วัดส่วนได้ส่วนเสีย เมื่อยุโรปพยายามตัดขาดพลังงานรัสเซีย แต่รัสเซียหันทำรายได้จากจีน-อินเดีย
วันที่ 8 กันยายน 2565 เอพี รายงานว่า รัสเซียส่งน้ำมันและถ่านหินไปยังอินเดียและจีนมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงฤดูร้อน เมื่อเทียบกับต้นปี จังหวะที่รัสเซียหยุดส่งพลังงานไปยังประเทศในยุโรปที่พึ่งพาพลังงานของรัสเซียมานานหลังยุโรปคว่ำบาตรรัสเซียในกรณีสงครามยูเครน
ศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศบริสุทธิ์ (The Centre for Research on Energy and Clean Air) กรุงเบอร์ลินระบุว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนสิงหาคมรัสเซียโกยรายได้จากการส่งออกน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินราว 158,000 ล้านยูโร ซึ่งมากกว่ารายได้ที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปกว่าครึ่ง ประมาณ 85,000 ล้านยูโร
จากเดิมในกลุ่มสหภาพยุโรป ประเทศเยอรมนีเป็นผู้นำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจากรัสเซียรายใหญ่ที่สุด มูลค่า 19.000 ล้านยูโร ช่วงระยะเวลา 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม ผู้นำเข้าเชื้อเพลิงจากรัสเซียอันดับ 1 ของโลกคือจีน ซึ่งนำเข้าพลังงานของรัสเซียมูลค่ากว่า 35,000 ล้านยูโร
นอกจากนี้ อินเดียและจีนนำเข้าถ่านหินและน้ำมันดิบจากรัสเซียในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมมากกว่าในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม
กลุ่มบริษัทในเฮลซิงกิ ของฟินแลนด์ ระบุว่า รายรับของรัสเซียเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณการส่งออกโดยรวมลดลง 18% เมื่อเทียบกับตอนที่รัสเซียบุกยูเครน
ส่วนสหภาพยุโรปได้ลดการนำเข้าจากรัสเซียลง 35% นับตั้งแต่สงครามยูเครน ห้ามนำเข้าถ่านหินของรัสเซียในกลุ่ม 27 ประเทศ ส่วนทางรัสเซียหยุดส่งก๊าซธรรมชาติไปยังสหภาพยุโรป ด้วยเงื่อนไขที่รู้กันว่าต้องการบีบให้ยุโรปเลิกแซงก์ชั่น
โรเบิร์ต ฮาเบ็ก รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีกล่าวว่า “ประเทศของเขาไม่คาดหวังว่าการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียจะกลับมาดำเนินการอีก”
อันนาเลนา แบร์บ็อก รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ยอมรับว่าการที่รัสเซียระงับการส่งก๊าซธรรมชาติทำให้ส่งผลกระทบในเยอรมนี โดยพาดพิงถึงรัสเซียที่ใช้การระงับการส่งออกก๊าซธรรมชาติมาเป็นการตอบโต้การคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก ที่มีการบังคับใช้หลังจากที่รัสเซียบุกยูเครน
แบร์บ็อกกล่าวต่อนักการทูตชาวเยอรมันและตัวแทนธุรกิจในกรุงเบอร์ลินว่า “เราต้องหนักแน่น เราจะไม่ยอมแพ้ต่อการหยุดส่งก๊าซของรัสเซียนี้”
การส่งออกเชื้อเพลิงฟอสซิลมีส่วนสนับสนุนงบประมาณรัฐบาลกลางของรัสเซียประมาณ 4.3 หมื่นล้านยูโร เมื่อเทียบกับการประเมินโดยอิสระ ว่าสงครามครั้งนี้ทำให้รัฐรัสเซียต้องเสียค่าเสียหายถึง 1 แสนล้านยูโร
…..