
ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) เตือน หากสงครามอิสราเอล-ฮามาสลุกลามเป็นสงครามภูมิภาคตะวันออกกลาง จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ซ้ำเติมการค้าโลกที่สภาพ “ค่อนข้างน่ากลัว” อยู่แล้วตั้งแต่ยังไม่มีสงคราม เนื่องจากอุปสงค์ต่ำทั่วโลก
ซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2023 ตามเวลา EDT สหรัฐว่า เอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวียลา (Ngozi Okonjo-Iweala) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) เตือนว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮามาสที่กำลังดำเนินอยู่ จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก หากความขัดแย้งดังกล่าวลุกลามกว้างขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
- เช็กที่นี่ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนธันวาคม 2566 เงินเข้าวันไหน
- เปิดค่าตอบแทน “ผู้บริหาร” ยักษ์ บจ. BBL จ่ายพันล้านต่อปี ทิ้งห่างคู่แข่ง
ในการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีระหว่างเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีการค้าของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ (G7) ในเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ผู้อำนวยการใหญ่ WTO กล่าวถึงสงครามอิสราเอล-ฮามาสว่า “ถ้ามันแพร่กระจายเกินกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไปยังส่วนที่เหลือของตะวันออกกลาง มันก็จะมีผลกระทบ”
เธอบอกว่าต้องไม่ลืมว่าภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นแหล่งพลังงานปริมาณมากของโลกทั้งก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน ซึ่งยังคงเป็นเชื้อเพลิงที่มีการใช้งานอยู่มากและใช้งานอยู่ทั่วโลก ดังนั้น หากสงครามลุกลามเป็นสงครามระดับภูมิภาค ทั่วโลกจะเห็นผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและการค้าโลก
“เราหวังว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น เรากำลังสวดภาวนาขอการลดความรุนแรงและสันติภาพ” เธอบอกกับผู้สื่อข่าวซีเอ็นบีซี
ผู้อำนวยการใหญ่ WTO พูดในเรื่องการค้าโลกว่า การเติบโตของการค้านั้นค่อนข้างน่ากลัวอยู่แล้ว เป็นทุนเดิมตั้งแต่ยังไม่มีสงครามนี้ เนื่องจาก “อุปสงค์โดยรวมที่ลดลงทั่วทั้งกระดาน”
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนเกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาส WTO ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของการค้าในปี 2023 ลง ท่ามกลางการชะลอตัวของการผลิตทั่วโลก ที่ยังดำเนินต่อเนื่องตั้งแต่ที่เริ่มขึ้นในไตรมาส 4 ของปี 2022
คาดการณ์การค้าโลกที่ปรับปรุงล่าสุดของ WTO คาดว่าปริมาณการค้าสินค้าทั่วโลกในปี 2023 นี้จะเติบโตเพียง 0.8% ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนเมษายน 2023 ที่คาดว่าจะโต 1.7% ส่วนปี 2024 WTO คาดการณ์การเติบโตไว้ที่ 3.3% แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์เมื่อเดือนเมษายนที่คาดว่าจะโต 3.2%
“การฟื้นตัวของประเทศจีนหลังการระบาดใหญ่ยังไม่แข็งแกร่งอย่างที่เราหวังไว้ เรามีวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน การเติบโตของสหภาพยุโรปช้ากว่าที่เราคาดไว้” ผู้อำนวยการใหญ่ WTO กล่าวถึงปัจจัยลบที่ฉุดรั้งการเติบโตของการค้าทั่วโลก
“สหรัฐดูเหมือนจะไปได้ดี แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องอุปสงค์โดยรวมที่ร่วงลงทั่วกระดานในภูมิภาคส่วนใหญ่ [ของประเทศ] และทั้งสองภาคส่วน และอัตราเงินเฟ้อที่คงอยู่โดยที่อัตราดอกเบี้ยจะสูงเป็นเวลานาน” เธอกล่าวเสริม