คริสตินา เคิร์ชเนอร์ รองประธานาธิบดี อาร์เจนตินา แถลงโต้อัยการ หลังถูกยื่นโทษจำคุก 12 ปี
วันที่ 24 สิงหาคม 2565 สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ คริสตินา เคิร์ชเนอร์ รองประธานาธิบดีอาร์เจนตินา อายุ 69 ปี ที่ถูกอัยการยื่นข้อเสนอให้ศาลพิจารณาบทลงโทษจำคุก 12 ปี และห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองตลอดชีวิต ฐานใช้อำนาจหน้าที่เอื้อผลประโยชน์ให้คนใกล้ชิดชนะการประมูลสัญญาของรัฐ
จากนั้น นางเคิร์ชเนอร์ไลฟ์แถลงตอบโต้ผ่านโซเชียลมีเดีย ว่าตนเองถูกเล่นงานลากไปถึงศาล เพราะการต่อต้านอุดมการณ์ทางการเมืองแบบเปรอนนิยม (Peronism) โดยอัยการได้เขียนบทลงโทษจำคุกไว้เสร็จสรรพแล้ว
“สิ่งที่พวกเขาพูดมาไม่มีอะไรจะพิสูจน์ได้เลยอย่างสิ้นเชิง นี่ไม่ใช่การไต่สวนคดีต่อดิฉันหรอกค่ะ เป็นการต่อต้านแนวทางเปรอนนิยม” นางเคิร์ชเนอร์กล่าว และว่า “การเสนอโทษจำคุก 12 ปี มันเท่ากับช่วงเวลา 12 ปีที่อาร์เจนตินามีรัฐบาลที่ดีที่สุด ช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา
แม้จะถูกดำเนินคดีมาจนถึงอัยการเสนอบทลงโทษ แต่นางเคิร์ชเนอร์มีเอกสิทธิ์ทางการเมืองคุ้มครอง ทั้งในฐานะรองประธานาธิบดี และในฐานะสมาชิกวุฒิสภา
หรือแม้แต่ช่วงปลายปีนี้ ที่คาดว่าศาลจะอ่านคำตัดสิน หากนางเคิร์ชเนอร์ถูกตัดสินว่ามีความผิด ก็ยังไม่ต้องถูกนำตัวเข้าเรือนจำ จนกว่าศาลฎีกาจะอนุมัติ หรือหากนางเคิร์ชเนอร์พ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง ส.ว. ปลายปี 2566
ประธานาธิบดีก็เป็นมาแล้ว
นางเคิร์ชเนอร์ มีชื่อเต็มเป็นภาษาสเปนว่า กริสตินา เอลิซาเบต เฟร์นันเดซ เด กีร์ชเนร์ มักมีอักษรตัวย่อว่า CFK เคยเป็นนักกฎหมายด้านการค้า และเคยเป็นถึงประธานาธิบดี คนที่ 54 ระหว่างปี 2550-2558 ช่วงที่สืบต่ออำนาจจากนายเนสเตอร์ เคิร์ชเนอร์ สามี
นางเคิร์ชเนอร์ หรือ CFK เป็นประธานาธิบดีหญิงคนที่สองของอาร์เจนตินา ต่อจาก อิซาเบล เปรอง ภรรยาคนที่สามของ ฆวน เปรอง
CFK แสดงตนมาตลอดว่า เป็นผู้ยึดถืออุดมการณ์ทางการเมืองแบบเปรอนนิยม และก้าวหน้า แนวทางดังกล่าวเข้าใกล้จะเป็นแนวทางการเมืองแบบ เคิร์ชเนอร์นิยม (Kirchnerism)
อาร์เจนรำลึก 70 ปีเอวิตาจากไป
ช่วงเวลาที่นางเคิร์ชเนอร์ถูกดำเนินคดี อยู่ในช่วงเดียวกับที่ชาวอาร์เจนตินาเพิ่งจัดงานรำลึกถึง เอวิตา เปรอง
สำนักข่าว เอพี รายงานว่า มาเรีย เอวา ดูอาร์เตเดอ เปรอง อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 หรือรู้จักกันดีในชื่อ เอวา เปรอน หรือ เอวิตา จากโลกไปครบ 70 ปี เมื่อวันที่ 26 ก.ค.
หลังจากลาโลกไป 70 ปีที่แล้ว เอวิตายังเป็นขวัญใจในอาร์เจนตินา ผู้ศรัทธาอดีตสตรีหมายเลข 1 เชื่อว่าภาพลักษณ์ในฐานะวีรสตรีของคนยากจนมีพลังมากกว่าที่เคย ท่ามกลางความไม่เท่าเทียมกัน และความยากจนรุมเร้าจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาและเงินเฟ้อรุนแรง
ชีวประวัติของเอวิตาเคยนำมาเขียนเป็นหนังสือ ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ ละครเพลงบรอดเวย์ แต่ชาวอาร์เจนตินาสูงอายุบางคนมีความผูกพันกับเอวิตามากกว่า
หญิงชาวบ้านคนหนึ่ง ฆูอานา มาร์ตา บาร์โร อายุ 84 ปี เดินทางมาต่อแถวนำดอกไม้มาวางและเคารพศพที่สุสานเอวิตา ในเมืองเรโคเลตา ใกล้กับเมืองหลวง น้ำตาซึมเมื่อนึกถึงอดีต
เธอเป็นลูกสาวแม่บ้านฐานะยากจน แต่ชีวิตดีขึ้นเมื่อเอวิตาเล่นการเมือง ทำให้เธอมีรองเท้า เป้ และชุดนักเรียน ในชีวิตนี้เคยเห็นเอวิตาครั้งหนึ่งขณะที่ภริยาประธานาธิบดีนั่งรถไฟผ่านเมืองที่เธออยู่ ทำให้รู้สึกว่า “เอวิตาเป็นแสงส่องสว่างในหัวใจ”
เอวิตาเกิดที่เมืองโลส โตลโดส เมืองชนบทเล็ก ๆ ห่างจากเมืองหลวงประมาณ 300 กิโลเมตร และย้ายเข้ากรุงบูเอโนสไอเรสเมื่ออายุ 15 ปี เพื่อตามหาฝันที่จะเป็นนักแสดง
10 ปีต่อมา เอวิตาพบกับ พลโทฆวน โดมิงโก เปรอง และอยู่เคียงข้างเปรองเมื่อชนะการเลือกตั้ง จากนั้นเอวิตาก็โด่งดังไปทั่วประเทศ มีคนรักพอ ๆ กับคนเกลียดจากบรรดาคนรวยและมีอำนาจในประเทศที่ระแวงว่าเอวิตาเรืองอำนาจและเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น
ช่วงเวลาเรืองรองแสนสั้น เอวิตาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกในวัย 33 ปี ชาวอาร์เจนตินาร่ำไห้และอาลัยทั่วประเทศ
ส่วนนายพลเปรอนชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี 2 สมัย และเป็นผู้ก่อตั้ง “ลัทธิเปรอน” ที่ยังคงใช้กันอยู่ในแวดวงการเมืองอาร์เจนตินาจนถึงทุกวันนี้
เฟลิเป พิกนา นักประวัติศาสตร์ ผู้เขียนชีวประวัติของอดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 กล่าวว่า เปรองเป็นที่เคารพ แต่เอวิตามีทั้งคนรักและชัง และจบด้วยความรู้สึกท่วมท้นต่อลัทธิเปรอง
ด้านอเลฆานโดร มาซี ผู้กำกับซีรีส์เรื่อง “ซานตา เอวิตา” กล่าวว่า เอวามีบุคลิกเป็นแม่มด ในภาพยนตร์ของดิสนีย์ ที่สร้างจากงานประพันธ์ของโทมัส อีลอย มาร์ติเนส นักเขียนชาวอาร์เจนตินา ที่แต่งขึ้นในปี 1995
ผู้กำกับมาซีเห็นว่าผู้คนกำลังนึกถึงเอวิตาในห้วงเวลาที่อาร์เจนตานาเผชิญความยากจนและความไม่เท่าเทียมกันทุกหัวระแหง เอวิตาเคยเสนอให้สังคมเดินไปข้างหน้า แต่อาร์เจนตินากลับติดหล่มหรือถอยหลังเข้าคลอง
….