“ราชาเฟอร์รี่” เชื่อมระบบขนส่ง ดึงนักท่องเที่ยวเข้าสมุย-พะงัน-เกาะเต่า

“ราชาเฟอร์รี่” รุกลงทุน “ทรานสปอร์ต” เชื่อมโยงเส้นทางโดยสารทางรถจากทุกทิศทั่วไทย-CLMV สู่ท่าเรือดอนสัก สุราษฎร์ฯ พร้อมปั้นแพลตฟอร์มขายออนไลน์ “RP marketplace” ศูนย์รวมแหล่งขายตั๋วเครื่องบิน-ตั๋วเรือ-โรงแรม รองรับนักท่องเที่ยวในเดสติเนชั่นเกาะสมุย-เกาะพะงัน-เกาะเต่าโดยเฉพาะ ตั้งเป้าขนส่งผู้โดยสารทั้ง 3 เส้นทางหลักไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน

นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) หรือ RP ผู้บริหารท่าเรือและเรือโดยสาร “ราชาเฟอร์รี่” เปิดเผยว่า ขณะนี้การขยายตัวของนักท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงที่มีกิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้ของทุกเดือน ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในเกาะพะงันในช่วงกิจกรรมดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 40,000 คนต่อครั้ง ซึ่งสูงจากปี 2560 ที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

จ่อเดินเรือสู่เกาะเต่า-พะลวย

นายอภิชาติกล่าวว่า จากแนวโน้มดังกล่าวนี้ทำให้ที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มจำนวนเที่ยวการเดินเรือรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทั้งเส้นทางดอนสัก-เกาะสมุย, เส้นทาง

เกาะสมุย-เกาะพะงัน รวมถึงเส้นทางดอนสัก-เกาะพะงัน โดยปัจจุบันบริษัทให้บริการเรือโดยสารเส้นทางดอนสัก-เกาะสมุย จำนวนเฉลี่ย 15-20 เที่ยวต่อวัน (ไม่รวมเรือเช่าเหมาลำ) เส้นทางเกาะสมุย-เกาะพะงัน 8 เที่ยวต่อวัน (ในวันที่มีกิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้ จะเพิ่ม 1 เที่ยวต่อวัน) และเส้นทางดอนสัก-เกาะพะงัน จำนวน 6 เที่ยวต่อวัน พร้อมทั้งปรับเวลาจองตั๋วลงเรือล่วงหน้าให้เร็วขึ้น เป็น 3 ชั่วโมงก่อนเดินทาง จากเดิมที่ต้องจองล่วงหน้า 1 วัน

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเพิ่มเส้นทางเดินเรือระหว่างเกาะพะงัน-เกาะเต่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา รวมทั้งเส้นทางเกาะพะงัน-เกาะพะลวย (ใกล้ ๆ หมู่เกาะอ่างทอง) ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตสร้างท่าเรือที่หมู่เกาะอ่างทอง มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้

“ปัจจุบันราชาเฟอร์รี่มีเรือโดยสารให้บริการอยู่ 14 ลำ และบอร์ดได้อนุมัติแผนเพิ่มอีก 2 ลำในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งหากแผนการขยายเส้นทางเดินเรือจากเกาะพะงันไปเกาะเต่า และเกาะพะลวยสำเร็จ เราต้องลงทุนเพิ่มเรือโดยสารใหม่อีกประมาณ 4 ลำ และลงทุนเพิ่มท่าเรือใหม่อีก 2 ท่า ที่ดอนสัก เพื่อให้ท่าเรือดอนสัก ซึ่งเป็นฮับสำหรับของการเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการรองรับได้มากดียิ่งขึ้น”

เชื่อมขนส่ง “เรือ-รถ-เครื่องบิน”

นายอภิชาติกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้บริษัทยังได้ตั้งบริษัท อาร์พี ทรานสปอร์ตเทชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือขึ้นมาสำหรับเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวจากทุกทิศทั่วไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวจาก CLMV ให้เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 เกาะหลักของไทย คือ สมุย พะงัน และเกาะเต่า ได้สะดวกและครบวงจรแบบ one stop service โดยที่ผ่านมาได้ทดลองเดินรถบัสโดยสารจากกรุงเทพฯ-ท่าเรือดอนสักแล้ว ปัจจุบันมีรถให้บริการอยู่ 2 คัน คือ รถบัส วี.ไอ.พี. ขนาด 29 ที่นั่ง และรถบัสปรับอากาศชั้น 1 จำนวน 45 ที่นั่ง ซึ่งพบว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก

“สำหรับแพ็กเกจทัวร์สุดคุ้มตั้งแต่ 900-1,300 บาท/คน โดยราคานี้รวมรถบัส V.I.P.+อาหาร 1 มื้อ และตั๋วเรือโดยสาร ให้บริการทุกวันทั้งขาไปและขากลับ เส้นทางกรุงเทพฯ-ท่าเรือดอนสัก สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ โดยออกเดินทางจากโรงแรมเวโรนิก้า ถนนรัชดาภิเษก ในเวลา 20.00 น. และขากลับจากท่าเรือดอนสัก เวลา 20.00 น.”

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเพิ่มเส้นทางเดินรถอีก 3 เส้นทางหลักเชื่อมโยงผู้โดยสารจากรุงเทพฯ-เสียมเรียบกัมพูชา, กรุงเทพฯ-มะริด เมียนมา และกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ วันละ 2 เที่ยว เพื่อดึง

นักท่องเที่ยวจากทั้ง 3 เส้นทางดังกล่าวเข้าไปท่องเที่ยวที่เกาะสมุย, เกาะพะงัน และเกาะเต่า โดยมีฮับหลักอยู่ที่กรุงเทพฯ และท่าเรือดอนสัก สุราษฎร์ธานี

“สำหรับแนวทางการลงทุนกำลังพิจารณาว่าจะร่วมทุนกับบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการขนส่งที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่แล้ว ส่วนทางราชาเฟอร์รี่จะทำเรื่องอาหารและที่พักโรงแรม คาดว่าจะสรุปได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้”

ชูแพลตฟอร์ม RP marketplace

ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ “RP marketplace” ศูนย์รวมแหล่งขายตั๋วรถโดยสาร-ตั๋วเครื่องบิน (ไทยแอร์เอเชีย) -ตั๋วเรือโดยสาร-ห้องพักโรงแรม รวมถึงแพ็กเกจทัวร์ สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจไปท่องเที่ยวในเดสติเนชั่นสมุย-พะงัน-เกาะเต่าโดยเฉพาะ คาดว่าจะสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้

“เราตั้งเป้าสิ้นปีนี้เราจะมีสัดส่วนรายได้จากช่องทางขายออนไลน์ประมาณ 10% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 30% ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2563 นี้”

นายอภิชาติกล่าว และว่า ที่สำคัญอนาคตธุรกิจของบริษัทจะกลายเป็นผู้ให้บริการในการเชื่อมต่อการขนส่งนักท่องเที่ยวที่ครบวงจร ไม่ใช่เพียงแค่ธุรกิจให้บริการเรือโดยสารอีกต่อไป

นายอภิชาติกล่าวอีกว่า จากการขยายตัวของนักท่องเที่ยวทั้งที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า รวมทั้งแผนการขยายธุรกิจในส่วนของบริษัทอาร์พี ทรานสปอร์ตเทชั่น ทำให้ผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และเชื่อมั่นตัวเลขรวมปีนี้จะดีกว่าปี 2560 ที่ผ่านมาประมาณ 5-10% และมีจำนวนบรรทุกผู้โดยสารทั้ง 3 เส้นทางเดินเรือหลักไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน