การบินไทย ลงนามร่วมมือ ททท. ดึงนักท่องเที่ยวอินเดียเข้าไทย

แฟ้มภาพ

การบินไทย-ไทยสมายล์ ลงนามแสดงเจตจำนงกับ ททท. นำนักท่องเที่ยวจากอินเดียเข้าไทย หวังกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ตั้งเป้าพ.ค.เป็นต้นไป ชาวอินเดียเข้าไทย 80,000 คนต่อเดือน

วันที่ 8 เมษายน 2565 นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่า เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวไทย และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ขับเคลื่อนไปได้ การบินไทย ไทยสมายล์ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

จึงร่วมกันลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent-LOI) วางกลยุทธ์และดำเนินกิจกรรมการตลาดเพื่อส่งเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยวของตลาดอินเดีย

นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (Joint Promotion) และสิทธิพิเศษแก่นักท่องเที่ยวในเส้นทางเดินทางดังกล่าว การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยกับนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวพักผ่อน กลุ่มนักกอล์ฟกลุ่มแต่งงาน กลุ่มเยี่ยมญาติ เป็นต้น

ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องภายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการยกระดับและพัฒนาการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

ข้อมูลจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าตลาดนักท่องเที่ยวอินเดีย ถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวไทย

โดยสถิติปี พ.ศ. 2562 นักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางเข้าไทย 1,995,516 คน ขยายตัวจากปีก่อนหน้าร้อยละ 24.85 สร้างรายได้ 86,372.01 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 27.45 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง

ทั้งนี้ ในปี 2562 สายการบินให้บริการผู้โดยสารชาวอินเดีย สร้างรายได้ให้บริษัทฯ กว่า 8,500 ล้านบาท การร่วมมือกันในครั้งนี้จึงคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของไทย ให้ฟื้นตัวและขยายตัวอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า ททท. จะมุ่งเน้นส่งเสริมตลาดอินเดีย โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มความสนใจพิเศษที่มีการใช้จ่ายสูง ผ่านการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน ททท. กรุงนิวเดลี และเมืองมุมไบอย่างต่อเนื่อง เช่น

– การทำการตลาดผ่าน Celebrity/Influencer เพื่อสื่อสารไปยังผู้ติดตามที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials

– ให้ข้อมูลกับบริษัทนำเที่ยวในอินเดียถึงมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย รวมทั้งสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพื่อนำไปวางแผนทำกิจกรรม Joint Promotion โดยเฉพาะสำหรับตลาดกลุ่มระดับบน (luxury) ในอนาคต

– ส่งเสริมกลุ่มแต่งงานอินเดียในประเทศไทย ด้วยการจัด Amazing Thailand Wedding EXPO 2022 ในเดือนเมษายน 2565 เพื่อให้คู่รักได้วางแผนการจัดงานแต่งงานในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่นิยมจัดในช่วงปลายปี

“เราตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียราว 500,000 ราย สร้างรายได้ราว 2.4 หมื่นล้านบาท โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินเข้ามายังประเทศไทยราว 600 คนต่อวัน หรือราว 18,000 คนต่อเดือน ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ จะผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้นเป็นเดือนละ 80,000 คน” นายธเนศวร์ กล่าว

นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า เส้นทางบินประเทศอินเดีย ปัจจุบันมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารอยู่ที่ราว 60-65% และพบว่านักเดินทางส่วนหนึ่งมีความต้องการต่อเที่ยวบินเพื่อไปยังประเทศออสเตรเลีย

ทำให้สายการบินมีการปรับตารางเวลาเที่ยวบินให้เหมาะสม และในอนาคตบริษัทฯ อาจพิจารณาเพิ่มความถี่เส้นทาง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) – เมลเบิร์น จากเดิมให้บริการ 3 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 4-5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

นอกจากเส้นทางอินเดียแล้ว สายการบินยังให้ความสำคัญกับเส้นทางเกาหลีใต้และญี่ปุ่น โดยหากทั้งสองประเทศมีการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ สายการบินอาจพิจารณาเพิ่มเที่ยวบินเช่นกัน

“เราคาดการณ์ว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ สายการบินอาจมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารอยู่ที่ราว 75%” นายนนท์ กล่าว

ปัจจุบัน การบินไทย และสายการบินไทยสมายล์ ทำการบินเส้นทางระหว่างอินเดียมายังประเทศไทย ดังนี้

1. เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-นิวเดลี ทำการบินสัปดาห์ละ 14 เที่ยวบิน

2. เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-มุมไบ ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน

3. เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เจนไน ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน

4. เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เบงกาลูรู ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน

5. เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-กัลกัตตา ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน (ทำการบินโดยสายการบินไทยสมายล์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2565 เป็นต้นไป)

6. เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-มุมไบ ทำการบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน (ทำการบินโดยสายการบินไทยสมายล์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2565 เป็นต้นไป) โดยปัจจุบันเส้นทางขาเข้ามีอัตราบรรทุกผู้โดยสารสูงถึง 80-90%


ทั้งนี้ หากประเมินจาก load factor ของการบินไทยและไทยสมายล์ ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป คาดว่าประเทศไทยจะสามารถนำชาวอินเดียเข้ามาท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 13,000 คนต่อเดือน ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมผู้เดินทางจากสายการบินอื่น และคาดว่าจะสูงขึ้นถึง 80,000 คนต่อเดือน เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