Moody’s ลดเครดิต 10 ธนาคารสหรัฐ คำเตือนถึงหลายความเสี่ยงที่จะรุนแรงขึ้น

Moody’s ลดเครดิตธนาคารสหรัฐ

Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ 10 ธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกา พร้อมบอกว่าธนาคารรายใหญ่บางธนาคารอยู่ในลิสต์ที่กำลังพิจารณาปรับลดอันดับเครดิตด้วย ซึ่งนี่เป็นคำเตือนแรกของหลายความเสี่ยงที่กำลังจะก่อผลเสียต่อธุรกิจธนาคารในวงกว้างขึ้น 

Moody’s (มูดี้ส์) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ที่สุดของโลกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารขนาดเล็กถึงขนาดกลางในสหรัฐอเมริกาจำนวน 10 ราย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2023 พร้อมกับบอกว่าธนาคารรายใหญ่บางธนาคารอยู่ในลิสต์ที่กำลังพิจารณาซึ่งอาจจะถูกปรับลดอันดับเครดิตด้วย  

Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตของธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลาง 10 ธนาคารลง 1 อันดับ เช่น M&T Bank, Pinnacle Financial Partners, Prosperity Bank, BOK Financial Corp และ Webster Financial

พร้อมกันนี้ มีธนาคารขนาดใหญ่ 6 ธนาคารที่ถูกนำเข้าสู่การพิจารณาทบทวนซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลดอันดับเครดิต ได้แก่ Bank of New York Mellon, U.S. Bancorp, State Street, Truist Financial, Cullen/Frost Bankers และ Northern Trust

นอกจากนั้น Moody’s ยังเปลี่ยนแนวโน้ม (outlook) อันดับเครดิตของธนาคารรายใหญ่ 11 ธนาคารเป็นลบด้วย อย่างเช่น Capital One, Citizens Financial และ Fifth Third Bancorp  

รายงานของ Moody’s มาพร้อมคำเตือนหลายประเด็นที่สะท้อนให้เห็นว่า การปรับลดเครดิตธนาคารสหรัฐ 10 แห่งนี้เป็นเพียงคำเตือนแรก ๆ ของหลายความเสี่ยงที่มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่ากำลังจะก่อผลเสียต่อธุรกิจธนาคารในวงกว้างขึ้น 

นักวิเคราะห์ของ Moody’s เขียนในบันทึกการวิจัยว่า ธนาคารสหรัฐยังคงต่อสู้กับความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย และการบริหารสินทรัพย์และหนี้สิน (ALM) ซึ่งมีผลกระทบต่อสภาพคล่องและเงินทุน 

“ในขณะเดียวกัน ผลประกอบการไตรมาส 2 ของธนาคารหลายแห่งแสดงให้เห็นถึงแรงกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะลดความสามารถในการสร้างทุนภายใน (internal capital) สิ่งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างอ่อน ๆ ของสหรัฐกำลังจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2024 และคุณภาพสินทรัพย์มีแนวโน้มลดลงจากระดับที่แข็งแกร่งแต่ไม่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (CRE) ของบางธนาคาร” 

ธนาคารในภูมิภาคของสหรัฐถูกจับตามองอย่างมากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลังจากการล่มสลายของ Silicon Valley Bank และ Signature Bank ซึ่งทำให้เกิดวิกฤตความเชื่อมั่นในภาคการธนาคารของสหรัฐ นำไปสู่การแห่ถอนเงินฝากของธนาคารระดับท้องถิ่นหลายแห่ง 

แม้ว่าทางการจะใช้มีมาตรการฉุกเฉิน เพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นอย่างรวดเร็วก็ตาม แต่ Moody’s เตือนว่าธนาคารที่มีผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจำนวนมาก ซึ่งไม่ได้สะท้อนอยู่ในอัตราส่วนเงินกองทุน (capital ratio) ของธนาคารตามกฎระเบียบบังคับนั้น มีความเสี่ยงที่จะอ่อนไหวต่อความสูญเสียตลาดหรือความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอย่างกะทันหันในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยสูง

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากในช่วงปีกว่าที่ผ่านมา เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงมาก ล่าสุด เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นเป็นระดับ 5.25%-5.5% และยังไม่ชัดเจนว่าจะหยุดอยู่เพียงเท่านี้ หรือจะปรับขึ้นต่ออีก 

Moody’s คาดว่า ความเสี่ยงของการบริหารสินทรัพย์และหนี้สิน (ALM) ของธนาคารพาณิชย์จะรุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ตลอดจนการลดลงอย่างต่อเนื่องของเงินสำรองในระบบธนาคารของเฟดและเงินฝาก เนื่องจากมาตรการเข้มงวดเชิงปริมาณ (QT) ที่กำลังดำเนินอยู่ 

“อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะยังคงสูงขึ้นไปอีกนาน จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่ช่วงเป้าหมายของเฟด และตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ อัตราดอกเบี้ยระยะยาวของสหรัฐก็ขยับสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งจะสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อสินทรัพย์ของธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่” 

Moody’s ตั้งข้อสังเกตว่า ธนาคารท้องถิ่นมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีทุนจดทะเบียนค่อนข้างต่ำ และบอกอีกว่า ธนาคารที่ในงบดุลมีสัดส่วนสินทรัพย์ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่สูง จะมีข้อจำกัดมากกว่าในแง่ความสามารถในการทำกำไร และความสามารถในการเพิ่มทุนและปล่อยสินเชื่อ

“ความเสี่ยงอาจเด่นชัดมากขึ้นหากสหรัฐเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเราคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2024 เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์จะแย่ลง และความเป็นไปได้ที่จะเกิดการกร่อนของเงินทุนจะเพิ่มขึ้น” นักวิเคราะห์ของ Moody’s กล่าวเสริม

แม้ว่าความเสี่ยงของธนาคารสหรัฐส่วนใหญ่จะกระจุกอยู่ที่เรื่องการระดมทุน และความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น แต่ Moody’s เตือนว่าปัญหา “คุณภาพสินทรัพย์แย่ลง” กำลังจะเกิดขึ้น 

“เรายังคงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะถดถอยอย่างอ่อน ๆ ในต้นปี 2024 และเมื่อพิจารณาจากความตึงเครียดด้านเงินทุนในภาคการธนาคารของสหรัฐ มีความเป็นไปได้ที่เงื่อนไขสินเชื่อจะเข้มงวดขึ้น และการสูญเสียเงินกู้ของธนาคารสหรัฐจะเพิ่มขึ้น” Moody’s กล่าว 

อ้างอิง : 

อ่านเนื้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง