
ในช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด ผู้คนมีเงินเหลือจากการที่ไม่สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ จึงนำเงินที่เหลือไปลงทุนในการลงทุนทางเลือกต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในทางเลือกการลงทุนที่ได้รับความนิยมก็คือ ลงทุนในนาฬิกาหรู
จากเดิมที่มีราคาสูงอยู่แล้ว เมื่อเงินลงทุนหลั่งไหลเข้าสู่ตลาดนี้มากขึ้น นาฬิกาหรูในตลาดมือสองจึงมีราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
- MOTOR EXPO 2023 ยอดขายรถ 4 วันแรกทะลุ 8,300 คัน
- สพฐ.ประกาศหยุดเรียน 4-8 ธ.ค.ให้นักเรียน ม.ปลายเตรียมสอบ TGAT/TPAT
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
WatchCharts Overall Market Index ดัชนีราคานาฬิกาหรูในตลาดมือสองซึ่งติดตามราคานาฬิกาหรู 60 รุ่นที่มีราคาซื้อขายสูงสุด แสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาซึ่งแสดงเป็นราคาเฉลี่ยขึ้นสู่จุดสูงสุดในวันที่ 11 มีนาคม 2022 ที่ 47,259 ดอลลาร์สหรัฐ
แต่หลังจากนั้น ดัชนีราคานาฬิกาหรูก็ลดลงอย่างรวดเร็วไม่แพ้ตอนขาขึ้น ยิ่งนาฬิการุ่นไหนที่ราคาสูงมากก็ยิ่งราคาลดลงมาก ซึ่งเราเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่าเป็น “ภาวะนาฬิกาหรูราคาถดถอย”
จากที่ “ประชาชาติธุรกิจ” สำรวจ WatchCharts Overall Market Index ล่าสุดพบว่า ดัชนีราคา (ซึ่งแสดงเป็นราคาเฉลี่ย) ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 อยู่ที่ 29,880 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นลดลงแล้ว 36.78% จากจุดสูงสุดในวันที่ 11 มีนาคม 2022

นอกจากนั้น มีข้อมูลจากข่าวของบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ที่รายงานเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2023 ว่า ยังมีแนวโน้มว่าราคานาฬิกาหรูจะลดลงต่อไป เนื่องจากความต้องการซื้อ (demand) นาฬิการาคาสูง ๆ ยังคงลดลงท่ามกลางความต้องการขาย (supply) ที่เพิ่มขึ้น
บลูมเบิร์กใช้ข้อมูลจาก Bloomberg Subdial Watch Index ซึ่งเป็นดัชนีราคานาฬิกาข้อมือที่มีราคาซื้อขายในตลาดรองสูงที่สุด 50 อันดับแรกมานำเสนอ โดยระบุว่า ดัชนีดังกล่าวลดลง 1.8% ในเดือนตุลาคม 2023 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2021 และลดลงมากถึง 42% จากระดับสูงสุดของดัชนีนี้ซึ่งมีจุดสูงสุดในเดือนเมษายน 2022 พร้อมกับข้อมูลจากคริสตีย์ เดวิส (Christy Davis) ผู้ร่วมก่อตั้ง “ซับไดอัล” (Subdial) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายนาฬิกาในสหราชอาณาจักรที่กล่าวว่า ยังมีสัญญาณว่าราคานาฬิกาหรูจะอ่อนตัวลงอีก นั่นคือพบว่ามีความต้องการขายเพิ่มขึ้น และตัวแทนจำหน่ายนาฬิกามือสองต้องใช้เวลานานขึ้นในการขายนาฬิกาแต่ละเรือนที่ประกาศขาย
ถึงอย่างนั้นก็ตาม เมื่อเทียบย้อนกลับไป 3 ปี พบว่า WatchCharts Overall Market Index หรือดัชนีราคารวมของนาฬิกาทั้ง 60 รุ่น ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 ให้ผลตอบแทนเป็น “บวก” อยู่ 10.6% กล่าวคือ ถึงแม้ว่านาฬิกาหรูกำลังอยู่ในช่วงฟองสบู่แตก แต่ก็ยังไม่ได้สูญเสียมูลค่าลงไปถึงจุด “ขาดทุน” เมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้น
จากปรากฏการณ์ที่น่าสนใจนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” อยากชวนมาดูว่านาฬิกาหรู 10 รุ่นที่ราคาร่วงลงแรงที่สุดในช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา (เริ่มจากวันที่ 21 พฤษภาคมถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023) มีรุ่นไหนจากแบรนด์ใดบ้าง
การจัดอันดับนี้ใช้ข้อมูลจาก WatchCharts Overall Market Index เรียงจากรุ่นที่ราคาลดลงในเปอร์เซ็นต์ที่มากที่สุดลดหลั่นลงไปจนครบ 10 อันดับ สำหรับเหตุผลที่เลือกดูย้อนแค่ 6 เดือนนั้น ขอบอกตรง ๆ เลยว่า เป็นเพราะเราสามารถเข้าถึงข้อมูลแบบไม่ต้องจ่ายเงินได้เพียง 6 เดือนย้อนหลังเท่านั้น
10 อันดับนาฬิกาหรูในตลาดมือสองที่ราคาร่วงแรงที่สุดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่…
อันดับ 1 : Patek Philippe Nautilus 5990/1A
ราคา ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 : 120,711 ดอลลาร์ ลดลง 16.1%
อันดับ 2 : Rolex Daytona 116506
ราคา ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 : 99,466 ดอลลาร์ ลดลง 15.5%
อันดับ 3 : Omega Speedmaster 310.32.42.50.02.001
ราคา ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 : 17,645 ดอลลาร์ ลดลง 14.3%
อันดับ 4 : Patek Philippe Nautilus 5712/1A
ราคา ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 : 96,228 ดอลลาร์ ลดลง 13.8%
อันดับ 5 : Audemars Piguet Royal Oak 15202ST
ราคา ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 : 60,868 ดอลลาร์ ลดลง 13.6%
อันดับ 6 : Vacheron Constantin Overseas Chronograph 550V/110A-B148
ราคา ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 : 32,858 ดอลลาร์ ลดลง 12.2%
อันดับ 7 : Audemars Piguet Royal Oak 15500ST
ราคา ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 : 37,656 ดอลลาร์ ลดลง 12.1%
อันดับ 8 : Patek Philippe Aquanaut 5167A
ราคา ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 : 50,122 ดอลลาร์ ลดลง 12.0%
อันดับ 9 : Vacheron Constantin Overseas Chronograph 7900V/110A-B334
ราคา ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 : 30,538 ดอลลาร์ ลดลง 12.0%
อันดับ 10 : Rolex Daytona 116505
ราคา ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 : 48,393 ดอลลาร์ ลดลง 11.8%