เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือราชามาเก๊า อัลวิน เชา คือทางการจีน สะท้อนผ่านคำพิพากษาจำคุก 18 ปี
วันที่ 19 มกราคม 2566 ซีเอ็นเอ็น อ้างอิงรายงานจาก TDM สื่อของทางการมาเก๊า ว่า อัลวิน เชา วัย 48 ปี อดีตประธานบริษัท ซันซิตี้ กรุ๊ป ฉายา junket king-ราชาจังเกต หรือหัวหน้าทัวร์พนันมาเก๊ารายใหญ่ที่สุด ถูกตัดสินจำคุกถึง 18 ปี จากความผิดหาเงินจากกิจกรรมผิดกฎหมาย และทำกิจกรรมการพนันผิดกฎหมาย
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
ศาลพิพากษาและมีสั่งวันที่ 18 ม.ค. ให้นายเชาจ่ายเงินชดเชยให้รัฐบาลมาเเก๊า ราว 830 ล้านดอลลาร์ หรือราว 27,500 ล้านดอลลาร์ และให้ผู้ประกอบการกาสิโนอีกจำนวนหนึ่ง มูลค่า 22.7-98 ล้านดอลลาร์
นายเปโดร ลีล ทนายความ กล่าวว่ายังไม่ได้ติดต่อกับนายเชาเลย แต่หากได้พูดคุยจะแนะนำให้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาล
นายเชาถูกจับกุมที่มณฑลเจ้อเจียง ภาคตะวันออกของจีน เมื่อปลายปี 2564 และถูกนำตัวมาดำเนินคดีที่มาเก๊า เขตปกครองเดียวของจีนที่อนุญาตให้การเปิดกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย
การจับกุมและดำเนินคดีนายเชา ทำให้ผู้เชี่ยวชาญมองว่า เป็นการตอกย้ำจากทางการจีนว่าเข้ามาควบคุมการพนันอย่างเข้มงวดขึ้น
มาเก๊าเป็นดินแดนเล็ก ๆ ที่มีประชากรเพียง 6 แสนคน แต่สร้างเงินมหาศาลจากธุรกิจกาสิโน และการท่องเที่ยวที่ใช้เวลานั่งเรือข้ามฟากจากฮ่องกงมาเพียงหนึ่งชั่วโมง กระทั่งเมื่อเกิดสถานการณ์โรคระบาดโควิด รายได้ของมาเก๊าหดหายไปอย่างน่าตกใจ และถึงขณะนี้ยังไม่ฟื้นตัวดี
เปิดประวัติ อัลวิน เชา
เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ ย้อนประวัติ อัลวิน เชา ว่าเป็นคนมาเก๊าโดยกำเนิด เข้าสู่วงการธุรกิจตั้งแต่อายุ 20 ปี โดยสร้างธุรกิจจังเกต หรือทัวร์รับรองนักพนันกระเป๋าหนักเข้ามาสำราญกับกาสิโน ด้วยเห็นว่า กาสิโนทุกแห่งจะมีห้องพิเศษสำหรับต้อนรับขับสู้ลูกค้าระดับวีไอพี
ช่วงสร้างกิจการ มีรายงานว่า นายเชาสนิทสนมกับเจ้าพ่อมาเก๊า หวัน ค็อกคอย ฉายา ไอ้ฟันหลอ ตั้งแต่ปี 2538 ต่อมาเมื่อเจ้าพ่อหวันถูกจำคุกในปี 2542 เชาก็ไปเยี่ยมที่เรือนจำหลายครั้ง จนหวันให้ความไว้วางใจและขอให้เพื่อนให้เงินเชา 3.8 ล้านดอลลาร์ หรือราว 125 ล้านบาทสำหรับก่อตั้งบริษัท
ปี 2550 เชาก่อตั้งบริษัท ซันซิตี้ กรุ๊ป ได้สำเร็จ และสร้างทศวรรษแห่งการดึงดูดนักพนันกระเป๋าหนักเข้าบ่อนกาสิโนมาเก๊าอย่างไม่ขายสาย
“ก่อนอายุ 30 ผมไม่มีอะไรเลย แต่หลังอายุ 30 แล้ว ผมเริ่มมีความคิดและตั้งเป้าหมาย อย่างที่ผมเคยพูดมาก่อน ผมไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร” เชาให้สัมภาษณ์สื่อฮ่องกง แอปเปิล เดลี เมื่อปี 2560
ต่อมาธุรกิจของซันซิตี้ขยายกิจการไปหลากหลาย ครอบคลุมการลงทุน การท่องเที่ยว การโรงแรม รีสอร์ต การท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ วงการบันเทิง และยังเข้าไปคุมธุรกิจกาสิโนในหลายประเทศ ตั้งแต่ฟิลิปปินส์ ไปจนถึงรัสเซีย
