หมดยุคโลกร้อนเข้าสู่ยุคโลกเดือด UN เตือนกรกฎาคมนี้ร้อนสุดในประวัติศาสตร์

อากาศร้อน โลกร้อน
Photo by Frederic J. BROWN / AFP

“ยุคโลกร้อนได้สิ้นสุดลงแล้ว และยุคโลกเดือดได้มาถึงแล้ว” อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) กล่าวเน้นย้ำตามที่นักวิทยาศาสตร์ได้ยืนยันว่าเดือนกรกฎาคม 2023 นี้โลกร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ และเรียกร้องให้ผู้นำทั่วโลกแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศอย่างเร่งด่วน 

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2023 อันโตนิโอ กูเตร์เรส (António Guterres) เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) กล่าวในการแถลงข่าวว่า “ยุคโลกร้อนได้สิ้นสุดลงแล้ว และยุคโลกเดือด (global boiling) ได้มาถึงแล้ว” เป็นการเน้นย้ำตามที่นักวิทยาศาสตร์ได้ยืนยันก่อนหน้านี้ ว่าเดือนกรกฎาคม 2023 นี้เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์โลก 

รายงานขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ของสหประชาชาติ และโครงการสังเกตการณ์ Copernicus Earth ของสหภาพยุโรประบุว่า อุณหภูมิโลกในเดือนกรกฎาคมปีนี้ทำลายสถิติอุณภูมิโลกสูงสุดตลอดกาล และ ดร.คาร์สเทน เฮาสไตน์ (Karsten Haustein) นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศแห่งมหาวิทยาลัยไลป์ซิก แถลงข่าวเมื่อวันพุธที่ 26 กรกฎาคมว่า เดือนกรกฎาคม 2023 มีแนวโน้มว่าเป็นช่วงที่อากาศร้อนที่สุดในรอบ 120,000 ปี

อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN)
อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (Photo by Ed JONES/AFP)


“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่ที่นี่ มันน่ากลัวมาก และมันเพิ่งจุดเริ่มต้นเท่านั้น” กูเตร์เรสกล่าว แต่เขาบอกว่ายังเป็นไปได้ที่การจำกัดอุณหภูมิโลกให้สูงขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส [จากระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม] และหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อมีการดำเนินการด้านสภาพอากาศอย่างเร่งด่วนเท่านั้น 

“สำหรับพื้นที่ส่วนใหญ่ของอเมริกาเหนือ เอเชีย แอฟริกา และยุโรป มันเป็นฤดูร้อนที่โหดร้าย สำหรับโลกทั้งใบ มันคือหายนะ และสำหรับนักวิทยาศาสตร์ มันเป็นเรื่องที่ชัดเจนว่า มนุษย์ต้องถูกตำหนิ” 

กูเตร์เรสเรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายดำเนินการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว 

“สภาพอากาศไม่เหมาะที่จะหายใจ ความร้อนก็อยู่ในระดับที่ทนไม่ได้ ระดับของผลกำไรที่ได้มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และการเมินเฉยสภาพต่อปัญหาสภาพอากาศ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ผู้นำต้องเป็นผู้นำ ต้องไม่ลังเลอีกต่อไป ไม่มีข้อแก้ตัวอีกต่อไป ไม่ต้องรอให้ผู้อื่นเคลื่อนไหวก่อนอีกต่อไป ไม่มีเวลาอีกแล้วสำหรับสิ่งนั้น” เลขาธิการองค์การสหประชาชาติกล่าว