ปูตินชี้ภัยสงครามนิวเคลียร์เพิ่มขึ้น ยอมรับศึกระหว่างยูเครนยืดเยื้อ

วลาดิมีร์ ปูติน
Sputnik/Mikhail Metzel/Pool via REUTERS

ประธานาธิบดีรัสเซีย ชี้ภัยจากสงครามนิวเคลียร์กำลังเพิ่มขึ้น สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ ยืนยันรัสเซียไม่ได้บ้า

วันที่ 8 ธันวาคม 2565 มติชนรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ออกมาระบุว่า ภัยคุกคามของสงครามนิวเคลียร์กำลังเพิ่มขึ้น แต่ยืนยันว่ารัสเซียไม่ได้บ้าไปแล้ว และรัสเซียจะไม่เป็นฝ่ายที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ก่อน แต่จะใช้อาวุธที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสูงเพื่อตอบโต้การโจมตีเท่านั้น

คำกล่าวของปูตินระหว่างเข้าประชุมสภาสิทธิมนุษยชนประจำปีของรัสเซีย ถูกตีความว่าเป็นคำเตือนล่าสุดของผู้นำรัสเซีย เพื่อขัดขวางไม่ให้ตะวันตกที่ให้การสนับสนุนยูเครนในการรับมือกับรัสเซียเข้าไปมีส่วนร่วมกับการสู้รบมากขึ้น

“เราไม่ได้บ้า เราตระหนักดีว่าอาวุธนิวเคลียร์คืออะไร เรามีมันในรูปแบบที่ก้าวหน้าและทันสมัยกว่าประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์อื่น ๆ แต่เราจะไม่วิ่งไปทั่วโลกและกวัดแกว่งมันเหมือนมีดโกน” ปูตินกล่าว

ผู้นำรัสเซียยังยอมรับว่าสงครามในยูเครนอาจยืดเยื้อยาวนาน แต่จะไม่มีการเรียกเกณฑ์ทหารใหม่เป็นครั้งที่สอง อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้พูดถึงระยะเวลาที่น่าจะเป็นไปได้ของสงครามที่เข้าสู่เดือนที่ 9 แล้วในปัจจุบัน เพียงแต่ระบุว่า “มันอาจเป็นกระบวนการที่ยาวนาน” เท่านั้น

แม้จะมีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ที่รัสเซียเคยยึดครองในยูเครนหลายจุด แต่ปูตินยังยืนยันว่ารัสเซียได้บรรลุผลลัพธ์ที่สำคัญด้วยการได้มาซึ่งดินแดนใหม่ ซึ่งเป็นการอ้างถึงดินแดนใน 4 ภูมิภาคของยูเครนที่รัสเซียผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตนเองในเดือนกันยายน ท่ามกลางเสียงคัดค้านไม่ยอมรับทั้งจากยูเครนและสมาชิกส่วนใหญ่ของสหประชาชาติ ที่ออกมาประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

ล่าสุดมีรายงานว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงจรวดและขีปนาวุธมากกว่า 1,000 ลูกใส่โครงข่ายไฟฟ้าของยูเครน ซึ่งยังคงใช้งานได้แม้จะมีบางส่วนเสียหายอย่างหนัก นายวิตาลี คลิทช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เตือนถึงสถานการณ์หายนะที่ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา หรือระบบทำความร้อนในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง

หากการโจมตีทางอากาศของรัสเซียต่อโครงสร้างพื้นฐานในยูเครนยังดำเนินอยู่ต่อไป ซึ่งอาจทำให้กรุงเคียฟถูกทิ้งอยู่ในอุณหภูมิที่อาจลดต่ำลงถึง -15 องศาเซลเซียสได้