เงินเยนอ่อนค่าทุบสถิติอ่อนสุดรอบ 32 ปี ผ่านระดับจิตวิทยาสำคัญมาอยู่ที่ 150 เยนต่อดอลลาร์ ตลาดจับตาธนาคารกลางญี่ปุ่นแทรกแซงค่าเงินครั้งที่ 2 ในรอบปี
วันที่ 20 ตุลาคม 2565 บลูมเบิร์ก รายงานว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนเทียบดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าผ่านระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐแล้วในวันนี้ ทำให้นักลงทุนแตกตื่นว่า จะเป็นระดับที่ส่งผลให้เกิดการแทรกแซงค่าเงินเพื่อพยุงสถานการณ์อีกครั้ง
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
ทั้งนี้ ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงมามากถึง 0.2% มาอยู่ที่ระดับ 150.08 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปี (Treasury Bill) พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบหลายปี ส่งผลให้เกิดช่องว่างผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น
ส่วนเงินเยนที่ลงมาผ่านระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นระดับที่อ่อนค่าทำสถิติครั้งใหม่ ในรอบ 32 ปี และยังเป็นการอ่อนค่าทุบสถิติอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะพยายามรักษาเสถียรภาพค่าเงินด้วยการเข้าแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
วิน ธิน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนของ บราวน์ บราเธอร์ แฮร์ริมาน กล่าวว่า ไม่ต้องแปลกใจถ้าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงค่าเงินอีกครั้งในไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาของวันนี้ แต่คือการชี้ให้เห็นความเสี่ยงสองด้านที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่า จะเข้าไปดูแลค่าเงินหากมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงรุนแรง แทนการกำหนดเป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยนในจุดใดจุดหนึ่งโดยเฉพาะ
150 เยน คือระดับจิตวิทยาที่สำคัญ
ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยน 150 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ถูกมองว่า เป็นระดับจิตวิทยาที่สำคัญของญี่ปุ่น และการเข้าแทรกแซงค่าเงินอาจเพิ่มแรงกดดันต่อสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ
ชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ญี่ปุ่น กล่าวที่รัฐสภาวันนี้ว่า ญี่ปุ่นพร้อมที่จะลงมือ หากค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว
“เราไม่สามารถทนต่อการเคลื่อนไหวที่รุนแรงเกินไปจากการเก็งกำไรได้…เราจะยังคงจับตาดูความเคลื่อนไหวในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างเร่งด่วนและจะดำเนินการตอบสนองอย่างเหมาะสมต่อการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป” ซูซูกิกล่าว
แม้ว่าเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้ใช้เงินเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพยุงเงินเยน พร้อมออกเตือนห้ามผู้ค้าดำเนินการใด ๆ ที่สะท้อนการเก็งกำไรล่างหน้า
แต่นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันเงินเยนเทียบดอลลาร์สหรัฐ ก็ร่วงไปแล้ว 23% เนื่องจากผู้ค้าให้ความสำคัญกับส่วนต่างของผลตอบแทนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐ และญี่ปุ่น ดันให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
อัลวิน ตัน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนเอเชียของ RBC Capital Markets กล่าวว่า ด้วยทิศทางผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่สูงขึ้น การที่ค่าเงินเยนเทียบดอลลาร์สหรัฐจะไปที่ 160 เยน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็ไม่ใช่ปัญหา
“เหตุผลเดียวที่มันไม่ไปถึง 150 เยน ก่อนหน้านี้ ก็เพราะว่าตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงของธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ตันกล่าว
แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะเพิ่มขึ้นโดยอิสระ แต่ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของญี่ปุ่น กลับถูกกำกับไว้ตามนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (yield curve) ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นกำหนด
เยนอ่อน หุ้นเอเชียร่วง
รอยเตอร์ส รายงานว่า หุ้นเอเชียร่วงลงในวันนี้ (20 ต.ค.) สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เมษายน 2563 เนื่องจากความเสี่ยงในหมู่นักลงทุนเพิ่มขึ้น หลังจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจุดชนวนความกลัวว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกอีกครั้ง
ดัชนีหุ้น MSCI’s เอเชีย-แปซิฟิก ลดลงมากถึง 0.8% ทำให้ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันดัชนีลดลงประมาณ 29%
ดัชนีตลาดหุ้นจีน SSEC ร่วงลง ขณะที่หุ้นฮ่องกง (HSI) แตะระดับต่ำสุด นับจากช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2551-2552
ขณะที่วันนี้ จีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐาน เป็นเดือนที่สองติดต่อกัน เนื่องจากทางการระงับการกระตุ้นทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อหลีกเลี่ยงความแตกต่างของนโยบายการเงินกับประเทศเศรษฐกิจหลักอื่น ๆ
ส่วนชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น กล่าวว่าจะดำเนินการ “ขั้นตอนที่เหมาะสม” เพื่อป้องกันความผันผวนของค่าเงินเยนที่มากเกินไป