รุกวงการบันเทิงฮ่องกง
นอกจากนี้ เชายังตั้งบริษัท ซัน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คัลเจอร์ในฮ่องกง เมื่อปี 2554 ดึงนักร้องคนดังอย่าง แอนดี้ ฮุย และ วิลฟรีด หลิว รวมถึงได้ผู้กำกับ ดีเรก เจิ้งกัวจาง เข้าสังกัด บริษัทยังสร้างภาพยนตร์ท้องถิ่นเรื่อง The White Storm, Vulgaria และ The Way We Dance
เชากล่าวว่า อยากเข้ามาเกี่ยวข้องในวงการบันเทิง เพราะคิดว่าน่าจะได้กำไรด้วย และได้ช่วยสร้างแบรนด์ในระยะยาว เพื่อให้มีชื่อเสียงเหมือนบริษัท เอ็มเพอเรอร์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป
จากฉายา ราชาจังเกต บ่งบอกว่านายเชาเคยเป็นเสาหลักของเมืองมาเก๊า และให้ทุนสนับสนุนงานใหญ่ ๆ หลายงาน รวมถึงเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ และมาเก๊า กรังปรีซ์ นายเชายังบริจาคเงินให้กับสมาคม และกลุ่มที่ปรึกษาการเมืองของรัฐบาลท้องถิ่นในกวางตุ้ง มาตลอดจนถึงปี 2561
ปี 2562 สื่อของทางการจีนเริ่มรายงานว่า บริษัท ซันซิตี้ กรุ๊ป ช่วยให้เหล่านักพนันจีนทำกิจการผิดกฎหมายทางแพลตฟอร์มออนไลน์ในฟิลิปปินส์ และกัมพูชา ตอนนั้นนายเชาปฏิเสธข้อกล่าวหา
หลังเชาถูกจับกุมเดือนธันวาคม 2564 จึงลาออกจากประธานซันซิตี้ ซึ่งมีสำนักงานในฮ่องกง ส่วนทางบริษัทก็ตีตัวออกห่าง พร้อมประกาศว่าธุรกิจจังเกต บริหารจัดโดยนายเชาเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับซันซิตี้ นอกจากนี้ซันซิตี้ยังเปลี่ยนชื่อบริษัท เป็น LET Group Holdings
ถูกฟ้อง 286 ข้อหาอาญา
นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า เฉพาะนายเชาคนเดียวถูกดำเนินคดีอาญาถึง 286 ข้อหา จากพฤติกรรมที่ร่วมกับผู้ร่วมงานในซันซิตี้ แอบแฝงตัวด้วยการจัดการอย่างแนบเนียน ใช้ธุรกิจบังหน้า ส่วนเบื้องหลังคือการฟอกเงินและโกงการพนันอย่างผิดกฎหมาย
กลโกงดังกล่าวคือการแอบเปิดเว็บพนันและโมบายล์แอปผิดกฎหมาย ดำเนินกิจการมาจากฟิลิปปินส์และกัมพูชา ทะลวงเข้ามายังแผ่นดินใหญ่ พร้อมใช้สแกมเมอร์โจมตีทางออนไลน์ต่อกลุ่มผู้ประกอบการกาสิโน รายอื่น ๆ ของมาเก๊า ที่มีใบอนุญาต 6 เจ้า
วิธีการฉ้อฉลต่าง ๆ นี้ทำให้รัฐบาลมาเก๊าสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษี นับจากปี 2556 ถึงปี 2565 เป็นเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 3.3 หมื่นล้านบาท
ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการกาสิโน ทั้ง เอสเจเอ็ม โฮลดิงส์ ของครอบครัว สแตนลีย์ โฮ รวมถึง วีนน์ มาเก๊า และแซนส์ ไชน่า ต่างเสียรายได้ให้กับแก๊งอาชญากรรมนี้กว่า 265 ล้านดอลลาร์ หรือราว 8,750 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มฉวยประโยชน์นี้ทำเงินไปแล้วกว่า 2,745 ล้านดอลลาร์ หรือ 9 หมื่นล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกัน
