ลุย “สมุยพลัส” 15 ก.ค.นี้ “40 โรงแรม-บางกอกแอร์เวย์ส” เด้งรับ

สมุย

ททท.เร่งเดินหน้า “สมุยพลัส” 15 ก.ค รูปแบบซีลรูต “สมุย-พะงัน-เกาะเต่า” โรงแรมทั้ง ALQ-SHA+ 40 แห่งพร้อมรับ ผนึกแอร์ไลน์-บางกอกแอร์เวย์ส เปิดเที่ยวบินรับนักท่องเที่ยว “สุวรรณภูมิ-สมุย” 3 เที่ยวต่อวัน ดอดเจรจาสิงคโปร์เปิดบิน “ชางงี-สมุย” หนุน พร้อมออปชั่นพันธมิตรเช่าเครื่องทำชาร์เตอร์ไฟลต์ “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” ยอดบุ๊กกิ้งโรงแรมพุ่ง 1 แสนคืนแล้ว

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.พร้อมเดินหน้าเปิดเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า (สุราษฎร์ธานี) รับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัว ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไปเพิ่มอีกหนึ่งพื้นที่ หลังจากที่เปิดภูเก็ต ภายใต้โมเดลภูเก็ตแซนด์บอกซ์ไปแล้วเมื่อ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ซึ่งการดำเนินงานของภูเก็ตถือว่าเป็นไปด้วยดี มีนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 400-500 คน

ท่องเที่ยวสมุย

เปิดโมเดลซีลรูต “สมุยพลัส”

สำหรับรูปแบบการเปิดเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่านั้น จะดำเนินงานในรูปแบบที่เรียกว่า sealed route model ภายใต้โครงการ “สมุยพลัส” หรือ SAMUI+ เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามายังพื้นที่อำเภอสมุย พะงัน และเกาะเต่า (สุราษฎร์ธานี) ภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องเป็นการท่องเที่ยวที่เน้นความมั่นใจและความปลอดภัยเป็นหลัก

โดยกำหนดเงื่อนไขเป็น 4 ช่วงเวลา ได้แก่ 1.วันแรก (day 0) : waiting นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาถึงทำการตรวจสวอป (RT-PCR) ครั้งที่ 1 และพักอยู่ในห้องพักเท่านั้นเพื่อรอผลการตรวจ 2.วันที่ 1-3 : area quarantine หลังผลการตรวจยืนยันเป็นลบ (not detected) นักท่องเที่ยวพักผ่อนและทำกิจกรรมนอกห้องพัก ในบริเวณโรงแรมและพื้นที่ที่โรงแรมจัดสรรไว้

3.วันที่ 4-7 (sealed route) : นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ในอำเภอเกาะสมุยตามเส้นทางและโปรแกรมท่องเที่ยวที่กำหนดไว้ และวันที่ 6-7 จะทำการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 และ 4.วันที่ 8-14 : monitoring & control : หลังผลการตรวจสวอปครั้งที่ 2 เป็นลบ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ภายในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า โดยมีระบบติดตามตัว และทำการตรวจสวอปครั้งที่ 3 ในวันที่ 12-13 หากผลเป็นลบนักท่องเที่ยวจะสามารถเดินทางไปได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางมาถึงจนถึงวันที่ 7 นักท่องเที่ยวทุกคนต้องอยู่ในโรงแรมกักตัวทางเลือก หรือ ALQ (alternative local quarantine) เท่านั้น หลังจากนั้นวันที่ 8 เป็นต้นไปจะเปลี่ยนเป็นโรงแรม SHA+ โดยสถานประกอบการทุกแห่งที่เข้าร่วมโครงการต้องได้รับมาตรฐาน SHA+ เช่นเดียวกับภูเก็ตแซนด์บอกซ์

โรงแรมได้ SHA+ กว่า 40 แห่ง

นายฉัททันต์กล่าวด้วยว่า ประเด็นที่ท้าทายของการเปิดซีลรูต “สมุยพลัส” คือ การสื่อสารให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใจถึงเงื่อนไข เนื่องจากมีหลายประเด็นที่แตกต่างจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์
อาทิ สมุยยังมีกักตัวในรูปแบบ area quarantine และต้องเข้าพักในโรงแรมที่เป็น ALQ ในช่วง 7 วันแรก การกำหนดให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้ตามเส้นทางที่กำหนดไว้เท่านั้น เป็นต้น

