พิพัฒน์ของบฯกองทุนกีฬา 1,000 ล้าน อัด “สปอร์ตทัวริซึ่ม”

พิพัฒน์ รัชกิจประการ
พิพัฒน์ รัชกิจประการ

กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ของบฯกองทุนพัฒนากีฬา อัด “สปอร์ตทัวริซึ่ม” หนุนแผน “บูสเตอร์ชอต” พันล้านของ ททท. อีกแรง หวังดันตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 12 ล้านคน สร้างรายได้ 1.5 ล้านล้าน

วันที่ 22 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เสนอของบประมาณ จำนวน 1,035.75 ล้านบาท หรืองบฯ “บูสเตอร์ชอต” เพื่อใช้กระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทยผ่านการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาด จัดโรดโชว์ในประเทศต่าง ๆ

รวมถึงการสนับสนุนให้สายการบินเร่งเพิ่มความถี่เที่ยวบิน เส้นทางบินและปริมาณที่นั่งที่ให้บริการกลับมาสู่ระดับ 50% ของช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 อันจะช่วยดันเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวสู่เป้าหมายปี 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 7-10 ล้านคน นักท่องเที่ยวไทย 160 ล้านคน-ครั้งนั้น

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า งบประมาณดังกล่าวสามารถเกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก เพราะแลกมากับรายได้รวมของการท่องเที่ยวทั้งตลาดในและต่างประเทศรวมกันที่อาจเพิ่มขึ้นสูงถึง 300,000 ล้านบาท

“เชื่อมั่นว่าหากได้งบประมาณก้อนนี้ จะช่วยให้ปี 2565 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุดถึง 12 ล้านคน และสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวรวม 1.5 ล้านล้านบาท” นายพิพัฒน์กล่าว

โครงการดังกล่าวมีกรอบวงเงินงบประมาณรวม 1,035.75 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าและบริการ จำนวน 432 ล้านบาท การตลาดภายในประเทศ จำนวน 450 ล้านบาท การตลาดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จำนวน 50 ล้านบาท และการตลาดภูมิภาคยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา จำนวน 103.75 ล้านบาท

โดยงบประมาณสำหรับตลาดในประเทศ 2 ส่วนรวม 882 ล้านบาท จะเป็นงบประมาณที่ขอจากงบฯเงินกู้ของสภาพัฒน์ ส่วนงบประมาณในส่วนของตลาดต่างประเทศ 153.75 ล้านบาท เป็นงบประมาณกลางของ ททท.

นอกจากนี้ กระทรวงเตรียมของบประมาณพิเศษจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) ส่งเสริมกระแสการท่องเที่ยวเชิงกีฬา เช่น การจัดการแข่งขันกีฬาในประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศปี 2565 นี้ ให้ถึงเป้าหมาย 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ราว 7 แสนล้านบาท

“ล่าสุดได้หารือกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติแล้ว โดยพลเอกประวิตรระบุว่า สั่งการให้ไปตรวจสอบจำนวนเงินคงเหลือของกองทุน และพบว่ามีงบประมาณเหลืออยู่ราวหลักหมื่นล้านบาท” นายพิพัฒน์กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำคณะนายกสมาคมด้านการท่องเที่ยว รวม 12 หน่วยงาน เข้ายื่นข้อเรียกร้องจากผู้ประกอบการภาคเอกชนในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวไตรมาส 3-4 ปี 2565 และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว ปี 2566

โดย “มาตรการ ABC-ฟื้นฟูประเทศและพลิกโฉมการท่องเที่ยวไทย” ที่ภาคเอกชนนำเสนอแก่นายกรัฐมนตรีประกอบด้วย

1.มาตรการ A : Accelerate Travel & Tourism Spending เร่งรัดให้เกิดการใช้จ่ายและขยายระยะเวลาพำนักของนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าและขยายระยะเวลาพำนักของ TR และ VOA

2.มาตรการ B : Booster Shot กระตุ้นตลาด เพื่อหมุดหมายในการฟื้นประเทศ “เราฟื้นด้วยกัน” โดยการเพิ่ม Seat Capacity และการเพิ่มความถี่ทั้งเส้นทางในประเทศและระหว่างประเทศ ตลอดทั้งการเชื่อมต่อเส้นทางบินเส้นทางระหว่างประเทศกับเส้นทางในประเทศ ควบคู่กับการตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศศักยภาพที่สำคัญ

และ 3.มาตรการ C : Cost Effective สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการบริหารต้นทุนการดำเนินงานอย่างมี ประสิทธิผล โดยการผ่อนผัน แก้ไขระเบียบ คำสั่ง หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเป็นการชั่วคราวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น การพัฒนาทักษะฝีมือและคุณภาพแรงงานในภาคบริการของประเทศไทย เป็นต้น

สำหรับภาพรวมภาคการท่องเที่ยวไทยใน 6 เดือนแรกของปีนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้ว 2.7 ล้านคน จึงคาดว่าตลอดปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยถึง 10 ล้านคน

ส่วนในแง่รายได้รวมคาดว่า อาจปรับตัวลงต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 1.5 ล้านล้านบาท มาอยู่ที่ 1.2 ล้านล้านบาทแทน เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้จ่ายลดลงจากภาวะเงินเฟ้อ และนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน ใช้เวลาพำนักในประเทศไทยไม่ได้มากเท่าที่ควร เช่น ชาวมาเลเซีย พำนักในไทยประมาณ 2 วันเท่านั้น