จีน-สหรัฐเพิ่มเที่ยวบินเป็นสองเท่า หลังจีนอนุญาตกรุ๊ปทัวร์ออกนอกได้อีก 78 ประเทศ

สายการบินสหรัฐ สนามบินสหรัฐ
สนามบินนานาชาติฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย(Photo by Daniel SLIM / AFP)

จีน-สหรัฐ อนุมัติเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกันเป็นสองเท่าของที่เปิดทำการบินในปัจจุบัน รับประกาศรัฐบาลจีนอนุญาตให้จัดกรุ๊ปทัวร์ขาออกได้เพิ่มอีก 78 ประเทศ ครอบคลุมหลายประเทศเศรษฐกิจสำคัญ ๆ ของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย  

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2023 รัฐบาลจีนยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางท่องเที่ยวแบบหมู่คณะที่บังคับใช้กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกอีก 78 ประเทศ ครอบคลุมหลายประเทศเศรษฐกิจสำคัญ ๆ ของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย กล่าวคือรัฐบาลจีนอนุญาตให้จัดกรุ๊ปทัวร์ออกไปยัง 78 ประเทศตามประกาศล่าสุดนี้ได้ 

การประกาศยกเลิกข้อจำกัดครั้งนี้ของจีน นับเป็นการประกาศอนุญาตกรุ๊ปทัวร์ขาออกรอบที่ 3 หลังจากที่ก่อนหน้านี้อนุญาต 2 รอบ รวม 60 ประเทศ ส่งผลให้ตอนนี้จีนอนุญาตให้จัดกรุ๊ปทัวร์ออกไปยังต่างประเทศได้แล้วรวม 138 ประเทศ/เขตการปกครอง จากเดิมที่จำกัดการเดินทางแบบหมู่คณะทุกจุดหมายปลายทางในช่วงปิดพรมแดนควบคุมโรคระบาดโควิด-19

ล่าสุด สำนักข่าวเซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ (South China Morning Post) รายงานว่า ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2023 ว่า สหรัฐและจีนจะอนุมัติเพิ่มเที่ยวบินโดยสารระหว่างกันเป็นสองเท่าของจำนวนเที่ยวบินโดยสารที่อนุญาตให้สายการบินทำการบินระหว่างสองประเทศในปัจจุบัน  

กรมการขนส่งสหรัฐ (USDOT) บอกรายละเอียดว่า สหรัฐจะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินโดยสารจากประเทศจีนเข้ายังสหรัฐเป็น 18 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2023 และเพิ่มเป็น 24 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2023 จากปัจจุบันที่มีเที่ยวบินทำการบิน 12 เที่ยวต่อสัปดาห์ ส่วนฝั่งรัฐบาลจีนก็จะอนุมัติให้เพิ่มเที่ยวบินของสายการบินอเมริกันเข้าจีนในจำนวนเท่ากัน 

กรมการขนส่งของสหรัฐ (USDOT) กล่าวว่า หลังจากที่แอนโทนี่ บลิงเคน (Antony Blinken) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเดินทางไปจีนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นำมาสู่การทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องระหว่าง USDOT และกระทรวงการต่างประเทศกับเจ้าหน้าที่ของทางการจีน ซึ่ง “ทำให้ก้าวสำคัญนี้เป็นไปได้”  

“เป้าหมายสำคัญของเราคือ การปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่ผู้ให้บริการของทั้งสองฝ่ายสามารถใช้สิทธิตามข้อตกลงทวิภาคีอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาสมดุลการแข่งขันและโอกาสที่ยุติธรรมและเท่าเทียมกันระหว่างผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศของสหรัฐและจีน” USDOT กล่าว 

ด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันกล่าวว่า เที่ยวบินตรงระหว่างจีนกับสหรัฐเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเพิ่มการเดินทางเยือนระหว่างชาวจีนและชาวอเมริกัน ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูตจีนหวังว่าการฟื้นฟูเที่ยวบินเพิ่มเติมจะส่งผลดีต่อการไหลเวียนของผู้คนและการค้าระหว่างสองประเทศ 

ถึงอย่างนั้นก็ตาม การเพิ่มเที่ยวบินโดยสารเป็น 24 เที่ยวต่อสัปดาห์ ยังคงเป็นเพียงเศษเสี้ยวของสถานการณ์ปกติก่อนโควิด-19 ในต้นปี 2020 ที่มีจำนวนเที่ยวบินไป-กลับมากกว่า 150 เที่ยว 

ทั้งนี้ สายการบินของจีนที่เปิดให้บริการเที่ยวบินโดยสารไปยังสหรัฐอเมริกาอยู่ในตอนนี้ ได้แก่ ไชน่า อีสเทิร์น (China Eastern), เซี่ยเหมิน แอร์ไลน์ส (Xiamen Airlines) และไชน่า เซาท์เทิร์น (China Southern) ส่วนฝั่งสายการบินสหรัฐที่ให้บริการเที่ยวบินโดยสารไปยังจีน ได้แก่ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส (United Airlines), อเมริกัน แอร์ไลน์ส  (American Airlines) และ เดลตา แอร์ไลน์ส (Delta Air Lines) 

ขณะที่สายการบินแอร์ไชน่า (Air China) กล่าวในเอกสารที่ยื่นต่อ USDOT เมื่อที่ 10 สิงหาคมว่า กำลังขออนุญาตเปิดเที่ยวบินรายสัปดาห์เส้นทางใหม่ระหว่างกรุงปักกิ่งของจีนกับนครลอสแองเจลิส ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐ 

ด้านยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส กล่าวว่า จะเพิ่มเที่ยวบินระหว่างสหรัฐกับจีนภายใต้ข้อตกลงนี้ โดยจะกลับมาเปิดให้บริการเที่ยวบินสู่ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้อีกครั้ง 

แอร์ไลน์ส ฟอร์ อเมริกา (Airlines for America) ซึ่งเป็นสมาคมธุรกิจสายการบินในสหรัฐอเมริกากล่าวว่า สนับสนุนการเปิดให้บริการเที่ยวบินโดยสารระหว่างสหรัฐและจีนอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป 

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวของ “เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์” กล่าวว่า สายการบินของสหรัฐไม่คาดว่าจะใช้ประโยชน์จากการอนุญาตเพิ่มเที่ยวบินได้ในทันที โดยไม่ได้อธิบายรายละเอียดและเหตุผล 

ทั้งนี้ เหตุผลส่วนหนึ่งที่สายการบินสหรัฐอาจจะไม่สามารถเพิ่มเที่ยวบินได้ในทันทีที่ข้อตกลงนี้มีผล อาจจะเกี่ยวกับอุปสรรคที่มีอยู่ก่อนหน้านี้คือ สายการบินสหรัฐไม่สามารถบินข้ามน่านฟ้ารัสเซียไปยังจีนได้ การปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินทำให้สายการบินต้องบินในระยะทางที่ไกลขึ้น และต้นทุนการบินสูงขึ้น ส่วนฝั่งสายการบินจีนที่จะบินไป-กลับสหรัฐก็หลีกเลี่ยงการบินผ่าน่านฟ้ารัสเซียเช่นกัน แต่เที่ยวบินของจีนที่บินระหว่างประเทศอื่น ๆ ยังคงบินผ่านน่านฟ้ารัสเซียตามปกติ