โตโยต้า มอเตอร์ (Toyota Motor) กำไรจากการดำเนินงานงวดเมษายน-มิถุนายน 2023 พุ่งขึ้นมากถึง 93.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) ส่วนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 78% แม้รายได้จากการดำเนินงานในเอเชียและจีนลด
วันที่ 1 สิงหาคม 2023 สำนักข่าวในญี่ปุ่นรายงานว่า โตโยต้า มอเตอร์ (Toyota Motor) รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 (เมษายน-มิถุนายน) ปีงบการเงิน 2023 ว่า มีกำไรจากการดำเนินงาน (operating profit) อยู่ที่ 1.1 ล้านล้านเยน (ประมาณ 260,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 93.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) และกำไรสุทธิ (net profit) อยู่ที่ 1.31 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 78% จากปีก่อนหน้า ส่วนรายรับ (revenue) อยู่ที่ 10.5 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 24.2%
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นมากเป็นผลมาจากปัญหาขาดแคลนชิปลดลง และความพยายามปรับปรุงการผลิตช่วยเพิ่มยอดขายทั่วโลก บวกกับราคารถยนต์ในทวีปเอมริกาเหนือและยุโรปเพิ่มขึ้น อีกทั้งได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยนทำให้รายได้ในหน่วยเงินเยนสูงขึ้น ซึ่งโตโยต้าบอกเองว่า ทุก ๆ 1 เยนที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนต่อเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ช่วยเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานของโตโยต้า 45,000 ล้านเยน
กำไรของโตโยต้าในไตรมาสดังกล่าวนี้ เป็นสถิติกำไรรายไตรมาสสูงสุดของบริษัทญี่ปุ่น และเป็นแรงส่งให้ราคาหุ้นของโตโยต้าเพิ่มขึ้น 3.3% เป็น 2,464 เยนต่อหุ้น ณ จุดสูงสุดช่วงหนึ่งของการซื้อขายในวันอังคารที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2022
โตโยต้าขายรถยนต์ได้รวม 2.3 ล้านคันในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2023 เพิ่มขึ้น 15.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY)
ถ้าพิจารณายอดขายลงรายละเอียดตามพื้นที่การขาย ยอดขายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมากที่สุด 32% จำนวนรวม 532,000 คัน
ขณะที่ยอดขายในเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นและจีนอยู่ที่ 417,000 คัน เพิ่มขึ้น 15.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) แต่รายได้จากการดำเนินงาน (operating income) ในเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นและจีนอยู่ที่ 186,900 ล้านเยน ลดลง 2.8% จากปีก่อนหน้า (YOY)
ส่วนยอดขายในประเทศจีนอยู่ที่ 499,000 คัน เพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY)
โตโยต้ากล่าวถึงการดำเนินธุรกิจในจีนว่า แม้ว่าสภาพแวดล้อมการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของแบรนด์ท้องถิ่น แต่ยอดขายรถยนต์แบรนด์โยโยต้า (Toyota) และเลกซัส (Lexus) ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้จำนวนหน่วยยอดขายในจีนเพิ่มขึ้น แต่รายได้จากการดำเนินงานของบริษัทรวมบริษัทย่อยในประเทศจีนลดลง 25% เหลือ 53,600 ล้านเยน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
โตโยต้าซึ่งกำลังพยายามไล่ตามตลาดรถยนต์ของจีนที่เพิ่มการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว ได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2023 ว่า จะรวมส่วนงานวิจัยและพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าในจีนเข้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ฮิโรกิ นากาจิมะ (Hiroki Nakajima) รองประธานบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ บอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 ว่า การเร่งการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตภายในประเทศจีน และการได้รับความร่วมมือจากซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นเป็นกุญแจสำคัญที่จะส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าชาวจีนได้อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ โตโยต้านั้นยังตามหลังในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า จากยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของโตโยต้าและเลกซัสรวมกัน เป็นยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 29,000 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 7 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) และขณะนี้โตโยต้ากำลังทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายชั่วคราวที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ปีละ 1.5 ล้านภายในปี 2026
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โตโยต้าตั้งเป้าจะขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 202,000 คันในปีงบการเงิน 2023 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2024 ซึ่งเซจิ ซูกิอูระ (Seiji Sugiura) นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยโตไกโตเกียว (Tokai Tokyo Research Institute) วิเคราะห์ว่า โตโยต้าจะทำสำเร็จหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของธุรกิจในประเทศจีน
ทั้งนี้ โตโยต้ามีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 2 รุ่นที่ผลิตในประเทศจีนในปี 2024
สำหรับทั้งปีงบการเงิน 2023 นี้ โตโยต้าคงประมาณการกำไรสุทธิ (net profit) ไว้ที่ 2.58 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 5.2% จากปีก่อนหน้า ส่วนรายได้จากการดำเนินงาน (operating income) ตั้งเป้าไว้ 3 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 10.1% และรายรับ (revenue) 38 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 2.3%
