หลายเมืองใหญ่ในประเทศจีนกำลังเผชิญปัญหามีโรงเรียนประถมไม่เพียงพอต่อการรับนักเรียนเข้าเรียน เนื่องจากเด็กรุ่นแรกที่เกิดจากนโยบาย “ลูกสองคน” ถึงเกณฑ์เข้าเรียนในปีนี้
ขณะที่เรื่องจำนวนประชากรจีนที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปี กำลังเป็นประเด็นเด่นในสื่อทั่วโลก ในประเทศจีนกำลังเผชิญกับอีกปัญหาใหญ่ที่เกี่ยวกับการพัฒนาประชากรรุ่นใหม่ นั่นก็คือมีโรงเรียนประถมไม่เพียงพอสำหรับจำนวนเด็กที่จะต้องเข้าเรียน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
สำนักข่าว Caixin ในประเทศจีน รายงานว่า โรงเรียนประถมในเมืองใหญ่ของจีน เช่น กว่างโจว เฉิงตู และฉางชุน ได้เตือนถึงปัญหาการมีโรงเรียนไม่เพียงพอสำหรับรองรับนักเรียนที่ถึงเกณฑ์เข้าเรียน เนื่องจากเด็กรุ่นแรกที่เกิดจากนโยบาย “ลูกสองคน” เมื่อปี 2558 มีอายุถึงเกณฑ์เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาในปี 2566 นี้
ปัญหานี้ส่งผลให้หลายเขตในนครกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมทางตอนใต้ของจีน และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของประเทศ ออกประกาศว่า การรับนักเรียนเข้าเรียนในปี 2566 นี้จะเข้มงวด เนื่องจากจำนวนเด็กที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาคาดว่าจะมากกว่าปีที่แล้ว
เช่นกันกับโรงเรียนประถมและมัธยม 50 แห่งในเมืองเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ที่อยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศ ได้แจ้งเตือนผู้ปกครองถึงความเป็นไปได้ที่โรงเรียนจะรับนักเรียนได้จำนวนจำกัด เนื่องจากจำนวนประชากรในภูมิภาคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ส่วนฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศก็เจอปัญหาเช่นเดียวกัน โดยโรงเรียนหลายแห่งในเมืองฉางชุน มณฑลจี๋หลิน ก็เตือนเช่นกันว่าปีนี้โรงเรียนมีที่นั่งสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาน้อยเกินไป
ทั้งนี้ นโยบาย “ลูกสองคน” ที่จีนประกาศใช้ในปี 2558 นั้น ส่งผลให้มีเด็กเกิด 17.86 ล้านคนในปี 2559 เพิ่มขึ้น 8.6% ของค่าเฉลี่ยการเกิดในช่วงปี 2554-2558
ถึงแม้ต่อมาจำนวนการเกิดชะลอลงเป็น 17.23 ล้านคน ในปี 2560 และนำมาสู่จำนวนการเกิดต่ำเป็นประวัติการณ์ในปี 2565 แต่ความต้องการเข้าโรงเรียนในเมืองใหญ่ ๆ หลายแห่งมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ในมณฑลกวางตุ้ง การลงทะเบียนเรียนระดับประถมศึกษาคาดว่าจะสูงสุดในปี 2568 ตามคำแถลงของหน่วยงานด้านการศึกษาของมณฑลเมื่อปี 2564 ซึ่งหน่วยงานยังเสริมว่า แรงกดดันของโรงเรียนในการจัดหาสถานที่สำหรับนักเรียนจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเริ่มใช้นโยบาย “ลูกสามคน” ในเดือนพฤษภาคม 2564
สำหรับกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศ มีผลการศึกษาในปี 2020 ที่เผยแพร่โดย เซา เหาเหวิน (Cao Haowen) ผู้ช่วยนักวิจัยของ Beijing Academy of Educational Sciences ประเมินว่า ปักกิ่งจะมีความต้องการเข้าเรียนประถมศึกษาสูงสุดในปีนี้ โดยมีนักเรียนจำนวน 10.82 ล้านคนที่ต้องการที่เรียน
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้การขาดแคลนโรงเรียนของรัฐเป็นเรื่องปกติในเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว ซึ่งความต้องการเข้าเรียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการหลั่งไหลเข้าเมืองของคนชนบท
…………………….
