินใหม่ ๆ มาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย

ไทยแอร์เอเชียพร้อมเพิ่มไฟลต์ หากมีดีมานด์

ก่อนหน้านี้ นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมาการเติบโตของตลาดจีนยังช้ากว่าที่คาดการณ์ ประเมินว่าเป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจของจีน และความเชื่อมั่นที่ส่งผลต่อปริมาณความต้องการเดินทาง

โดยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ไทยแอร์เอเชียบินเส้นทางจีนอยู่ที่ประมาณ 71 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เเละมีเเผนเพิ่มเป็น 77 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ในไตรมาส 4 ทั้งนี้ คิดเป็น 55% จากช่วงก่อนโควิด ซึ่งเคยบินสูงสุดอยู่ที่ประมาณร้อยละ 140 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ทั้งนี้ สายการบินไทยแอร์เอเชียยังคงทำงานอย่างเต็มที่ร่วมกับรัฐบาล เเละการท่องเที่ยวเเห่งประเทศไทย (ททท.) ในการดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าไทย รวมทั้งเห็นด้วยหากรัฐบาลจะขยายระยะเวลามาตรการวีซ่าฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวจีนเเละกลุ่มประเทศต่าง ๆ ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2567 ซึ่งจะกระตุ้นการเดินทางได้ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม หากมีปริมาณการเดินทางจากประเทศจีนที่เพิ่มมากขึ้น สายการบินไทยแอร์เอเชียก็มีความพร้อมเต็มที่ในการเพิ่มเที่ยวบินเเละความถี่บินจากฝูงบินที่มีอยู่ทั้งหมด 54 ลำ