“ถ้านักพนันลงเงินบนโต๊ะ 1 หมื่นหยวน แสดงว่าต้องเล่นใต้โต๊ะด้วย 2 หมื่นหยวน ถ้านักพนันชนะ กาสิโนต้องจ่ายให้นักพนัน 1 หมื่นหยวน ส่วนบริษัทจ่ายให้ด้วย 2 หมื่นหยวน แต่ถ้านักพนันแพ้ เขาต้องจ่ายให้กาสิโน 1 หมื่นหยวน และจ่ายให้กลุ่มผิดกฎหมายนี้ด้วย 2 หมื่นหยวน” คำฟ้องระบุ
แสดงตัวการเมืองชาตินิยม
ด้าน บลูมเบิร์ก รายงานว่า นอกจากทำธุรกิจแล้ว เชาพยายามเข้าสู่แวดวงการเมือง ด้วยการเป็นสมาชิกคณะกรรมการมณฑลกวางตุ้งชุดที่ 11 ที่อยู่ในคณะที่ปรึกษาทางการเมืองประชาชนจีน และเข้าร่วมประชุมระหว่างปี 2556-2560
เคยให้ความเห็นสนับสนุนแนวทางชาตินิยมของแผ่นดินใหญ่ และเมื่อปี 2563 ให้สัมภาษณ์สื่อทางการ ว่าธุรกิจบันเทิงของตนเองสนับสนุนเงินทุนให้กับภาพยนตร์รณรงค์เลือดรักชาติจีน เช่น Operation Red Sea เรื่องราวปฏิบัติการของกองทัพเรือที่อพยพเพื่อนร่วมชาติออกจากประเทศแอฟริกาทางเหนือ ขณะกำลังเกิดสงครามกลางเมือง และ Operation Mekong เกี่ยวกับปฏิบัติการล่าพ่อค้ายาเสพติด
บลูมเบิร์กรายงานว่า ข้อหาที่ทำให้นายเชาถูกจับกุม คือดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมาย มาจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ที่มุ่งเน้นการสอบสวนไปยังการพนัน “ใต้โต๊ะ” เป็นระบบที่เหล่านักพนันทุ่มเงินผ่าน “ธนาคารเงา” ที่กลุ่มนายเชาตั้งขึ้น
การขึ้นสู่สูงสุดและดิ่งลงสู่สามัญของนายเชา มาจากการกระชับพื้นที่ของรัฐบาลจีน ที่ไล่บี้เส้นทางที่เศรษฐีจีนโยกย้ายเงินออกนอกประเทศ คนที่ทำหน้าที่จังเกตอย่างนายเชาจึงถูกกวาดล้างขนานใหญ่
บรรดาบอสธุรกิจจังเกตถูกจับเช็กบิล ด้วยกฎหมายการพนันที่ทางการออกมาใช้กับกิจการกาสิโน เพื่อสกัดเงินใต้ดินเชื่อมเข้าสู่เศรษฐกิจบนดินของจีน
เผยชีวิตรัก ดราม่าเจ้าชู้
นอกจากเรื่องงาน ชีวิตส่วนตัวของนายเชาก็เป็นข่าวทางสื่อแท็บลอยด์มาตลอด เนื่องจากมีสัมพันธ์นอกสมรสอย่างชัดเจนกับนางแบบสาวชาวอเมริกัน-มาเลเซีย แมนดี้ เหลียว ตั้งแต่ปี 2557 ทั้งที่มีภรรยาเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่ คือ ไฮดี้ ชาน อยู่แล้ว และมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน และไฮดี้ยังเป็นแม่เลี้ยงให้กับลูกชายคนโตของเชาที่มีกับภรรยาคนแรกด้วย
ทูเดย์ออนไลน์ รายงานว่า เชามีลูกกับแมนดี้ 3 คน ภายใน 5 ปี เป็นลูกสาว 2 ลูกชาย 1 ก่อนทั้งสองเลิกรากัน หลังจากฝ่ายหญิงถอดใจว่า เชาจะไม่มีทางเลิกกับภรรยาคนแรก อีกทั้งยังไปมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับนางแบบสาวญี่ปุ่น ลินาห์ มัตสึกะ
ช่วงที่แยกทางกันปี 2563 สื่อแทบลอยด์ต่างลงข่าวว่า แมนดี้ได้เงินปิดฉากไปไม่น้อย รายงานหนึ่งระบุว่า เชาให้เงินแมนดี้ไป 52 ล้านดอลลาร์ เป็นค่าเลิกราและค่าเสียเวลา จากนั้นหญิงสาวจึงพาลูก 3 คนไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อังกฤษ
