ปูตินถูกศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับข้อหาก่อสงคราม ไบเดนบอกสมควรแล้ว

ปูตินถูกออกหมายจับ

ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกหมายจับวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ด้วยข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม ด้านโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า ปูตินก่ออาชญากรรมสงครามอย่างชัดเจน การออกหมายจับเขานั้นสมเหตุสมผลแล้ว 

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า วันที่ 17 มีนาคม 2566 ตามเวลายุโรป ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court: ICC) ออกหมายจับวลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีรัสเซีย ด้วยข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงคราม เนรเทศผู้คนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเฉพาะการพาตัวเด็กหลายร้อยคนออกจากยูเครนไปยังรัสเซีย

และศาลอาญาระหว่างประเทศได้ออกหมายจับ มาเรีย ลโววา เบโลวา (Maria Lvova-Belova) กรรมาธิการสิทธิเด็กของรัสเซีย ในข้อกล่าวหาเดียวกัน 

วลาดิมีร์ ปูติน เป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ของโลกที่ถูกศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับ ต่อจาก โอมาร์ อัล-บาชีร์ (Omar al-Bashir) แห่งซูดาน และมูอัมมาร์ กัดดาฟี (Muammar Gaddafi) แห่งลิเบีย

คาริม ข่าน (Karim Khan) อัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศเริ่มการสอบสวนอาชญากรรมสงคราม อาชญากรรมต่อมนุษยชาติและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยูเครนเมื่อปีที่แล้ว เขาบอกเน้นย้ำระหว่างการเดินทางไปยูเครน 4 ครั้งว่า เขากำลังพิจารณาคดีที่ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมต่อเด็ก และพุ่งเป้าการโจมตีไปที่โครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน 

อย่างไรก็ตาม หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศเป็นความเคลื่อนไหวที่รัฐบาลรัสเซียบอกว่าไร้ความหมาย ก่อนหน้านี้รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธแล้วหลายครั้งต่อข้อกล่าวหาหลายที่ว่ากองกำลังรัสเซียได้กระทำการอย่างโหดร้ายระหว่างที่รุกรานยูเครนมาเป็นเวลา 1 ปี

ปฏิกิริยาแรกต่อข่าวนี้จากฝั่งรัสเซียมาจากมาเรีย ซาคาโรวา (Maria Zakharova) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งกล่าวว่า “คำตัดสินของศาลอาญาระหว่างประเทศไม่มีความหมายต่อประเทศของเรา รวมถึงจากมุมมองทางกฎหมายด้วย” 

“รัสเซียไม่ได้เป็นภาคีของธรรมนูญกรุงโรมของศาลอาญาระหว่างประเทศ และไม่มีภาระผูกพันภายใต้กฎหมายนี้” 

ดมิทรี เปสคอฟ (Dmitry Peskov) โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวว่า รัสเซียมองว่าคำถามที่ ICC ตั้งขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ “อุกอาจและไม่อาจรับได้” และคำตัดสินใด ๆ ของศาลถือเป็น “โมฆะ” ในมุมมองของรัสเซียทั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ตามหลักการแล้ว แม้ว่ารัสเซียไม่ได้เป็นรัฐภาคีของศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่ปูตินอาจถูกจับส่งไปขึ้นศาลได้ หากเขาเดินทางไปประเทศที่เป็นรัฐภาคีของ ICC ซึ่งมีอยู่ 123 ประเทศ

ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสของยูเครนชื่นชมคำตัดสินของ ICC โดย แอนดรีย์ คอสติน (Andriy Kostin) อัยการสูงสุดของประเทศ ยกย่องว่านี่เป็น “การตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์สำหรับยูเครนและระบบกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมด … แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของหนทางอันยาวไกลในการฟื้นฟูความยุติธรรม” 

ด้านโจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวเห็นว่า ปูตินก่ออาชญากรรมสงครามอย่างชัดเจน และการตัดสินใจของศาลาอาญาระหว่างประเทศที่ออกหมายจับเขาถือเป็นเรื่องที่ชอบธรรม 

“เห็นได้ชัดว่าเขาก่ออาชญากรรมสงคราม” 

“ผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลแล้ว” ไบเดนกล่าวกับสื่อมวลชนในหสรัฐ

ไบเดนบอกแสดงความเห็นอีกว่า แต่คำถามก็คือ กฎหมายของศาลอาญาระหว่างประเทศไม่ได้รับการยอมรับจากทุกประเทศ ซึ่งความหมายของเขาคือการตั้งคำถามว่าอาจจะทำให้ดำเนินการกับปูตินไม่สำเร็จ แต่เขาก็คิดว่า กฎหมายระหว่างประเทศที่ ICC ใช้ออกหมายจับปูตินเป็นจุดแข็งมาก (สำหรับต้านการก่อสงครามของรัสเซีย)


ความเคลื่อนไหวของ ICC มีขึ้นก่อนแผนการเยือนรัสเซียในสัปดาห์หน้าของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของจีน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลรัสเซียกับตะวันตกแตะระดับต่ำสุดใหม่