ปัจจุบันในฝั่งของดีมานด์ไซด์พบว่าสถานประกอบการหลายเซ็กเตอร์ ได้เตรียมพร้อมสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและได้รับตรามาตรฐาน SHA+ แล้วรวม 44 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรม/ที่พัก 41 แห่ง ยานพาหนะ 1 แห่งภัตตาคาร/ร้านอาหาร 1 แห่ง ห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า 1 แห่ง

ผนึก BA ขนต่างชาติเข้าสมุย

นายฉัททันต์กล่าวต่อไปว่า นอกจากการสื่อสารที่ต้องสร้างความเข้าใจในโมเดล “ซีลรูต” แล้ว ความพร้อมในด้านการเตรียมการขนส่งผู้โดยสารเข้าสู่สมุยเป็นอีกประเด็นที่เป็นความท้าทายอย่างมากเช่นกัน เนื่องจากท่าอากาศยานสมุยมีขนาดเล็ก รันเวย์รองรับได้เฉพาะเครื่องบินขนาดเล็ก เช่น A320, A319 และเครื่องบินแบบใบพัด (ATR) เท่านั้น ทำให้สายการบินต่างชาติที่ทำการบินด้วยเครื่องบินลำใหญ่ไม่สามารถบินตรงเข้าสมุยได้ ททท.จึงได้เจรจากับบริษัท การบินบางกอก จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสนามบินสมุย และเจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เพื่อใช้เครือข่ายการบินของบางกอกแอร์เวย์สในการขนส่งผู้โดยสารเป็นหลัก

โดยขณะนี้บางกอกแอร์เวย์สประกาศเปิดให้บริการเที่ยวบินพิเศษเฉพาะผู้โดยสารซีลรูต (sealed route) หรือผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศและต้องปฏิบัติตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 7/2564 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2564 เส้นทางบินจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ-สมุย จำนวน 3 เที่ยวบินต่อวัน ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

เจรจาพันธมิตรบินชาร์เตอร์ไฟลต์

สายการบินบางกอกแอร์เวย์สได้ประสานไปยังสิงคโปร์เพื่อขออนุญาตเปิดเส้นทางบินจากท่าอากาศยานนานาชาติชางงีสิงคโปร์ (Changi Airport) เพื่อขนส่งนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่สมุยอีกช่องทางหนึ่ง เนื่องจากท่าอากาศยานนานาชาติชางงีสิงคโปร์เป็นฮับการบินขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรองรับเส้นทางการบินที่มาจากทั่วโลก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรออนุมัติเส้นทางบินจากรัฐบาลสิงคโปร์

รวมทั้งเจรจากับสายการบินพันธมิตรที่เป็นเที่ยวบินร่วม หรือ codeshare ในการส่งต่อผู้โดยสารเข้าสู่สมุย หรือกรณีสายการบินไหนที่มีผู้โดยสารจำนวนมากสามารถใช้เครื่องของสายการบินบางกอกแอร์เวย์สไปให้บริการในรูปแบบเช่าเหมาลำ หรือเที่ยวบินชาร์เตอร์ไฟลต์ได้ด้วยเช่นกัน

จองที่พักภูเก็ตแซนด์บอกซ์พุ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์นั้นได้รับการยืนยันจากกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมภูเก็ตว่า หลังจากภูเก็ตเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าบรรยากาศโดยรวมเริ่มขยับมีสีสันขึ้น ยอดการจองห้องพักล่วงหน้าเริ่มทยอยเข้าอย่างต่อเนื่อง บางแห่งมียอดจองล่วงหน้าเข้ามาถึง 10-20% แล้ว จากปกติที่มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ในระดับ 5-10% เท่านั้น

และเชื่อว่าภูเก็ตแซนด์บอกซ์จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงไตรมาสสุดท้ายซึ่งเป็นไฮซีซั่น

ทั้งนี้ จากรายงานของจังหวัดภูเก็ตพบว่าในช่วง 5 วันแรกของการเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์ (1-5 กรกฎาคม 2564) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ภูเก็ตรวม 1,979 คน แบ่งเป็นต่างชาติ 1,740 คนและคนไทย 239 คน ในจำนวนนี้มีผลตรวจลบ (not detected) ทั้งหมด

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานข้อมูลจองห้องพักโรงแรมภูเก็ต ณ วันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา (07.00 น.) ว่า มียอดจองห้องพักโรงแรม SHA+ ในช่วง 3 เดือนแรก (กรกฎาคม-กันยายน 2564) แล้วรวมเกือบ 100,000 คืน (room night) โดยในเดือนกรกฎาคมนี้มียอดจองล่วงหน้ามาแล้ว 92,926 คืน คิดเป็นสัดส่วน 92% ทำให้คาดว่าเดือนนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่า 10,000 คน