สิ้นสุดการรอคอย ดุสิตธานี กรุงเทพ โฉมใหม่ เคาะฤกษ์เปิดตัวกันยายนนี้

“ดุสิตธานี กรุงเทพ” โรงแรมเรือธงของกลุ่มดุสิตธานี ประกาศพร้อมเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือนกันยายน 2567 ด้วยรูปโฉมใหม่ที่ยังคงรักษาเสน่ห์ความเป็นไทยประยุกต์ พร้อมเสริมด้วยความก้าวหน้าล้ำสมัยของเทคโนโลยี มาตรฐานสากลระดับโลก เปิดจองที่ dusit.com ตั้งแต่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า 2567 กลุ่มดุสิตธานีกำหนดเปิดให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ โรงแรมเรือธงของกลุ่มดุสิตธานีในเดือนกันยายน 2567 ด้วยรูปโฉมใหม่ที่ยังคงรักษาเสน่ห์ความเป็นไทยประยุกต์และร่วมสมัยอันเป็นเอกลักษณ์ของดุสิตธานี และเสริมด้วยความก้าวหน้าล้ำสมัยของเทคโนโลยี เพื่อเป็นโรงแรมไทยชั้นนำที่มีมาตรฐานสากลระดับโลก

ศุภจี สุธรรมพันธุ์
ศุภจี สุธรรมพันธุ์

นางศุภจีกล่าวว่า โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ โฉมใหม่นี้ได้รับการพัฒนาและก่อสร้างขึ้นใหม่อย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบประสบการณ์ในการเข้าพักที่ยอดเยี่ยมเหนือระดับ สมกับเจตนารมย์ของผู้ก่อตั้งในการนำความเป็นไทยให้ปรากฎสู่สากล ด้วยโครงสร้างอาคารสูงสีทองขนาด 39 ชั้น (จากเดิม 22 ชั้น)

ประกอบด้วยห้องพักสุดหรู ตั้งแต่ห้องเดอลุกซ์ จนถึงห้องสวีต รวมจำนวน 257 ห้อง (จากเดิม 517 ห้อง) โดยห้องพักทุกห้องสะท้อนความเรียบหรู โอ่อ่า กว้างขวาง ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเอกลักษณ์ของความเป็นไทย กับความสากลทันสมัยที่ตอบโจทย์การใช้งานของนักเดินทางในยุคใหม่

ห้องดีลักซ์ ดุสิตธานี กรุงเทพ

มีพื้นที่ห้องพักมาตรฐานขนาดเริ่มต้นที่ 50 ตร.ม. ขึ้นไป ซึ่งการออกแบบภายในนี้ถูกรังสรรค์อย่างประณีต จาก André Fu Studio สตูดิโอออกแบบตกแต่งภายในชั้นนำของเอเชีย ที่ได้รับการยกย่องในระดับสากล จากการทำงานร่วมกันของ 2 บริษัทสถาปนิกชั้นนำ

ได้แก่ บริษัทสถาปนิก 49 (A49) หนึ่งในบริษัทสถาปนิกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของประเทศไทย และ OMA Asia Hong Kong Limited สาขาของบริษัทสถาปนิกชั้นนำระดับโลก OMA (Office for Metropolitan Architecture) ที่โด่งดังในการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง ทำให้ตัวโครงสร้างอาคารของโรงแรมดุสิตธานี เป็นสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นสะดุดตา และการจัดการวางผังพื้นที่ต่าง ๆ ก็มีการเชื่อมโยงอย่างลงตัวและมีระดับ

เช่น การวางผังโถงทางเดินส่วนตัวหน้าห้อง (Single Corridor) ที่ทำให้ห้องพักทุกห้องสามารถมองเห็นความร่มรื่นของสวนลุมพินีได้อย่างเต็มตาผ่านช่องหน้าต่างที่เป็นกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจดเพดาน และยังเสริมความพิเศษด้วยโซฟาหรูริมหน้าต่าง ให้ลูกค้าได้พักผ่อนชื่นชมธรรมชาติอันแสนสงบจากภายในห้องพักที่หรูหราทันสมัยได้อย่างลงตัว

“ในอดีตเมื่อปี 2513 โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งเดิมได้เคยสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับคนในยุคนั้น ด้วยการมีห้องนภาลัย ห้องบอลรูมจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่สุดและหรูหราที่สุดในกรุงเทพฯ ขณะที่การกลับมาครั้งนี้เราก็ยังคงเอกลักษณ์ดังกล่าวไว้ คือ มีพื้นที่จัดเลี้ยงหรือจัดประชุมรวมกันแล้วขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตารางเมตร และหนึ่งในนั้นคือ ห้องแกรนด์บอลรูมที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถรองรับการจัดเลี้ยงในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งแบบส่วนตัวใกล้ชิด ไปจนถึงงานเลี้ยงขนาดใหญ่ในระดับ 1,000 คน”

นอกจากนี้ ยังมีห้องอาหาร บาร์ต่าง ๆ รวมถึงบาร์บนชั้นดาดฟ้าที่มีการเล่นระดับหลายชั้น (Multiple Roof Top Bar) เพื่อสร้างประสบการณ์ในการรับประทานอาหารอย่างเหนือระดับที่สร้างสรรค์โดยเชฟที่มีชื่อเสียง และ “เทวารัณย์ เวลเนส” ศูนย์บริการด้านเวลเนสที่จะนำเสนอสถานที่อันเงียบสงบ และบริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ให้กับแขกและคนทั่วไปที่สนใจ

นางศุภจีกล่าวด้วยว่า ความโดดเด่นของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ คือการถนอมเก็บรักษาสิ่งของอันเป็นสัญลักษณ์ของความทรงจำ หรือชิ้นงานศิลปะ และสิ่งของตกแต่งอันมีค่าจากโรงแรมแห่งเดิมไว้ ไม่ว่าจะเป็นยอดแหลมสีทองที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพแห่งเดิม ที่ได้ถูกนำกลับมาติดตั้งใหม่อีกครั้ง

โดยยอดเสาเก่าจะถูกวางครอบด้วยยอดเสาทองใหม่ที่ใหญ่และสวยงามกว่าเดิม รวมถึงเพดานฉลุไม้สักจากห้องอาหารเบญจรงค์เดิม และงานจิตรกรรมผนังจากศิลปินแห่งชาติ ซึ่งสิ่งของอันทรงคุณค่าเหล่านี้จะถูกนำกลับมาเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของการออกแบบตกแต่งของโรงแรมแห่งใหม่

“โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่ ไม่ได้เป็นแค่โรงแรม แต่คือบทพิสูจน์ของคำมั่นสัญญาที่เราจะไม่หยุดพัฒนาตนเอง และจะนำประสบการณ์ ความรู้ รวมถึงสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดมาสร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าจดจำสำหรับอนาคต” นางศุภจีกล่าว และว่า

บริษัทได้เก็บตัวตนและบุคลิกลักษณะของดุสิตธานีเดิมไว้ ในขณะเดียวกัน ก็เติมนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามา เพื่อให้ดุสิตธานีสามารถสร้างความตื่นเต้นและพึงพอใจให้กับแขกที่เข้าพัก และนักเดินทางรุ่นใหม่ ซึ่งโรงแรมนี้ จะเป็นต้นแบบสำหรับบริการและประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นให้กับโรงแรมและรีสอร์ตในเครือดุสิตทั่วโลก

“ผู้ที่สนใจสามารถสำรองห้องพักที่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ที่ dusit.com เพื่อที่จะได้สัมผัสประสบการณ์อันแสนพิเศษก่อนใครในเดือนกันยายนนี้” นางศุภจีกล่าว

อนึ่ง โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ซึ่งเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบผสมผสาน (Mixed-Use) มูลค่า 46,000 ล้านบาท ที่ประกอบด้วย อาคารที่พักสุดหรู (super luxury) ภายใต้ชื่อ “ดุสิต เรสซิเดนเซส” และ “ดุสิต พาร์คไซด์” อาคารสำนักงานที่ล้ำสมัย และศูนย์การค้าชั้นนำ รวมถึง Roof Park พื้นที่สีเขียวลอยฟ้าใจกลางกรุงที่มีขนาด 11,200 ตร.ม. ซึ่งโครงการเหล่านี้จะทยอยเปิดภายในปี 2568