วีซ่าฟรีถาวร “ไทย-จีน” อยู่ได้นาน 30 วัน

นักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า มาตรการยกเว้นวีซ่าให้คนจีนที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว

ทั้งนี้ นโยบายของรัฐบาลจะยกระดับความภาคภูมิใจของพาสปอร์ตไทย ซึ่งถ้าจะให้ดีต้องเป็นการยกเลิกวีซ่าของทั้งสองประเทศ และช่วงเดือนกว่าที่ผ่านมา ประเทศจีนได้ยกเว้นวีซ่าให้กับ 5 ประเทศชั่วคราว แต่ไม่มีประเทศไทย ซึ่งเหตุผลจริง ๆ เพราะไทยกับจีนกำลังคุยกันอยู่ว่าเราจะยกเว้นวีซ่าถาวร

“วันนี้เป็นข่าวดีว่าจะมีการยกเว้นวีซ่าถาวร เริ่มวันที่ 1 มีนาคม 2567 แสดงว่าการไป-กลับทั้งสองประเทศไม่มีวีซ่าซึ่งกันและกัน เป็นการยกระดับความสัมพันธ์ และยกระดับความสำคัญของพาสปอร์ตไทย โดยได้สั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ขณะนี้เราพร้อมแล้วที่จะเปิดประเทศ และให้ดูแลนักท่องเที่ยวซึ่งกันและกันให้ดีด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี”

นอกจากนั้น นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงเพิ่มเติมว่า ทั้งสองประเทศจะเปิดให้นักท่องเที่ยวของแต่ละประเทศเดินทางหาสู่ไปมากันได้ถาวรโดยไม่ต้องทำวีซ่า โดยมีระยะเวลาอยู่ในประเทศไม่เกิน 30 วัน แต่ถ้าเข้ามากกว่า 1 ครั้ง ภายใน 180 วัน ให้อยู่ในประเทศได้รวมไม่เกิน 90 วัน

ด้านนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้คำยืนยันต่อที่ประชุม ครม.ว่า ทั้งสองประเทศได้มีการตกลงอย่างไม่เป็นทางการแล้ว เพียงแต่รอให้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างความตกลง โดยจะมีการลงนามกันภายในไม่เกินสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมเป็นต้นไป

นายปานปรีย์กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีการอนุมัติวีซ่าฟรีที่คนไทยสามารถเข้าจีนได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่นายกฯได้สั่งการมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางไปคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ซึ่งทางจีนได้ยืนยันว่าจะดำเนินการเรื่องการให้วีซ่าฟรีกับคนไทย ซึ่งถือเป็นข่าวดี และคาดว่าภายในเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า จะเดินทางไปจีนเพื่อลงนามในข้อตกลงไทยกับจีน

นายชัยกล่าวอีกว่า รายงานตัวเลขล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2566 มีจำนวน 28,042,131 คน ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในปี 2566 ประมาณ 25-28 ล้านคน ดังนั้น เรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยอาศัยการท่องเที่ยว ต้องให้ทุกมาตรการเคลื่อนไปทิศทางเดียวกัน