ThaiBMA กังวลหุ้นกู้ “ไฮยีลด์” เสี่ยงขายยากขึ้นผลกระทบหุ้น STARK

หุ้นกู้

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กังวลหุ้นกู้ออกใหม่กลุ่มไฮยีลด์ขายยากขึ้นผลกระทบหุ้น STARK แต่มั่นใจกลุ่มอินเวสต์เมนต์ยังขายได้จากชื่อเสียงคุณภาพบริษัท คาดทั้งปีมูลค่าออกยังทะลุ 1 ล้านล้านบาท

วันที่ 6 กรกฎาคม 2566 ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ในส่วนของหุ้นกู้ที่มีเรตติ้งสูง ๆ ระดับ A- ขึ้นไปยังคงเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดนักลงทุนและขายได้อยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก

อาทิ เช่น บมจ.ดุสิตธานี, บมจ.ออริจิ้น หรือ บมจ.ไทยเบฟ ฉะนั้นถ้าเป็นหุ้นกู้จากบริษัทที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วก็ยังมั่นใจว่าจะยังได้รับการตอบรับจากที่ดีจากนักลงทุน แต่อาจจะเป็นไปได้ในเรื่องของปริมาณการจองซื้อที่อาจจะลดลงเมื่อเทียบกับในอดีต ส่วนหนึ่งก็มาจากบรรยากาศการลงทุนก็ไม่ได้คึกคักด้วย

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล

แต่คงต้องยอมรับว่าจากกรณี STARK แม้ว่าอาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นกู้ที่มีเรตติ้งสูง ๆ แต่ก็จะส่งผลทำให้หุ้นกู้ในระดับเครดิตเรตติ้งตั้งแต่ BB+ ลงมา รวมไปถึงหุ้นกู้ที่ไม่มีเรตติ้งก็อาจจะขายได้ยากขึ้น

Advertisment

ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทที่ยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต.เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ในช่วงที่เหลือของปีมูลค่า 3.5 หมื่นล้าน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเรตติ้งระดับ BB+ ขึ้นไป และบริษัทที่ดีเป็นที่รู้จัก ไม่นับรวมกลุ่มไฮยีลด์บอนด์และเรตติ้ง BB+ ลงมา ดังนั้นเมื่อเป็นหุ้นกู้ของบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีชื่อเสียงก็เชื่อว่าหุ้นกู้บางตัวก็จะยังขายได้ดี และมั่นใจว่าการออกหุ้นกู้จะยังคงทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง

โดยการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว (หุ้นกู้) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีมูลค่า 617,664 ล้านบาท คิดเป็น 49% ของมูลค่าการออกทั้งปี 2565 โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการออกสูงสุด 3 ลำดับแรก คือ กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ กลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคาร ทั้งนี้ หุ้นกู้ระยะยาวที่ออกในช่วงครึ่งปีแรก เป็นการเสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไป (PO : Public Offering) ในสัดส่วน 37% ของยอดการออกหุ้นกู้ระยะยาว ซึ่งสูงขึ้นจากในปี 2565

ดังนั้น การประมาณการยอดการออกหุ้นกู้ในปี 2566 คาดว่าน่าจะได้เห็นยอดการออกหุ้นกู้ระยะยาวไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท ด้วยมูลค่าการออกหุ้นกู้ระยะยาวในครึ่งปีแรกแล้วกว่า 6 แสนล้านบาท ประกอบกับส่วนที่จะออกเพื่อทดแทนรุ่นที่ครบกำหนดไถ่ถอนในครึ่งหลังของปี และการออกเพื่อระดมเงินทุนใหม่รวมกันไม่ต่ำกว่า 4 แสนล้านบาท

“อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดทุนนับจากต้นปีไล่มาตั้งแต่ บมจ.ออลล์ อินสไปร์, บมจ.ช ทวี และ บมจ.สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น ที่มีการผิดชำระหุ้นกู้ก็ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลมากขึ้น แต่เชื่อว่านักลงทุนก็ไม่ได้เหมารวมว่าหุ้นกู้ทุกตัวจะแบบ STARK เพราะจะเห็นได้ว่า STARK เป็นการกระทำที่ผิดปกติ มีการตกแต่งบัญชี ซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะบริษัท ซึ่งนักลงทุนก็จะต้องแยกแยะเป็นรายบริษัทและศึกษาเพิ่มมากขึ้นก่อนตัดสินใจลงทุน” ดร.สมจินต์กล่าว

Advertisment

ทั้งนี้ มูลหุ้นกู้คงค้างที่มีปัญหาในช่วงก่อนโควิด-19 หรือในช่วงปี 2563 มูลค่า 14,401 ล้านบาท โดย Default จำนวน 5 บริษัท มูลค่า 12,874 ล้านบาท และอยู่ระหว่างขอผ่อนผันอีก 2 บริษัท มูลค่า 12,874 ล้านบาท

ขณะเดียวกันมูลค่าหุ้นกู้คงค้างที่มีปัญหา ล่าสุด ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 โดยมีหุ้นกู้ Default จำนวน 6 บริษัท จำนวน 23,623 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่อยู่ระหว่างขอผ่อนผันอีก 14 บริษัท มูลค่า 13,355 ล้านบาท รวมเป็น 37,018 ล้านบาท หรือไม่เกิน 1% อยู่ในระดับต่ำของมูลค่า NPL ซึ่งมองว่าไม่น่าเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ ขณะเดียวกันในส่วนที่เข้าสู่แผนพื้นฟู จำนวน 3 บริษัท ได้แก่ บมจ.การบินไทย (THAI), บมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE), บมจ.ริช เอเชีย คอร์ปอเรชั่น (RICH) มูลค่า 73,057 ล้านบาท

ทั้งนี้ ThaiBMA เปิดเผยข้อมูล 3 บริษัทที่มีการผิดนัดชำระในปี 2566 ได้แก่

1.บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (PROP) โดยองค์กรไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Nonrated)

– สถานะล่าสุด : วันที่ 5 ก.ค. 2577 ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้แจ้งให้ผู้ออกชำระหนี้โดยพลันหุ้นกู้ทั้ง 7 รุ่น
– มูลค่าหุ้นกู้ 2,334.2 ล้านบาท
– Default : 7 รุ่นมูลค่า 2,334 ล้านบาท

2.บมจ.ช ทวี จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มยานยนต์ โดยองค์กรไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Nonrated)

– สถานะล่าสุด : วันที่ 15 มิ.ย. 2566 ผู้ถือหุ้นกู้ทุกรุ่นอนุมัติผ่อนผันเหตุผิดนัด ทำให้หุ้นกู้ CHO ทุกรุ่นเปลี่ยนสถานะจาก DP เป็น RS
– มูลค่าหุ้นกู้ : 745.69 ล้านบาท
– Restructure : 4 รุ่นมูลค่า 745.69 ล้านบาท

3.บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ในกลุ่มวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร องค์กรเครดิตเรตติ้งระดับ D

– สถานล่าสุด : วันที่ 2 ก.ค. 2566 ผู้ออกไม่สามารถชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้รุ่น STARK239A และ STARK249A ได้
– มูลค่าหุ้นกู้ : 9,198.40 ล้านบาท
– Default : 5 รุ่นมูลค่า 9,198.40 ล้านบาท