
เปิดเงื่อนไขขอคืนค่าตั๋วเครื่องบิน โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 รวม 6 แสนสิทธิ ลงทะเบียนถึง 5 มิ.ย.65 แจ้งผู้ขอรับสิทธิเฟส 3 กรณีติดตามผล
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน เป็นอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ภายใต้เงื่อนไขที่โครงการกำหนด จำนวนทั้งสิ้น 600,000 ผู้โดยสารเท่านั้น
- MOTOR EXPO 2023 ยอดขายรถ 4 วันแรกทะลุ 8,300 คัน
- สพฐ.ประกาศหยุดเรียน 4-8 ธ.ค.ให้นักเรียน ม.ปลายเตรียมสอบ TGAT/TPAT
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
ผู้ที่ต้องการขอคืนค่าตั๋วเครื่องบินในระยะที่ 4 สามารถลงทะเบียนรับสิทธิดังกล่าว ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ – 5 มิถุนายน 2565 (เวลา 21.00 น.) โดยจะต้องเป็นตั๋วเครื่องบินที่จองและออกเดินทางระหว่างวันที่ 3 กุมภาพันธ์ – 31 พฤษภาคม 2565 ภายใต้เงื่อนไขต่อไปนี้
ขอคืนค่าตั๋วเครื่องบิน เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4
สำหรับเงื่อนไขการขอรับคืนค่าตั๋วเครื่องบิน โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ในระยะที่ 4 ในอัตราร้อยละ 40 ของราคาเต็มที่ต่อหนึ่งผู้โดยสาร มีดังนี้
1. ไม่เกิน 3,000 บาทต่อบัตรโดยสารของหนึ่งผู้โดยสาร เฉพาะกรณีที่จองโรงแรม/ที่พักในจังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา สงขลา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ และเชียงราย โดยเป็นการจองบัตรโดยสารเครื่องบินและเริ่มเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป
2. ไม่เกิน 2,000 บาทต่อบัตรโดยสารของหนึ่งผู้โดยสารในกรณีอื่น ๆ นอกเหนือจากข้อ 1 โดยเป็นการจองบัตรโดยสารเครื่องบินและเริ่มเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป
อ่านรายละเอียดเงื่อนไขเพิ่มเติม คลิก
ขอคืนค่าตั๋วเครื่องบิน เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3
ในส่วนของผู้ที่ลงทะเบียนขอคืนค่าตั๋วเครื่องบิน โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 ทางโครงการฯ ได้แจ้งรายละเอียดการติดตามการขอคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบินว่า เมื่อผู้ใช้สิทธิทำการขอคืนเงินในระบบเรียบร้อยแล้ว และได้รับข้อความแจ้งสถานะในแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง โดยมีข้อความดังนี้
“คำขอเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินของท่านได้รับอนุมัติแล้ว เงินสนับสนุนจะถูกโอนเข้า G-wallet ของท่านภายในเดือนถัดไป หลังจากลงทะเบียนเว็บไซต์”
ข้อความดังกล่าวเป็นข้อความอัตโนมัติซึ่งข้อมูลที่ผู้ใช้สิทธิลงทะเบียนต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบจากสายการบินและขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินของ ททท. และ KTB จึงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบ (โดยทางโครงการจะมีรองการโอนเงินทุกวันที่ 15 และวันที่ 30 ของเดือน)
ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวเช็กอินเข้าเข้าพักและเกิดการสแกนใบหน้าไม่ผ่านหรือกรณีจองที่พักตั้งแต่ 5 สิทธิขึ้นไป ทางโรงแรมจะต้องส่งเอกสารผู้เข้าพักตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของโครงการฯ ให้แก่ ททท. เพื่อประกอบการพิจารณาเบิกจ่ายหากโรงแรมยังไม่ส่งเอกสารหรือส่งเอกสารล่าช้าจะมีผลให้การขอคืนค่าบัตรโดยสารผู้ใช้สิทธิล่าช้าไปด้วย เนื่องจากขั้นตอนการตรวจเอกสารดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 30 วันทำการ
ทั้งนี้ ประชาชนที่เดินทางด้วยตั๋วเครื่องบินของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 สามารถแจ้งความประสงค์ขอปรับปรุงข้อมูลการคืนตั๋วเครื่องบิน ผ่านช่องทาง 02-111-1122 ได้ถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565